ทักษิณ”ลั่นดันจีดีพี4-5%ไม่น่ายาก เร่งบูมอีสาน-ชี้ช่องพ้นความยากจน

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ที่หอประชุมราชภัฏรังสฤษฎ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ในงานสัมมนา ISAN NEXT : พลิกเศรษฐกิจไทย ฝ่าวิกฤตโลก จัดโดยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ร่วมกับ ‘เครือมติชน’ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขึ้นเวทีบรรยายพิเศษหัวข้อ ‘อนาคตอีสาน โอกาสประเทศไทย’ ระบุว่า สมัยตนเป็นนายกรัฐมนตรีเราใช้มหาวิทยาลัยเยอะ แม้กระทั่งการตั้งกองทุนหมู่บ้าน ก็ใช้นักศึกษาให้ไปสอนเขาทำบัญชี ให้หน่วยกิตระหว่างซัมเมอร์ เชื่อว่ามหาวิทยาลัยต่างๆ จะถูกความร่วมมือเพื่อที่จะได้แก้ปัญหา เจ้าภาพคงหนีไม่พ้นแต่ละจังหวัด เจ้าภาพน่าจะเป็นผู้ว่าราชการแต่ละจังหวัด หรือไม่ก็นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ต้องช่วยกันทำสิ่งเหล่านี้เพื่อให้คนอีสานมีความชำนาญ มีความรู้ มีโอกาสเข้าหาแหล่งผู้บริโภคโดยตรง

ส่วนเรื่องแหล่งทุนไม่ใช่เรื่องใหญ่ งานของคนอีสานเป็นงานไม่ได้ใช้เงินมาก ฉะนั้น แหล่งทุนจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่ อีกทั้ง วันนี้ประเทศไทยเป็นหนี้เยอะมากสูงยัน 60% กว่าของจีดีพี เรามีเพดานอยู่ที่ 70% ฉะนั้นหากจะกู้เงินอีกคงกู้ไม่ไหว รัฐบาลจึงต้องลดหนี้ด้วยการเพิ่มจีดีพี เป็นเรื่องพูดง่ายทำยาก แต่ต้องทำ จะเพิ่มจีดีพีได้ก็ต่อเมื่อเราต้องเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ เราเติมเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้น้อย เนื่องจากเราดูดเงินออกจากระบบเยอะ ตนคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการคลังและด้านกฎหมาย มองว่าที่ผ่านมารัฐบาลออกพันธบัตร ขายให้สถาบันการเงินเป็นส่วนใหญ่ ถึงเวลาก็รับดอกเบี้ยไป ไม่ได้ช่วยระบบเศรษฐกิจอะไรเลย บังเอิญว่าโดนัล ทรัมป์ ได้กลับเข้ามาเป็นประธานาธิบดีรอบที่ 2 และเอาจริงเอาจังเรื่องบิตคอยน์ การสร้างสกุลเงินใหม่ผ่านคริปโทเคอร์เรนซี่ ดังนั้น สหรัฐอเมริกากำลังเพิ่มเม็ดเงินเข้าไปสู่ระบบเศรษฐกิจในรูปแบบของคริปโต

“ถ้าเราไม่ทำก็ไม่ทันเขา แต่เราจะทำอย่างไรให้ประชาชนไม่เกิดความเสี่ยง พันธบัตรที่เราต้องทุกปี ปีละ 8 แสนล้านบาท นำเงินส่วนนั้นออกมาและไปสู่ระบบเศรษฐกิจดีหรือไม่ ผมบอกว่าให้ออกธนบัตร แล้วขายบุคคลทั่วไปดีหรือไม่ ให้อายุพันธบัตรสั้นลง เพื่อให้สามารถหมุนเวียนในตลาดได้ ออกมาในรูปแบบของเหรียญหรือคอยน์ เงินเหล่านี้จะตกไปอยู่ในเงินของประชาชน จะใช้ก็ได้ ไม่ใช้ก็ได้ หากไม่ใช้ก็ได้ดอกเบี้ย ใช้ก็มาหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจ ดีกว่าเอาไปไว้ที่สถาบัน แช่เอาไว้ แล้วถึงเวลาก็ได้ดอกเบี้ยเราไป จะนำมาใช้กับทุกภาคทั้งประเทศ เพื่อให้เม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากขึ้น ไม่เช่นนั้นจีดีพีเราไม่มีทางโต ทำนายกี่ครั้งก็ 2% ผมฟังแล้วทุเรศ ผมมองว่าต้องทำให้ถึง 4-5% ให้ได้ คิดว่าไม่น่ายากเกินไป เพื่อจะเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ภาคอีสานได้ด้วย” นายทักษิณ กล่าว

นายทักษิณ กล่าวว่า ส่วนเรื่องระบบทุนนิยมนั้น หากไม่มีทุนไม่มีทางก้าวหน้าได้ แต่อีสานเป็นภาคถูกดูดเงินออกไปจากภาคมากที่สุด ร้านค้าส่วนใหญ่สำนักงานใหญ่ที่อยู่กรุงเทพฯ เมื่อขายของได้ก็เก็บเงินส่งกรุงเทพฯ เงินที่หาได้ไม่ได้หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจอีสาน แต่กลับไปหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจกรุงเทพฯ ฉะนั้นเราต้องดึงเม็ดเงินมาหล่อเลี้ยงระบบเศรษฐกิจที่อีสานให้ได้ หากดึงไว้ไม่พอ ก็ต้องนำธนบัตรของรัฐบาลมาหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจอีสานต่อไป เป็นสิ่งเดียวที่คิดว่าไม่ต้องไปพิมพ์แบงก์ เราเอาหนี้ที่รัฐบาลต้องเป็น มาหมุนเวียนเป็นหนี้ประชาชนดีกว่า ให้ประชาชนได้ใช้ เมื่อเงินออกจากระบบภาคอีสานก็ทำให้การจ้างงานหายไป สังเกตได้ว่าคนอีสานต้องไปทำงานกรุงเทพฯ เพราะที่บ้านไม่มีงานทำ
นายทักษิณ กล่าวว่า ตนไปหลายที่ที่มีปู่ย่าตายายเลี้ยงหลานตัวเล็กๆ คนวัยทำงานไปอยู่กรุงเทพฯหมด ฉะนั้นคนเก่งและฉลาดหายตามเงินไปหมด ฉะนั้นจะขอดึงกลับมาภาคอีสาน เพื่อให้ภาคอีสานมีเงินหล่อเลี้ยงเศรษฐกิจและมีงานทำ คนอีสานจะได้อยู่กับครอบครัวเพื่อให้สังคมเข้มแข็งขึ้น ดีกว่าพ่อแม่ไม่อยู่ อยู่แต่ปู่ย่าตายาย เด็กโตขึ้นมาก็ติดยา เราต้องสร้างความแข็งแรงของระบบการศึกษาด้วย เหมือนที่นายกรัฐมนตรีเคยพูดไปไม่กี่วัน คือเมื่อเราได้เงินของลอตเตอรี่มา เราจะนำมาซื้อให้เด็กได้เรียนต่อ อีกส่วนจะนำไปทำซัมเมอร์แคมป์ ให้เด็กได้ไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือไม่ก็จ้างครูฝรั่งมาทำซัมเมอร์แคมป์ในประเทศไทย เพื่อให้เด็กไทยหรือเด็กอีสานได้เรียนกับครูฝรั่งบ้าง เพราะวันนี้โลกเป็นสากล ฉะนั้น จึงต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษรวมถึงวัฒนธรรมสากลทั้งหลาย เป็นสิ่งที่เราต้องรีบทำ การจะทำโรงเรียนสองภาษาจะต้องมาทำในภาคอีสานมากขึ้น

นายทักษิณ กล่าวว่า โรงเรียนต้นแบบเราเคยทำครั้งหนึ่งคือหนึ่งอำเภอ หนึ่งโรงเรียนในฝัน วันนี้เราจะทำอีกครั้ง แต่ต้องจ้างครูต่างประเทศมาช่วย อีกอย่างตนจะลองคือ ผู้หญิงอีสานทำไมถึงมีฝรั่งมาชอบเยอะแยะ เพราะความสวยของธรรมชาติ บางครั้งมีเสน่ห์ ถ้าเราจะประกวดคนอีสานไม่ผ่านการศัลยกรรมเลย แล้วนำคนอีสานผ่านการประกวดแล้วไปฝึกสอนให้เป็นนางแบบระดับโลกดีหรือไม่ จะสร้างรายได้อีกทางให้คนอีสาน เช่น คนผิวดำแอฟริกาเป็นนางแบบระดับโลก ทั้งหมดที่ตนพูดนั้น ขอเน้นคนอีสานก่อน

“ส่วนเรื่องพื้นที่อีสานด้านการเกษตรเป็นเรื่องต้องทำ แต่อีกเรื่องยังไม่ค่อยได้ทำคือ การสำรวจทรัพยากรธรรมชาติ อีสานน่าจะมีแร่ธาตุที่ดีหลายอย่าง อาจต้องทำโดยกระทรวงอุตสาหกรรม หรือเชิญชวนเอกชนมาร่วมทำ น่าจะเป็นช่องทางฟื้นอีสานให้พ้นความยากจนได้ คือการสร้างคนอีสานให้เข้มแข็ง มีความสมัยใหม่ ควบคุมเอไอได้ และเข้าใจเทคโนโลยี เพื่อพัฒนาความยากจนและสร้างเม็ดเงินให้เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของอีสาน เป็นสิ่งที่เราทำได้ แต่ต้องขอความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกคน จะต้องเริ่มฝึกและปรับปรุงคุณภาพของคนอีสาน เพื่อให้เขามีรายได้มากกว่ารายได้ขั้นต่ำที่เป็นแรงงานทั่วไป รวมถึงจะพัฒนาโอท็อปอีกครั้ง เพื่อให้เป็นโอท็อปสมัยใหม่ เพื่อให้ทำเงินให้คนอีสานได้อีกครั้ง โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการผลิต