“นายกฯ” เล็งใช้รูปแบบ “ทราเวล บับเบิ้ล” กำหนดพื้นที่ท่องเที่ยว แทนเปิดเสรี ชี้ควบคุมง่าย หากรับกติกาได้ ก็เที่ยวได้ “อนุทิน” เผยถกทูต 4 ประเทศ จีน สิงคโปร์ เกาหลี นิวซีแลนด์

วันที่ 15 มิถุนายน 2563 ที่องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกในพระบรมราชูปถัมภ์ (อผศ.) พล.อ

.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ตอบข้อถามสื่อมวลชน ถึงมาตรการรัฐบาล ในการคลายล็อกให้นักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยเป็นอย่างไร ว่า การท่องเที่ยวมี 2 แบบ คือการท่องเที่ยวในประเทศ และการท่องเที่ยวต่างประเทศ ตอนนี้ที่เรากำลังจะดำเนินการคือ พื้นที่ท่องเที่ยว ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่ โดยให้แนวทาง ทราเวล บับเบิ้ล (Travel Bubble) ที่มีกรอบของพื้นที่ว่า พื้นที่ใดสามารถท่องเที่ยวได้บ้าง คนในประเทศไปท่องเที่ยวพื้นที่ตรงนั้น ก็สามารถควบคุมได้ มีความพร้อมหรือไม่ ไม่ว่าจะเมืองหลักหรือเมืองรอง ก็ต้องมีมาตรการ เพราะมีการเปิดการสัญจรไปมา และต้องมีการดูแลตนเอง ตามมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม

นายกฯ ระบุว่า หากเปิดแล้วมีปัญหาขึ้นก็ต้องหยุดไม่ให้ท่องเที่ยวอีก โดยการไปเที่ยวจะต้องไม่สะเปะสะปะไปเรื่อย แต่ต้องไปเที่ยวในจุดที่อนุญาต และสามารถควบคุมได้ สิ่งนี้เป็นการแนวทางเพื่อนำนักท่องเที่ยวต่างประเทศเข้ามาว่าเขาเข้ามาแล้วจะไปที่ไหน เราจะควบคุมได้อย่างไร รวมถึงต้องมีการควบคุมจุดพื้นที่ท่องเที่ยว แบบนี้ใครอยากจะมาก็มา ตนมองว่าปลอดภัย และดีกว่าการเปิดท่องเที่ยวแบบเสรี นี่คือความคิดในระยะแรก

วันนี้ สิ่งที่เราทำไปแล้วคือการเปิดให้นักธุรกิจที่มาลงทุนในประเทศไทย ที่ตอนนี้เข้ามาได้ระยะหนึ่งแล้ว โดยต้องเข้ารับการกักตัว ก่อนจะออกไปตรวจงานหรือธุรกิจของเขาได้ ซึ่งยังมีการเดินหน้าการลงทุนอยู่ การตลาด การเจรจา และการค้าขายอยู่ เราเปิดเท่านี้ก่อน ต่อมาก็เป็นเรื่องของนักท่องเที่ยว แต่เรายังต้องมี State quarantine (สถานกักตัวของรัฐ) และ Alternative State Quarantine (สถานที่กักตัวทางเลือก)

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาเมืองไทยจะต้องกำหนดจำนวนคนหรือไม่พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ต้องกำหนดจำนวนคน จำนวนเที่ยวบิน จำนวนเมืองต่อเมืองที่ปลอดภัยต้องมีกติกาตรงนี้ออกมา เพื่อกำหนดก่อนให้มีการเปิดให้ท่องเที่ยว เราทำลักษณะค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไป ต้องดูว่าต่างประเทศกับประเทศเรามีความร่วมมือกันในเรื่องของความปลอดภัยแบบเมืองต่อเมืองหรือไม่ รัฐบาลคิดละเอียด และนักท่องเที่ยวต้องมีใบรับรองแพทย์ด้วย ถ้าใครรับกติกาได้ก็เที่ยวได้

เมื่อถามว่า มีประชาชนบางส่วนไม่สบายใจ ที่จะเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้ปล่อย ขอให้สื่ออย่าเพิ่งไปขยายความ เพราะตอนนี้ยังไม่ได้อนุญาตให้เข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย รวมถึงการเข้าออกตามด่านชายแดนยังมีความเข้มงวดเหมือนเดิม

ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ชี้แจงถึงแนวทาง Travel Bubble เปิดท่องเที่ยวแบบจับคู่เดินทางระหว่างประเทศที่ควบคุมการระบาดของโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพว่า เกณฑ์เบื้องต้นในการพิจารณาประเทศที่จะเป็นคู่เดินทางกับไทย คือ ต้องไม่เป็นประเทศที่มีการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างรุนแรง เป็นประเทศที่มีการจัดการกับการระบาดของโรค โควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประสบผลสำเร็จ และอาจจะจำกัดประเภทของผู้เดินทาง ซึ่งจะมีการสรุปแนวทางและชี้แจงต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ต่อไปเพื่อลงมติ ว่ากระทรวงสาธารณสุขมีความสบายใจแบบไหน และน่าจะปฏิบัติได้ หากมีคนป่วยต้องนำตัวมารักษาได้ ไม่มีหลุดออกไปกระจายเชื้อให้ประชาชนไม่สบายใจ

“เราเปิดกว้างอยู่แล้วว่า ประเทศไหนจะเข้ามาเจรจาร่วมกัน ผมก็ได้คุยกับทูตสิงคโปร์ นิวซีแลนด์ และท่านทูตจีนก็จะมาพบ รวมถึงท่านทูตเกาหลี และเราต้องดูประเทศที่ประชาชนมีความสบายใจที่จะต้อนรับด้วย ขณะเดียวกันก็ต้องนึกถึงเศรษฐกิจ ปากท้องประชาชนด้วยหลายๆ มิติรวมกัน” นายอนุทิน ระบุ