“เทวัญ”ร้องกกต.เรื่องใบปลิวโจมตีเรื่องส่วนตัว

วันนี้ 10 พฤษภาคม 2566 ที่สำนักงานพรรคชาติพัฒนากล้าเลขที่ 2222/2 ถ.มิตรภาพ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรคชาติพัฒนากล้า และผู้สมัคร ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 1 หมายเลข 5 จังหวัดนครราชสีมา ได้โชว์หนังสือร้องเรียนกรณีมีมือดีขับรถกระบะสีขาวตระเวณนำใบปลิวที่มีรูปภาพข้อความอันเป็นเท็จกล่าวหาใส่ร้ายป้ายสีในเรื่องส่วนตัวของตนเองไปวางไว้ที่บริเวณหน้าบ้านของผู้นำหมู่บ้านคนหนึ่งในตำบลโพธิ์กลาง อำเภอเมืองนครราชสีมาและยังส่งไปตามบ้านของประธานชุมชนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งอยู่ในเขตเลือกตั้งที่ตนเองลงสมัคร การกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ผิดกฏหมายเลือกตั้งอย่างชัดเจน ตนจึงได้มอบหมายให้ทนายความของพรรคนำหลักฐานเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง ท้องที่เกิดเหตุและแจ้งกับกกต.นครราชสีมาเพื่อให้สืบสวนสอบสวนตามกฏหมายซึ่งการกระทำเช่นนี้เป็นการให้ข้อมูลอันเป็นเท็จผิดกฏหมายเลือกตั้งถึงขั้นยุบพรรคได้

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา เขต 1 เบอร์ 5 พรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนวันเลือกตั้ง ปรากฏว่ามีผู้ไม่หวังดีได้ทำใบปลิวด้วยข้อความที่เป็นเท็จ โจมตีเรื่องส่วนตัว นำไปแจกจ่ายตามชุมชนต่างๆ หลายแห่ง โดยมีเป้าหมายทำให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับใบปลิวเกิดความเข้าใจผิด และยังมีการเขียนชี้นำไม่ให้เลือกตนเอง ซึ่งคาดว่าจะเป็นการโจมตีของคู่แข่งทางการเมือง เพราะใบปลิวออกมาแจกกันตอนช่วงเหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะเลือกตั้งกันแล้ว ตนจึงอยากฝากถึงพี่น้องประชาชนว่า การที่มีบุคคลนำเรื่องส่วนตัวซึ่งนานมาแล้ว และไม่ใช่เรื่องจริง มาโจมตีใส่ร้ายเพื่อให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดและไม่เลือกตนเช่นนี้ ควรจะเลิกกระทำได้แล้ว เพราะเป็นการเล่นการเมืองแบบสกปรกและโบราณมาก และตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนมีวิจารณญาณพอที่จะแยกแยะว่าอันไหนเรื่องจริงเรื่องเท็จ

อย่างไรก็ตามในเมื่อมีผู้ไม่ประสงค์ดีมาแจกใบปลิวใส่ร้ายป้ายสีตนเองเช่นนี้ ก็ต้องมาร้องเรียนขอให้ ก.ก.ต.นครราชสีมาได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนไต่สวนเพื่อหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ทำให้ตนเองหวั่นไหว ยังคงเดินหน้าหาเสียงกับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเสนอนโยบายของพรรคฯ ให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ

“ช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันเลือกตั้ง ซึ่งพี่น้องประชาชนในพื้นที่ก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดียิ่ง ตอนนี้ประชาชนหลายคนก็เรียก “พี่เทวัญ” เพราะมีความใกล้ชิดสนิทสนมกันเหมือนคนในครอบครัว ทำให้ตนเองมีขวัญกำลังใจในการลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเลย และไม่ได้หวั่นไหวแต่อย่างใด” นายเทวัญฯ กล่าว.