กกต.เผย ผลตรวจสอบ “นายทุนจีน” แปลงสัญชาติไทยแล้ว สามารถบริจาคเงินให้ “พปชร.” ได้ ขณะนี้จำนวนเงินไม่เกินกฎหมายกำหนด

กำลังเป็นที่น่าจับตาถึงกรณีที่มี “นายทุนจีน” บริจาคเงิน 3 ล้าน ให้กับ “พรรคพลังประชารัฐ” เมื่อปี2564 ว่าจะผิดกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง โดยเฉพาะมาตรา มาตรา 74 ระบุว่า ห้ามพรรคการเมืองรับเงินจากบุคคลที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย หรือไม่ เนื่องจากอาจนำไปสู่จาก “ยุบพรรค” ได้นั้น 

 เมื่อวันที่​ 28 ต.ค.65​ นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. และนายทะเบียนพรรคการเมือง เปิดเผยว่า ตั้งแต่ทราบข่าวเมื่อวานก็ได้ให้สำนักกิจการพรรคการเมืองดำเนินการตรวจสอบเบื้องต้น ซึ่งมี 3 ประเด็น คือ  

1.ผู้บริจาคมีสิทธิ์บริจาคหรือไม่ โดยดูจากตัวเลขตามบัตรประชาชน  

พบว่าเป็นผู้มีสัญชาติไทย ถือว่าเป็นผู้ที่สามารถบริจาคเงินให้กับพรรคการเมืองได้

 2.จำนวนเงินที่บริจาคพบว่าอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด    

 3.พรรคผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองรู้หรือควรจะรู้ว่าแหล่งที่มาของเงินชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ตรงนี้อยู่ในชั้นสำนักงานฯ ตรวจสอบ และเสนอเรื่องมายังนายทะเบียนพรรคการเมือง

สำหรับ พระราชบัญญัติ​ประกอบ​รัฐธรรมนูญ​ (พ.ร.ป.)​ว่าด้วยพรรคการเมือง ได้กำหนดเรื่องการ “บริจาคเงิน” ให้กับพรรคการเมืองไว้ โดยต้องไม่เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา 74 จำนวนเงินที่บริจาคต้องไม่เกิน 10 ล้านบาท เมื่อทุกพรรคการเมืองได้รับบริจาค ก็จะตรวจสอบเบื้องต้นว่า ผู้บริจาคเป็นผู้ที่สามารถบริจาคเงินให้กับพรรคได้หรือไม่ และเงินที่บริจาคอยู่ในเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ จากนั้นจะติดประกาศรายละเอียดการรับบริจาคไว้ที่ทำการของพรรค และส่งให้สำนักงาน กกต. ประกาศให้สาธารณชนรับรู้

 

ส่วนกรณีของพรรคพลังประชารัฐ หากทราบภายหลังมารู้ว่าเงินที่ได้รับมาไม่ถูกต้องจะทำอย่างไร นายแสวง กล่าวว่า ตัวกฎหมายเขียนไว้ชัดอยู่แล้ว ต้องตรวจสอบก่อน ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ขอให้ประชาชนสบายใจ เพราะกกต.ปฏิบัติเหมือนกันทุกพรรค และดำเนินการตรวจสอบด้วยความเป็นธรรม ทั้งกับพรรคและตัวผู้บริจาคเองเช่นกัน