แนวร่วมแดงตั้งโต๊ะล่าชื่อถอดกกต.กลางแยกราชประสงค์
“แนวร่วมแดง” หนุนพรรคเสียงข้างมากตั้งรัฐบาล จี้ทหารเลิกจุ้นการเมือง

เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 31 มี.ค. ที่บริเวณร้านแมคโดนัลด์ ราชประสงค์ นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ ฟอร์ด เส้นทางสีแดง นางสุดสงวน สุธีสร หรือ อ.ตุ้ม อดีตอาจารย์คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์ พร้อมด้วย นายเอกชัย หงส์กังวาน นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และกลุ่มกิจกรรมประชาชนอยากเลือกตั้ง ได้ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อเพื่อปลดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พร้อมประชาสัมพันธ์เชิญชวนประชาชนที่รักประชาธิปไตย รวมทั้งประชาชนที่สัญจรอยู่รอบบริเวณราชประสงค์ ร่วมลงชื่อเป็นผู้ร้องต่อ ปปช. ให้ถอดถอน กกต.จากการปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่โปร่งใส โดยขณะนี้มีประชาชนร่วมลงชื่อผ่านแบบรณรงค์ทางเว็บไซต์ Change.org จำนวนกว่า 8 แสนรายชื่อ โดยตั้งเป้าให้ครบ 1 ล้านรายชื่อเพื่อยื่นต่อ ปปช.ต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนทยอยร่วมลงชื่อถอดถอด กกต.อย่างต่อเนื่อง และมีการตั้งโต๊ะแจกขนมจีนกับประชาชนที่สัญจรรอบบริเวณ ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ประมาณ 60 นาย จาก สถานีตำรวจลุมพินี และกำลังเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน บกน. 5 จำนวน 1 หมวด 50 นาย ที่จะอยู่ประจำจุดจนกว่าจะเสร็จสิ้นกิจกรรม
โดยขณะที่กิจกรรมดำเนินไปนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเข้าเจรจากับนายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือฟอร์ด เส้นทางสีแดง

โดยนายอนุรักษ์ กล่าวว่า ได้อ่านคำประกาศชัยชนะของประชาชน โดยมีเนื้อหาว่า กลุ่มประชาชนอยากเลือกตั้งขอประกาศว่า 1.หลักในการคำนวณว่าพรรคการเมืองใดชนะเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยหรือต่างประเทศที่มีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย พรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งจะยึดจากจำนวนเสียงของ ส.ส.ที่ประชาชนเลือก (Electoral Votes) ไม่ใช่คะแนนความนิยมของพรรค (Popular Votes) จึงเป็นการชัดเจนที่ไม่ต้องสงสัยว่าพรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งเมื่อวันที่ 24 มี.ค.คือพรรคเพื่อไทยที่ได้ ส.ส.รวม 138 ที่นั่ง ชนะห่างพรรคพลังประชารัฐที่ได้ 118 ที่นั่งถึง 20 ที่นั่ง และเป็นชัยชนะที่กล่าวได้ว่าขาดลอย

2.พรรคการเมืองที่ชนะเลือกตั้งคือพรรคเพื่อไทยจะต้องเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาลโดยเลือกเชิญพรรคที่มีจุดยืนสนับสนุนประชาธิปไตยและแนวนโยบายที่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติมาตั้งรัฐบาลของประชาชน และพรรคพลังประชารัฐจะต้องยุติการเคลื่อนไหวปล่อยข่าวว่าตนเองชนะเลือกตั้ง พยายามแข่งขันจัดตั้งรัฐบาลแข่งกับพรรคเพื่อไทย สร้างความสับสนให้กับคนไทย การไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ และไม่ยอมรับหลักการประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่น่าละอาย พรรคการเมืองเช่นนี้ไม่มีความเหมาะสมที่จะเข้าไปทำงานในรัฐสภาไม่ว่าจะในฐานะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน

3.พรรคเพื่อไทยจะต้องเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีจากรายชื่อแคนดิเดตของพรรคที่มี 3 คนเท่านั้น ไม่ยกตำแหน่งนายกรัฐมนตรีที่ควรเป็นของพรรคเพื่อไทยให้กับพรรคการเมืองอื่น พรรคเพื่อไทยจะต้องเคารพการตัดสินใจของประชาชนที่ต้องการเห็นนายกรัฐมนตรีมาจากพรรคเพื่อไทย 4.นับจากวันที่ประชาชนประกาศชัยชนะนี้ ทหารทุกคนจะต้องเลิกแต่งเครื่องแบบออกมาข่มขู่คุกคามนักศึกษา ประชาชน ไม่ห้ามการแสดงออกความคิดเห็นทางการเมืองอีกต่อไป เพราะนั่นคือสิทธิ เสรีภาพ ของประชาชนที่ได้กลับคืนมาแล้วในวันที่มีการประกาศการเลือกตั้ง

ขอบคุณที่มา : https://www.dailynews.co.th/politics/701642