สุวัจน์ นำคณะเทศบาลโคราช กล่าวขอบคุณ รัฐบาล น้ำประปาโคราช มีใช้ถึง 20 ปี
เมื่อวันที่ 1 กรกฎคม 2567 นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ประธานพรรคชาติพัฒนา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล สส. บัญชีรายชื่อพรรคชาติพัฒนา นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครนครราชสีมา พร้อมคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล และหน่วยงานราชการ มาต้อนรับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี นายจักรพงษ์ แสงมณี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะในโอกาสมาประชุมครม.สัญจร ที่จังหวัดนครราชสีมา และลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโครงการพัฒนาระบบประปา โรงกรองน้ำมะขามเฒ่า ต.บ้านใหม่ อ.เมือง จ.นครราชสีมา
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ กล่าวว่า
พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา ยินดีต้อนรับคณะรัฐมนตรี และหวังว่าการประชุม ครม.ครั้งนี้จะเป็นประโยชน์และสามารถที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ ได้ โดยเฉพาะจังหวัดนครราชสีมานั้น ถือว่าเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะขณะนี้เรากําลังต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ เรื่อง GDP ในเรื่องหนี้สินต่างๆ และในเรื่องการพัฒนาเรื่องการท่องเที่ยว การส่งออกที่ท่านรองนายกฯ รับผิดชอบ ก็อยากจะเรียนท่านว่าโคราชมีความพร้อมและตรงกับที่รัฐบาลต้องการที่จะทําเรื่อง soft power กันอย่างจริงจัง ซึ่งถือว่าเป็นนโยบายและเป็นสิ่งที่โดดเด่นมากในรัฐบาลชุดนี้
นายสุวัจน์ กล่าวว่าโคราชมีทั้ง ภาษาโคราช ผ้าไหมโคราชอาหารโคราช เพลงโคราช มวยโคราช ทั้ง 5 อย่าง คือ เอกลักษณ์ของท้องถิ่นสามารถหยิบมาต่อยอด ให้เป็นพลังของ soft power ได้ตามนโยบายของรัฐบาล และเรื่องการท่องเที่ยวตอนนี้ ถือว่าเป็นเสาหลักในการกอบกู้เศรษฐกิจ ซึ่งโคราชมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีคุณสมบัติเฉพาะที่ที่อื่นไม่มีคือ โคราชมีดินแดนสามมรดกของยูเนสโก อยู่ในพื้นที่ที่เป็น World Heritage คือ มรดกโลกที่เขาใหญ่ อยู่ที่ปากช่อง และพื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช อ.ปักธงชัย สองอันนี้ได้รับเกียรติจากยูเนสโกมาแล้ว และล่าสุด อันที่สาม คือ อุทยานธรณีโลก ในพื้นที่ 5 อำเภออำเภอได้แก่ อ.เมือง อ.สีคิ้ว อ.สูงเนินอ.ขามทะเลสอ และอําเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่น่าภาคภูมิใจเพราะว่าทั่วโลก 3 ดินแดนนี้ มีแค่ 4 จังหวัดใน 4 ประเทศทั่วโลกเท่านั้น ที่มีพื้นที่อย่างนี้ และโคราชเป็นจังหวัดที่ 4 ในโลก ที่เรียกว่าดินแดน 3 มงกุฎของยูเนสโก ซึ่งสามารถที่จะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับอินเตอร์ เป็นการบูมเรื่องการท่องเที่ยวอย่างยิ่งใหญ่
นอกจากนี้ โคราช คือ แหล่งส่งออก เป็นแหล่งผลิตข้าว แหล่งผลิตมัน ที่มากที่สุดในประเทศไทย ที่สำคัญ โคราชมีความพร้อมในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานที่จะเป็นตัวช่วยขับเคลื่อน GDP และในภาคอีสานโคราชถือว่าเป็นประตูสู่อีสาน ฉะนั้น GDP ที่โคราชมีนัยยะสําคัญต่อ GDP ของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งตอนนี้รัฐบาลก็ทําเรื่องโครงการมอเตอร์เวย์กทม.-โคราช ซึ่งปีหน้าจะเปิดครบ และโครงการรถไฟความเร็วสูงมาโคราช อีก 3-4 ปี ก็จะเปิดใช้ ทั้งสองโครงการเกือบ 300,000 ล้าน ฉะนั้น ความคุ้มทุนที่รัฐบาลลงไปแล้วก็คือการมาต่อยอด เป็น soft power มาต่อยอด เช่นการท่องเที่ยว มาต่อยอดเรื่องส่งออก ซึ่งโคราชมีความพร้อม
ส่วนเรื่องน้ำประปานั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่าน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะปัญหาเรื่องน้ําประปาที่ขาดแคลน และปัญหาเรื่องน้ำท่วม อย่างเรื่องน้ำประปา 2 อดีตนายกรัฐมนตรี คือ ท่านพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ ได้มาสร้างโรงกรองน้ำแห่งนี้ ที่ อ.มะขามเฒ่า และท่านอดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ก็ได้มาสร้าง โรงกรองน้ำอีกแห่งหนึ่งที่ อ.โชคชัย
“วันนี้ จะมีท่านนายกฯ คนที่ 3 คือ นายกฯ เศรษฐา ทวีสิน ที่ได้มาแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำประปา โดยคณะรัฐมนตรีของนายกฯ เศรษฐา ได้อนุมัติงบประมาณมาให้เทศบาลนครนครราชสีมา 1,900 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค ทั้งในเขตเทศบาลนครฯ และข้างเคียง”
สำหรับเรื่องน้ำท่วมนั้น นายสุวัจน์ กล่าวว่า ทางกรมชลประทานได้ทําโครงการบายพาสน้ำ คือ
แทนที่จะปล่อยน้ําให้ไหลผ่านลําตะคอง เข้ามาผ่านกลางเมือง ตรงบริเวณละลมหม้อ มีประตูระบายน้ำ โคกแฝก ทางชลประทานก็มีแผนจะบายพาสน้ำ
แทนที่น้ำจะผ่านเข้ามากลางเมือง ก็เลี้ยวซ้าย ไปทางทิศเหนือเลย ตรงละลมหม้อ ตรงประตูน้ำบ้านโคกแฝก บายพาสน้ำในอ่างในลําตะคองน้ำก็จะหายไป 50% เพราะฉะนั้น เป็นโครงการใช้งบประมาณสร้างแล้วร้อยกว่าล้าน และมีโครงการต่อเนื่องก็จะแก้ไขปัญหาถาวร
ฉะนั้น โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ เป็นสิ่งที่ทําให้เกิดความมั่นใจกับ นักลงทุน นักท่องเที่ยว แล้วจะทําให้ธุรกิจขยายตัว GDP ต่างๆ ที่เกิดขึ้นที่โคราชก็จะเป็น GDP ของประเทศก็จะสามารถที่จะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจต่างๆ ให้ลุล่วง
“โอกาสนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวโคราชปรบมือให้กำลังใจและขอบคุณคณะรัฐมนตรีและท่านนายกรัฐมนตรี“นายสุวัจน์ กล่าว