พิมายเร่งตั้งกระสอบทรายริมน้ำมูล ป้องกันน้ำทะลักท่วมพิพิธภัณฑสถาน

พิมายเร่งตั้งกระสอบทรายริมน้ำมูล รับมือมวลน้ำก้อนใหญ่ ป้องกันน้ำทะลักเข้าท่วมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย แหล่งเก็บรักษาโบราณวัตถุล้ำค่าของชาติ

นครราชสีมา-วันนี้ (18 ตุลาคม 2563) ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย อ.พิมาย จ.นครราชสีมา นายชำนาญ กฤษณสุวรรณ รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา พร้อมด้วย นายสมเดช ลีลามโนธรรม หัวหน้าอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย และนางสาวอทิตยา ติระโชติ รักษาการ ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย วางมาตรการรับมือมวลน้ำที่ไหลมาจากเขื่อนต่างๆตอนเหนือ โดยจัดซื้อกระสอบบรรจุทราย จำนวน กว่า 4,000 ถุง มาวางกั้นเป็นแนวรอบพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย ป้องกันไม่ให้น้ำลำมูลเอ่อทะลักเข้าท่วมเสียหาย เนื่องจากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย เป็นสถานที่เก็บของโบราณวัตถุล้ำค่าชั้นเยี่ยมระดับต้นๆของประเทศไทย อาทิ หลุมฝังศพจำลองพร้อมด้วยโครงกระดูกที่ขุดพบบริเวณบ้านปราสาท เครื่องปั้นดินเผาในยุคต่างๆ ศิลปวัตถุสมัยทวารวดี และพระพุทธรูป เทวรูปและทับหลังต่างๆ เป็นต้น

ซึ่งพันเอกสามภพ ประมาณพล ผู้บังคับกองพันทหารช่างที่ 202 กรมทหารช่างที่ 2 กองพลพัฒนาที่ 2 กองทับภาคที่2 และทหารจากศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพภาคที่ 2 โดยกองพันทหารช่างที่ 2 ได้นำกำลังพลจำนวน 15 นาย มาช่วยบรรจุกระสอบทรายวางเป็นแนวกั้นน้ำติดกับลำน้ำมูลสูง 60 เซนติเมตร เพื่อให้สูงกว่าระดับน้ำในลำน้ำ 1 เมตร

โดยนายชำนาญฯ รักษาการ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา กล่าวว่า มวลน้ำก้อนใหญ่ ที่จะไหลมาจาก เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย น้ำคงจะมาถึง อ.พิมาย อีกประมาณ 5 วัน ซึ่งมวลน้ำก้อนนี้ จะเอ่อท่วมในเขต อ.พิมาย เท่ากับปี 2553 หรืออาจจะมากกว่านั้น จึงแจ้งให้ ชาวอ,พิมายได้เตรียมยกสิ่งของขึ้นที่สูง และโบราณสถาน พิพิธภัณฑสถานฯ ในส่วนดูแลของสำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้สั่งการให้ดำเนินมาตรการป้องกันน้ำไม่ให้ทะลักเข้ามาท่วม และอพยพจัดเก็บโบราณวัตถุ สิ่งมีค่าทางประวัติศาสตร์ขึ้นที่สูง นายชำนาญฯ กล่าว.

//////////////////