โคราช ลำน้ำมูลตอนบนแห้งขอด  2 เขื่อนหลักปล่อยน้ำเลี้ยง แต่ชาวนาดักสูบตลอดสองฝั่งลำน้ำ ไม่สนความเดือดร้อนของส่วนรวม

 นครราชสีมา – วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2567)  สภาพน้ำในลำน้ำมูล ช่วงระหว่าง ต.ครบุรี อ.ครบุรี และ ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา  กำลังแห้งขอดเป็นช่วงๆ  แม้ว่าเขื่อนมูลบน และเขื่อนลำแชะ ซึ่งเป็นเขื่อนต้นน้ำจะพยายามส่งน้ำลงลำธรรมชาติเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ และเพื่อการอุปโภคบริโภคของประชาชนอย่างต่อเนื่อง  โดยตลอดสองฝั่งริมลำน้ำมูล ตั้งแต่ อ.ครบุรี  ยาวลงมาถึง อ.โชคชัย รวมระยะทางกว่า 30 กิโลเมตร มีเกษตรกรทำนาปรังหลายพันไร่ตลอดริมลำน้ำ แม้ว่าทางเขื่อนจะขอความร่วมมือให้งดการทำนาปรังในปีนี้ เพราะปริมาณน้ำเก็บกักในเขื่อนเหลือน้อย  จำเป็นต้องสงวนไว้ใช้ผลิตประปาเพื่อการอุปโภค-บริโภคของประชาชนมาเป็นอันดับแรก แต่กลับพบเกษตรกรจำนวนไม่น้อยที่ไม่ให้ความร่วมมือ พากันปลูกข้าวนาปรังและสูบดึงน้ำในคลองธรรมชาติไปใช้จนเกือบหมด

 อย่างเช่นที่บริเวณลำน้ำมูล ผ่านหมู่บ้านสะแกกรอง หมู่ที่ 5 ต.ทุ่งอรุณ อ.โชคชัย จ.นครราชสีมา ตอนนี้มีชาวนาในพื้นที่พากันตั้งเครื่องสูบมาสูบน้ำจากลำมูลตลอดสองฝั่งขึ้นไปใช้ทำนาปรัง ทั้งที่ทำไปก่อนหน้านี้ และกำลังเริ่มตีนาเตรียมหว่านกล้า ส่งผลให้ปริมาณน้ำภายในลำน้ำมูลช่วงนี้เริ่มแห้งขอด บางช่วงดูไม่เห็นสภาพของลำน้ำแล้ว เป็นที่น่ากังวลของชาวบ้านส่วนใหญ่เป็นอย่างมาก

 โดยนายอำนาจ ชั้นกระโทก อายุ 49 ปี ชาวบ้านรายหนึ่งในบ้านสะแกกรอง บอกว่า ลำน้ำมูลที่ผ่านจุดนี้  ทุกปีในช่วงนี้จะยังคงมีน้ำภายในลำคลองมากกว่าครึ่ง เพราะน้ำภายในเขื่อนมีมากเกือบเต็มความจุ  จึงมีน้ำเพียงพอส่งลงมาในคลองธรรมชาติ  เพื่อให้เกษตรกรริมลำน้ำได้มีโอกาสทำนาปรังกันถ้วนหน้า แต่มาปีนี้ทางเขื่อนต้นน้ำ ทั้งเขื่อนลำแชะและเขื่อนมูลบน มีน้ำเก็บกักน้อยกว่าปกติ เหลืออยู่เพียงครึ่งเขื่อนฯ เท่านั้น   ในขณะที่ชาวนาที่อยู่ติดกับลำน้ำ แม้จะได้รับคำเตือนจากหน่วยราชการแล้ว แต่ก็พากันเสี่ยงทำนาปรัง จึงพากันสูบน้ำเข้านา จนทำให้น้ำแห้งขอดอย่างที่เห็น  ซึ่งทางเขื่อนพยายามปล่อยน้ำลงมาในคลองธรรมชาติอยู่ตลอด เพื่อรักษาระบบนิเวศลำน้ำและส่งจ่ายไปให้ผลิตประปาอุปโภค-บริโภค แต่ก็ไม่เพียงพอเพราะชาวนายังลอบสูบไปใช้ทำนาปรังกันต่อเนื่อง ส่งผลให้ระบบนิเวศลำน้ำเสี่ยงเข้าสู่วิกฤติ  ส่วนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคในพื้นที่บ้านสะแกกรองแห่งนี้ยังถือว่าโชคดีอยู่บ้าง ที่ระบบน้ำประปาของหมู่บ้านได้เปลี่ยนมาใช้น้ำบาดาลไม่ได้สูบดึงน้ำจากลำธรรมชาติ แต่อย่างไรก็ตาม หากยังสูบดึงน้ำจากลำน้ำมูลและลำสาขาไปใช้โดยไม่คำนึงถึงส่วนรวมแบบนี้ เสี่ยงที่น้ำในลำน้ำจะแห้งจนหมด  ก็เชื่อว่า  จะเกิดผลกระทบด้านอื่นๆ ตามมา และได้เดือดร้อนกันถ้วนหน้าแน่

 สำหรับสถานการณ์น้ำเก็บกักของ 2 เขื่อนต้นน้ำมูล  ตอนนี้เขื่อนลำแชะมีปริมาณน้ำดิบคงเหลืออยู่ที่ 140.69 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 51.16 % จากความจุทั้งหมดที่ 275 ล้านลูกบาศก์เมตร และเป็นน้ำใช้การได้ 133.69 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 49.88 % ซึ่งเมื่อวานส่งน้ำลงลำธรรมชาติประมาณ 1.1 แสนลูกบาศก์เมตร ในขณะที่เขื่อนมูลบน มีปริมาณน้ำดิบคงเหลือที่ 79.25 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 56.21 % จากความจุทั้งหมดที่ 141 ล้านลูกบาศก์เมตร เป็นน้ำใช้การได้เพียง 72.25 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็น 53.92 %  ซึ่งส่งน้ำลงลำน้ำธรรมชาติ ประมาณวันละ 1.2 แสนลูกบาศก์เมตร .

//////////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา