“สุวัจน์ ลิปตพัลลภ” ชี้การพัฒนาประเทศต้องมี “อารยสถาปัตย์” เพื่อความเสมอภาคเท่าเทียม และความยั่งยืน

ในงาน Thailand Friendly Design Expo 2022 : มหกรรมอารยสถาปัตย์ และนวัตกรรมสุขภาพเพื่อคนทั้งมวล ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 10-13 กุมภาพันธ์ 2565 ณ ฮอลล์ 101 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค-บางนา นอกจากจะมีนักธุรกิจ นักบริหาร ผู้ประกอบการ และผู้นำองค์กรชื่อดังต่างๆ ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชนเข้าร่วมงานอย่างมากมายแล้ว ยังมีบรรดานักการเมือง และผู้บริหารงานการเมืองระดับแกนนำสำคัญให้เกียรติเข้าเยี่ยมชมงานเพื่อเก็บข้อมูลประกอบการกำหนดนโยบายการบริหารประเทศในอนาคต หนึ่งในนั้น คือ นักการเมืองรุ่นใหญ่ ไฟกระพริบ คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีหลายสมัย

โดย คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้ขึ้นกล่าวบรรยายพิเศษถึงมุมมองเรื่องธุรกิจสุขภาพ และการเท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล กับโอกาสของประเทศาติในเวทีโลก เมื่อวันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ ณ เวทีกลาง ภายในงาน Thailand Friendly Design Expo 2022 ว่า การพัฒนาประเทศ ทุกคนต้องได้รับโอกาสและความเสมอภาคความเท่าเทียมกัน ผมชอบคำว่า “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ฉะนั้น เราจะพัฒนาสิ่งไหนเราต้องคิดเหมือนๆกัน ทุกคนต้องได้รับโอกาสเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นคนรวย คนจน คนปกติ หรือคนที่ขาดโอกาส ทุกคนต้องอยู่ในหลักการบนพื้นฐานความเสมอภาคที่เท่าเทียมกัน ถ้าเราทำให้เกิดความเสมอภาคเท่าเทียมกันได้ บ้านเมืองก็จะมีความสงบสุข มีความปรองดองกัน เพราะเรามีความเสมอภาคเท่ากัน เป็นหลักการสำคัญ ถ้าเกิดเราทำได้ ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมก็จะลดน้อยลง

“ตอนนี้ ทั่วโลกให้ความสำคัญในเรื่องการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ผมดีใจที่วันนี้เราได้มีการตอบสนอง ประเทศเรามีการพัฒนาเพื่อภาพลักษณ์ที่ดี มีความเป็นอยู่ที่ดี มีการพัฒนาไปทุกๆมิติ อย่างที่คุณกฤษนะได้ทำมาตลอด คือเรื่องของ Friendly Design หรือการออกแบบอารยสถาปัตย์เพื่อคนทั้งมวล ตอนนี้ ไปที่ไหนก็มีป้ายสัญลักษณ์บ่งบอกว่า มีทางลาด มีห้องน้ำ มีราวจับ เพื่อให้ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และมนุษย์ล้อสามารถเข้าถึงได้ ใช้บริการได้ แม้กระทั่งทางเท้า จะเห็นได้ชัดว่า ทุกคนสามารถเข้าใช้บริการได้จริง ที่สำคัญต้องปลอดภัย” คุณสุวัจน์กล่าว

อดีตรองนายกรัฐมนตรี มองว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบ้านเมืองเรามีการพัฒนาทางด้านอารยสถาปัตย์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นเรื่องที่ดี ที่ทุกภาคส่วนในสังคมมีความตื่นตัว ช่วยกันปรับปรุงและพัฒนาบ้านเมืองให้มีอารยสถาปัตย์เพื่อการเขาถึงได้ของคนทั้งมวล ซึ่งจะเป้นการประกาศความพร้อมของประเทศไทยในเรื่องของการลงทุนธุรกิจการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health & Wellness Tourism) และการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล (Tourism for All)

คุณสุวัจน์ กล่าวว่า ประเทศไทยเป็นประเทศของการท่องเที่ยว ถ้าเราทำอารยสถาปัตย์ให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกกลุ่มวัย และทุกสภาพร่างกาย ให้ทุกคนที่เดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยได้รับความสะดวก สบาย และปลอดภัย จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก เพราะนักลงทุน และนักท่องเที่ยวก็จะมุ่งมาที่เมืองไทยอีกเป้นจำนวนมาก

“ยุคนี้ นักท่องเที่ยวทุกคน ไม่่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ ก็ล้วนอยากออกมาท่องเที่ยว เรียกได้ว่าเป็นกระแสความนิยมของโลกในยุคปัจจุบัน ดังนั้น ถ้าเราได้มีการออกแบบอารยสถาปัตย์อย่างทั่วถึง มีการจัดทำสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆสำหรับให้บริการผู้สูงวัย ผู้พิการ และคนทั้งมวล เช่น ที่จอดรถ ทางลาด ห้องน้ำสำหรับให้บริการผู้สูงวัย ผู้พิการ และคนทั้งมวล อย่างมีคุณภาพมาตรฐาน เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ให้พร้อมรองรับคนทั้งมวลได้ ก็จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวของไทยให้เติบโตอย่างแข็งแรงและยั่งยืน ซึ่งงานมหกรรมอารยสถาปัตย์ฯ ได้สร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศ และกระตุ้นให้เกิดการลงทุนในด้านอารยสถาปัตย์มากขึ้น เพื่อพัฒนาธุรกิจการท่องเที่ยวซึ่งเป็นรายได้หลักของประเทศ เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนต่อไป” อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าว