สุวัจน์ แนะ 3 ประสาน”รัฐบาล-ท้องถิ่น-ชุมชน” พลังพัฒนาประเทศ ต่อยอด soft power กระตุ้นเศรษฐกิจ ประเทศประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืน

วันนี้ (22 พฤศจิกายน) นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรบโครงการพัฒนาองค์กรชุมชน ประจำปีงบประมาณ 2567 หลักสูตร”องค์กรชุมชนกับการพัฒนาท้องถิ่น” โดยมี นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครฯ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี นายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมคณะผู้บริหารสท.และพี่น้องประชาชนชาวโคราชทั้ง 98 ชุมชน ณ โรงแรมสีมาธานี

โดยนายสุวัจน์ กล่าวว่า การอบรมในครั้งนี้ เป็นการเตรียมการจัดทำแผนพัฒนาชุมชนให้สอดคล้องกับแผนงานต่าง ๆ ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเขตเทศบาลนครนครราชสีมา ซึ่งนอกจากจะเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตแล้ว ยังตอบโจทย์นักลงทุนและนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในเมืองโคราชของเราด้วย โดยต้องผนึกกำลัง 3 ประสาน คือรัฐบาล ท้องถิ่น ชุมชน จะก่อให้เกิดพัฒนาประสบความสำเร็จ ให้เกิดความยั่งยืน

นายสุวัจน์ กล่าวว่า สถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศยังไม่ดีนัก และยังมีภาวะสงคราม ยูเครน และ อิสราเอล ยิ่งทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างหนัก อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่เป็นความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจคือ การท่องเที่ยว ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน จัดให้มีกิจกรรมซอฟท์ พาวเวอร์ หาของสวยงามของแต่ละท้องถิ่น ชุมชน มาเป็นจุดขายเพื่อช่วยประคองเศรษฐกิจให้เดินต่อไปได้ และสิ่งที่น่าภาคภูมิใจของชาวโคราชคือ หลานย่าโมของเรา แอนโทเนีย โพซิ้ว ก็คว้าตำแหน่งรองอันดับหนึ่งมิสยูนิเวิร์ส สร้างชื่อเสียงไปทั่วโลก และช่วยประชาสัมพันธ์โคราช ให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวด้วยว่า บทบาทการพัฒนาเทศบาลนครนครราชสีมา เป็นหน้าที่โดยตรง ท่านนายกฯ และคณะผู้บริหารเทศบาลนครฯ ที่จะดูแลภาพใหญ่ของเทศบาล ส่วนภาพย่อย ก็เป็นหน้าที่ของ ผู้บริหารชุมชน ทั้ง 98 แห่ง ที่รู้จักพื้นที่ รู้ปัญหาดี ต้องช่วยกันแก้ปัญหา และพัฒนาเมืองเพื่อรองรับเมือง ที่จะเติบโตขึ้น เมื่อรถไฟความเร็วสูง และมอเตอร์เวย์ แล้วเสร็จ โคราชจะพลิกโฉมไปทันที ซึ่งขณะนี้มอเตอร์เวย์ได้ดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 90% ซึ่งเราต้องเตรียมพร้อมในเรื่องระบบขนส่งมวลชน เพื่อแก้ปัญหาจราจร เชื่อมโยงรถไฟฟ้าสาธารณะ 3 สายกับเส้นทางไปสู่ 98 ชุมชน แบบไร้รอยต่อ รวมถึงการนำร่องเทศบาลนครฯ เป็นสมาร์ทซิตี้ การจัดการขยะ แก้ปัญหาระบบน้ำประปาทั้งในเขตและนอกเขตเทศบาลนครฯ ก็ต้องมีการขยายกำลังการผลิต เดินท่อน้ำดิบใหม่ รวมถึงปัญหาน้ำท่วมในเขตเทศบาลนครฯ ระบบการระบายน้ำ ต่าง ๆ ต้องเร่งแก้ไข

ด้านนายเทวัญ กล่าวว่า หัวใจหลักในการพัฒนาเทศบาล คือความร่วมมือกันทุกฝ่าย ปีนี้ทางเทศบาลนครฯ ได้พัฒนาคูเมืองและทำสวนสาธารณะ และยังพัฒนาสมาร์ทซิตี้ โดยการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาให้ เพื่อให้การติดต่อประสานงาน การทำงานต่างๆ กับเทศบาลง่ายขึ้น ที่สำคัญเป็นการอุดรอยรั่วของการทุจริตคอรัปชั่น นอกจากนี้ นพ.วรรณรัตน์ ยังได้หารือกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เรื่องการย้ายเรือนจำกลางนครราชสีมาออกไปนอกเมืองเพื่อประโยชน์ของทางราชการและพี่น้องชาวจังหวัดนครราชสีมา สำหรับพัฒนาเป็นพื้นที่สีเขียว สร้างปอดแห่งใหม่ให้ชาวจังหวัดนครราชสีมา