ตามนายกเทศมนตรี ตำบลสูงเนิน พา รมต.เทวัญ ลิปตพัลลภ สำนักนายกรัฐมนตรี ชมถ้ำหลวงปู่มี ที่วัดป่าสูงเนิน อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา

ขณะมาถวายเทียนพรรษา ชวนชาวบ้านเข้าวัดทำบุญหลังโควิด 19 นายกฯ นคร กิติพูลธนากร เล่าถึงแรงบันดาลใจการสร้างถ้ำหลวงปู่มี เกจิสายวิปัสนากรรมฐาน พระป่าของ อำเภอสูงเนิน เมื่อ 5 ปีก่อน

วันที่ ร่วมกับชาวสูงเนิน ในการจำลอง ถ้ำที่มีหินงอก หินย้อย เหมาะกับการฝึกปฏิบัติ สมาธิ ปัญญา และ ใช้ในการสวดมนต์ เจริญสติ เป็นอย่างยิ่ง ทำให้ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ในการเดินทางมา ท่องเที่ยวด้วยพุทธศาสนา ในเมืองสูงเนิน อันมีธรรมชาติ ร่มรื่น สงบ มีคุณค่าแห่งการเจริญจิตใจ พระครูญาณโสภิต (หลวงปู่มี ญาณมุนี ศิษย์หลวงปู่เสาร์-หลวงปู่มั่น) วัดป่าสูงเนิน อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา สร้างสำนักปฎิบัติธรรมวัดป่าสูงเนิน ๒๔๗๑ เน้นหลักการสอนดังนี้

“หลักการสอนของสำนักปฏิบัติวัดป่าสูงเนินจะเน้นในเรื่องปฏิบัติดีปฏิบัติชอบของพระสงฆ์ ให้ถูกต้องตามพุทธบัญญัติ ซึ่งพระสงฆ์จะต้องปฏิบัติตามพระวินัยอย่างเคร่งครัด จะต้องสำรวมอินทรีย์ มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่ว่าจะเป็นการนอน การนั่ง การยืน การเดิน การดื่มขบฉัน การบิณฑบาต การเดินจงกรม หรือการนั่งสมาธิ จะต้องอยู่ในอิริยาบถที่เป็นการสำรวมทั้งสิ้นพระปฏิบัติต้องมีมารยาทอ่อนโยน นิ่มนวล จิตใจเบิกบาน แต่ทุกอย่างเป็นทางสายกลางมัชฌิมาปฏิปทาไม่สุดโต่งไปมากทางด้านใดด้านหนึ่ง จนภาวะความเป็นธรรมชาติแบกรับไม่ไหวจึงเหมาะแก่ผู้สนใจในทางปฏิบัติธรรมกรรมฐาน และสอดคล้องกับจริตหรือความต้องการทางบวก รับรู้และเข้าใจการปฏิบัติ ติดตัวมาเป็นตัวตน ในปัจจุบันส่วนใหญ่เป็นมรดกของพระครูญาณโสภิต ซึ่งถือพระอาจารย์ใหญ่องค์นี้ เป็นผู้มีใจแน่วแน่และยอดของนักปฏิบัติธรรมท่านพระครูญาณโสภิต

ท่านได้เริ่มบทเรียนตามแนวกระบวนการเรียรรู้ หรือแนวการสอนของพระพุทธศาสนา ซึ่งกระบวนการขั้นตอนแรกจะว่าด้วยเรื่องของศีล ขั้นตอนที่สองเป็นเรื่องสมาธิ และขั้นตอนที่สามเป็นเรื่องปัญญา ซึ่งโดยทั่วไปจะอธิบายรวมๆ กันไปว่า ศีล สมาธิ ปัญญา เพราะถ้าหากผู้ใดได้ถือศีลหรือปฏิบัติศีลให้บริสุทธิ์ ศีลก็จะเป็นพื้นฐานของสมาธิอันมั่นคง เมื่อจิตมีสมาธิแล้ว พลังปัญญาก็จะเกิดขึ้นได้เร็ว ถ้าไม่มีศีล หรือศีลไม่บริสุทธิ์แล้ว จะปฏิบัติธรรมให้มากเท่าไรก็คงไม่เกิดมรรคผลท่านอุปมาเหมือนคนมือด้วนได้แหวนเพชร คนหัวล้านได้หวี คนตาบอดได้กระจกเงา ย่อมไม่มีคุณค่าต่อจิตใจของผู้ได้เป็นเจ้าของหรือครอบครองในสิ่งเหล่านั้นอย่างแน่นอน

อนึ่ง ท่านสอนว่า ถ้าเราต้องการเป็นพระปฏิบัติกรรมฐาน หากเรายังยึดติดกับใบลานหรือกระดาษหรือแนวการศึกษาทางด้านปริยัติธรรมอยู่ แม้เราจะขยันหมั่นเพียรเท่าใดก็ยังหาได้บรรลุธรรมขั้นสูงไม่ เหมือนกับคนยังโง่อยู่ หอบปอทั้งขี้ปอ ย่อมเอาไปทำประโยชน์อะไรไม่ได้ ฉันใด พระผู้ปฏิบัติธรรมหากยังยึดติดอยู่กับใบลาน กระดาษ หรือเพียงแต่การเรียนปริยัติธรรมก็ฉันนั้นการอธิบายข้อธรรมของท่านพระครูญาณโสภิต ทำให้ เกิดความสว่างรู้แจ้งถึงความเป็นมาเป็นไปในทางปฏิบัติ ท่านที่จะปฏิบัติธรรมเพื่อความหลุดพ้นจากกองทุกข์ให้ได้ โดยได้ทำการสมาทานธุดงควัตร