ธนดลจ่อลุยปัญหาที่ดิน สปก.อำเภอปากช่อง ขณะที่ สปก.โคราชลุยแก้ปัญหา สปก.เหวปลากั้งเกือบหมดแล้ว
นครราชสีมา – วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เป็นประธานการประชุมคณะทำงานการขับเคลื่อนการตรวจสอบและพิจารณาความผิดเกี่ยวกับผู้ได้รับการจัดที่ดินและผู้ถือครองที่ดินโดยมิชอบในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อติดตามการตรวจสอบการทุจริตของข้าราชการกระทรวงหนึ่ง ที่ใช้ช่องว่างไปออกโฉนดให้บุคคลต่างๆ ทับที่ดินที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.)พบเอกสารสำคัญในการออกเอกสารสิทธิทับที่ดิน ส.ป.ก.กว่า 40,000 ไร่ ใน 8 ตำบลของ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) การใช้ที่ดินปฏิรูปที่ดิน 22 มิ.ย.2525 ต้องห้ามขยายเขตเข้ามาในที่ดินของสปกยกเว้นที่ สปก. จะจัดสรรให้กับประชาชนเอง
นอกจากนี้ นายธนดล ยังนำที่ดินที่ตรวจพบว่ามีการออกโฉนดที่ดินเข้ามาเขตส.ป.ก.บริเวณนิคมสร้างตนเองลำตะคอง ซึ่งพบการขยายเข้ามาอย่างชัดเจน และเบื้องต้นตรวจพบ 40,000 ไร่ นอกจากนี้จากการตรวจสอบพบว่าที่ดินแปลงนี้ กลายเป็นโรงแรม สนามกอล์ฟ สนามแข่งรถ และตอนนี้แทบไม่มีเกษตรกรเป็นผู้ครอบครองแล้ว แต่ถูกนายทุนกวาดพื้นที่ไปทั้งหมดแล้ว จึงตั้งข้อสังเกตว่าในเมื่อมีกฎหมาย แต่ยังถูกนำไปออกโฉนดได้อย่างไร นอกจากนี้ทางนายธนดลจะลงพื้นที่ตรวจสอบภายในสัปดาห์หน้า
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง สปก.นครราชสีมา ถึงกรณีดังกล่าว ทราบว่าทาง สปก.ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน สปก.ในพื้นที่อำเภอปากช่องว่าเป็นพื้นที่ไหนอย่างไรเนื่องจากเพิ่งจะมีการประชุมกันในวันนี้ แต่อย่างไรก็ตามทาง สปก.ก็ได้มีการดำเนินการตามนโยบายของทางกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในเรื่องของการกระทำความผิดเกี่ยวกับที่ดิน สปก.พื้นที่อำเภอปากช่องมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ตำบลเหวปลากั้งที่เป็นข่าวเมื่อปี 2567 ที่ผ่านมา ปัจจุบันนี้เหลือเพียงไม่กี่แปลงที่ยังอยู่ในขั้นตอนของการต่อสู้ทางด้านกฎหมาย
สำหรับมาตรการในการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ดิน สปก. ว่ามีการครอบถูกต้องหรือไม่ รวมไปถึงการใช้ที่ดิน สปก.ผิดวัตถุประสงค์นั้นทาง สปก. จะเริ่มจาการตรวจสอบเอกสารการครอบครองว่าถูกต้องหรือไม่ รวมไปถึงการตรวจสอบว่าที่ดิน สปก.ดังกล่าวนั้นใช้ถูกวัตถุประสงค์หรือไม่ซึ่งถ้าหากพบว่าทำผิดวัตถุประสงค์ทาง สปก. จะทำให้หนังสือแจ้งเตือนไปยังเจ้าของสิทธิ์ผู้ครอบครองให้รับทราบพร้อมกับปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามระเบียบของการใช้ประโยชน์จากที่ดิน สปก. ซึ่งถ้าหากไม่ทำภายในระยะเวลา 30 วันหลังจากที่มีหนังสือแจ้งเตือนไปทาง สปก.จะทำการยึดที่ดิน สปก.ผืนดังกล่าวกลับคืนมาเพื่อจัดสรรค์ให้กับประชาชนรายอื่นต่อไป.
///ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ//นครราชสีมา