“สุวัจน์” เป็นประธานเปิดสนามเทนนิสระดับโลก “คริสตัลเทนนิสเซ็นเตอร์”

“สุวัจน์” เป็นประธานเปิดสนามเทนนิสระดับโลก “คริสตัลเทนนิสเซ็นเตอร์”

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดสนามเทนนิสแห่งใหม่ ที่บริเวณหมู่บ้าน คริสตัล ปาร์ค ใกล้ๆกับ The Crystal Shopping Centre บริเวณริมถนนเอกมัย-รามอินทรา โดยนายสุวัจน์ กล่าวว่าในฐานะที่คลุกคลีกับวงการเทนนิสมานาน รู้สึกดีใจ เพราะทุกวันนี้สนามเทนนิสหาเล่นยากมาก เนื่องจากที่ดินราคาสูง จึงไม่คุ้มกับการลงทุน ขณะเดียวกันสนามเทนนิสเก่าก็ถูกแปรสภาพไปเป็นออฟฟิศและคอนโดมิเนียมเกือบหมด ใครอยากจะเล่นเทนนิสก็ต้องออกไปชานเมือง ถึงจะหาสนามได้ จึงไม่แปลกใจที่เราเฝ้ารอคอยว่าเมื่อไรจะมีนักกีฬาเทนนิสรุ่นใหม่ๆ เข้ามาแทนที่รุ่นพี่ๆ อย่าง ภราดร ศรีชาพันธุ์ (อดีตมือ 9 ของโลก) แทมมี่ แทมมารีน ธนสุกาญจน์ (อดีตมือ 19 ของโลก) และดนัย อุดมโชค (อดีตมือ 77 ของโลก) ปัจจัยหนึ่งเพราะเราไม่มีสนามเทนนิสที่เพียงพอทั่วถึงสำหรับการออกกำลังกายและสร้างนักเทนนิสรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมา

นายสุวัจน์ บอกว่าในการสร้างนักกีฬาเทนนิสไปสู่ระดับโลกนั้น พื้นฐานที่สำคัญจะต้องมีสถานที่คือ สนามแข่งขันหรือสนามฝึกซ้อมเพื่อสร้างนักกีฬาจากระดับรากหญ้า คือ เยาวชนให้เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ถือเป็น Platform ที่สำคัญ จากนั้นก็ต้องมีผู้ฝึกสอนและโค้ชเก่งๆที่จะต้องมาต่อยอดการพัฒนาทักษะในการเล่นของนักกีฬา และก็ต้องมี tournament หรือการจัดการแข่งขันให้ผู้เล่นของเราได้เก็บคะแนนสะสม (Ranking) เพื่อจะได้มี RANKING สูงๆ สำหรับไปเล่นใน tournament ใหญ่ๆ ได้ เรายังไม่เข้มแข็งเรื่องเศรษฐกิจเพียงพอ นักกีฬาจะต้องเดินทางไปแข่งขันต่างประเทศเพื่อเก็บแต้มสะสมก็จะมีค่าใช้จ่ายแพง และเมื่อ Ranking เรายังต่ำอยู่ ก็จะเข้าแข่งขันได้เฉพาะรายการเล็กๆ แต่ถ้าเรามีการจัดการแข่งขัน tournament ในประเทศเกิดขึ้นเยอะๆ นักกีฬาไทยจะประหยัดค่าใช้จ่ายและมีโอกาสเข้าร่วมการแข่งขันมากขึ้น จะทำให้มี Ranking ที่สูงและสามารถเติบโตไปแข่งในระดับสูงขึ้นได้ง่าย เราต้องถอดแบบความสำเร็จของ Legend ของเราทั้ง 3 คน คือ ภราดร แทมมี่ และดนัย มาเป็นพื้นฐานใน
การพัฒนา

“สนามเทนนิส คริสตัล เทนนิสเซ็นเตอร์” ที่สร้างขึ้นนี้เป็นสนามในลักษณะในร่มเหมาะกับเมืองไทยที่ฝนตกและแดดร้อน และเป็นสนามที่สร้างตามมาตรฐานผิวสนาม ของรายการ US Open ที่ New York จะเป็นโอกาสอันดีที่จะทำให้นักกีฬาสามารถฝึกซ้อมเพิ่มความเคยชินกับทุกสภาพสนามเทนนิส คือคอร์ดแข็งแบบการแข่งขันที่ US Open และ Australian Open คอร์ดหญ้าแบบการแข่งขัน Wimbledon และคอร์ดดินแบบการแข่งขัน French Open ซึ่งเป็นสนามรายการหลักของ 4 Grand Slam Tournaments ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในการแข่งขันเทนนิสของโลก

“ผมขอชื่นชม KE Group ที่เป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประเทศ ที่ลงทุนและพัฒนาที่ดิน แล้วสร้างเป็นสนามเทนนิสมาตรฐานระดับโลก
ให้เกิดขึ้นในประเทศ เพื่อสร้างความสุขให้กับประชาชน และเป็นพื้นฐานในการสร้างนักกีฬาเทนนิสของประเทศไทยของเราให้สู่ระดับโลกต่อไป

“ในงานนี้ยังได้เจอกับตำนานทั้ง 3 คนในวงการเทนนิส ภราดร, แทมมี่ และดนัย ที่มาช่วยเปิดตัวโครงการและและแข่งโชว์ รวมทั้งจะช่วยเป็นผู้ฝึกสอน สร้างนักกีฬาเทนนิสรุ่นใหม่ให้เกิดขึ้น นี่คือ สปิริตของนักกีฬาที่ดีที่สมควรได้รับการยกย่องชมเชย”นายสุวัจน์ กล่าว

ภาพ: เรื่อง Crystal Sports