“ประกันรายได้ข้าว 65/66” เช็คสิทธิเงินเยียวยาเกษตรกร อัปเดตล่าสุด เงินเข้าวันที่เท่าไร สถานะแบบไหน ได้เงินแน่นอน

อัปเดตเงิน “ประกันรายได้ข้าว 65/66” ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 ซึ่งดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านครัวเรือน หลังจากเปิดให้มีการเช็คสิทธิเงินเยียวยาเกษตรกร 65/66 เงินเยียวยาไร่ละ 1,000  ผ่านออนไลน์ได้แล้ว ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2565 โดยกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่กำกับดูแลโครงการประกันรายได้ข้าว กำหนดการจ่ายเงินส่วนต่างราคาข้าวให้กับเกษตรกร ทุก ๆ 7วัน จำนวน 33 งวด ยืนยันว่า จะได้รับเงินโดยโอนตรงเข้าบัญชีอย่างโปร่งใสจากรัฐบาล เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีรายได้ที่แน่นอน แล้วสถานะแบบไหน ได้เงินแน่นอน ไปตรวจสอบกัน

ประกันรายได้ข้าว 65/66 สถานะแบบไหนได้เงิน

 กรณีสมัครแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile หรือ LINE Official BAAC Family หากได้รับเงินแล้ว จะมี SMS แจ้งมายังเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนไว้กับ ธ.ก.ส. แจ้งสถานะการจ่ายเงินประกันรายได้ข้าวเข้าบัญชี 

  • กรณีตรวจสอบผ่านเว็บไซต์ chongkho.inbaac.com คลิกที่นี่ หากขึ้นข้อความ ไม่พบข้อมูลการขึ้นทะเบียน (โปรดติดต่อหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนเกษตรกรตามชนิดพืชที่ได้รับสิทธิ์ตามโครงการ) แสดงว่า ไม่มีสถานะเป็นเกษตรกร ตรวจสอบสถานะการเป็นเกษตรกร คลิกที่นี่ 
  • กรณีได้รับเงินชัวร์ จะปรากฎข้อความโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2565/2566 เลขที่บัญชีวันที่โอน สาขา ธ.ก.ส. สถานะ 

ตรวจสอบสถานะเงินประกันรายได้ข้าว 65/66

เช็คสิทธิประกันรายได้ข้าว 65/66

หลักเกณฑ์การจ่ายเงินประกันรายได้ข้าว 65/66

 ข้าวความชื้นไม่เกิน 15% ไม่เกินครัวเรือนละ 40 ไร่ ยกเว้นข้าวเจ้า ไม่เกิน 50 ไร่ โดยชดเชยเป็นจำนวนตันในแต่ละชนิดข้าว ดังนี้

  • ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาประกันรายได้ 15,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 14 ตัน
  • ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคาประกันรายได้ 14,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน
  • ข้าวเปลือกเจ้า ราคาประกันรายได้ 10,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 30 ตัน
  • ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคาประกันรายได้ 11,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ตัน
  • ข้าวเปลือกเหนียว ราคาประกันรายได้ 12,000 บาท/ตัน ครัวเรือนละไม่เกิน 16 ตัน

 

อย่างไรก็ตาม นอกจากเงินเยียวยาเกษตรกร เงินประกันรายได้ข้าวแล้ว ยังมีเงินเยียวยาน้ำท่วม สูงสุดไร่ละ 11,780 บาท กรณีพื้นที่ทำการเพาะปลูก มีพืชตาย หรือเสียหายจนไม่สามารถฟื้นฟู หรือเยียวยาให้กลับสู่สภาพเดิมได้อีก ให้ช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่เพาะปลูกที่เสียหายจริง ไม่เกินครัวเรือนละ 30 ไร่ ในอัตรา ดังนี้

 ข้าว ไร่ละ 1,340 บาท

  • พืชไร่และพืชผัก ไร่ละ 1,980 บาท
  • ไม้ผลไม้ยืนต้น และอื่น ๆ ไร่ละ 4,048 บาท

 การประมง ให้ดำเนินการช่วยเหลือผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำที่ประสบภัยพิบัติที่สัตว์ตายหรือสูญหาย ให้ดำเนินการช่วยเหลือเป็นเงิน ดังนี้

 กุ้งก้ามกราม กุ้งทะเล หรือหอยทะเล ไร่ละ 11,780 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่

  • ปลาหรือสัตว์น้ำอื่น ๆ ที่เลี้ยงในบ่อดิน นาข้าวหรือร่องสวน (คิดเฉพาะพื้นที่เลี้ยง)ไร่ละ 4,682 บาท ไม่เกินรายละ 5 ไร่
  • สัตว์น้ำที่เลี้ยงในกระชัง บ่อซีเมนต์ หรือที่เลี้ยงในลักษณะอื่นที่คล้ายคลึงกัน ตารางเมตรละ 368 บาท ไม่เกินรายละ 80 ตารางเมตร

 ขณะที่ล่าสุดมีรายงานว่า โครงการประกันรายได้ข้าว 65/66 ไม่สามารถจ่ายเงินงวดแรกให้เกษตรกรได้ จากเดิมมี

กำหนดจะจ่ายงวดแรกวันที่ 19 ตุลาคม 2565 เนื่องจากยังไม่ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) คาดว่า ต้องรอเข้าที่ประชุม ครม.ในสัปดาห์หน้า