เกิดเหตุกราดยิงมัสยิด 2 แห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ สื่อต่างประเทศรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 40 คน ตำรวจเตือนชาวมุสลิมให้หลีกเลี่ยงการไปมัสยิดทั่วประเทศ แม้จะควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 4 คน
วันนี้ (15 มี.ค.2562) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดเหตุกราดยิงภายในมัสยิดแห่งหนึ่งใจกลางเมืองไครสต์เชิร์ช หลังพิธีละหมาดใหญ่ สื่อบางสำนักรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 40 คน ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล
ตำรวจนิวซีแลนด์เตือนให้ชาวมุสลิมหลีกเลี่ยงการเดินทางไปมัสยิดทั่วประเทศในช่วงนี้ ซึ่งขณะนี้ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยไว้ได้แล้วอย่างน้อย 4 คน มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่พบการบันทึกภาพของผู้ก่อเหตุขณะก่อเหตุกราดยิง
ขณะที่นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ เปิดเผยว่า มีความเป็นไปได้ที่ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีในครั้งนี้อาจยังคงหลบหนีอยู่ พร้อมทั้งระบุว่าเหตุโจมตีที่เกิดขึ้นเป็นเหตุรุนแรงที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และวันนี้ถือเป็นหนึ่งในวันที่มืดมนที่สุดของนิวซีแลนด์
กระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากสถานทูต ณ กรุงเวลลิงตัน เกี่ยวกับเหตุกราดยิงมัสยิดแล้ว เบื้องต้นไม่มีรายงานว่ามีคนไทยได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ขณะที่สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเวลลิงตัน ได้ออกประกาศเตือนคนไทยที่อาศัยอยู่ในนิวซีแลนด์ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ขณะนี้อยู่ในนิวซีแลนด์ โดยเฉพาะที่เมืองไครสต์เชิร์ช และในเขตแคนเทอเบอร์รี่ ให้ระมัดระวังอย่างสูงสุดและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด รวมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของทางการนิวซีแลนด์อย่างเคร่งครัด เนื่องจากทางการนิวซีแลนด์ยังไม่สามารถให้ความมั่นใจได้ว่าจะเกิดเหตุร้ายใดๆ ในสถานที่อื่นอีกหรือไม่ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตจะติดตามเหตุการณ์และแจ้งให้ทราบต่อไป
…………………………………………
น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวเมื่อวันที่ 15 มีนาคมระบุว่า กระทรวงได้รับรายงานจากสถานทูต ณ กรุงเวลลิงตัน ถึงเหตุการณ์กราดยิงในมัสยิดทั้ง 2 แห่งที่เมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ว่าในชั้นนี้ไม่มีคนไทยเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว
การเปิดเผยของกระทรวงการต่างประเทศมีขึ้นหลังเกิดเหตุกราดยิงที่มัสยิดสองแห่งในเมืองไครสต์เชิร์ช ประเทศนิวซีแลนด์ ในวันเดียวกันนี้ เหตุการณ์ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนหนึ่ง ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุ