รมต.เทวัญ ลุยแจกถุงน้ำใจยังชีพช่วยชาวโคราชต่อเนื่อง เผยนายกฯ
เตรียมประชุมมาตราการปลดล็อคสัปดาห์หน้า
เทวัญ ลุยแจกถุงยังชีพช่วยชาวโคราชต่อเนื่อง เผยนายกฯเตรียมประชุมมาตราการปลดล็อคสัปดาห์หน้า ขอบคุณประชนให้ความร่วมมืออยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงรวดเร็ว
วันที่ 25 เมษายน 2563 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบถุงน้ำใจยังชีพ ข้าวสาร อาหารแห้ง หน้ากากอนามัย สเปรย์ฉีดพ่นแอลกอฮอล์ล้างมือให้กับผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 โดยมี นายธงชัย ลืออดุลย์ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ร่วมกับ นายหัสดิน สุวัฒนะพงศ์เชฏ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ร่วมมอบให้พี่น้องประชาชนในชุมชนเขตเทศบาลนครนครราชสีมาตามวัดต่างๆโดยใช้สถานที่อุโบสถ์วัดสุทธจินดาวรวิหาร โดมวัดหงษาราม วัดหนองไผ่ล้อม และศาลาวัดท่าตะโก ซึ่งมอบให้จุดละ 125 ราย/ชุด รวม 300 ราย/ชุด ในการมอบถุงน้ำใจยังชีพครั้งนี้ เป็นไปตามโครงการศูนย์”คนโคราชรักจริงไม่ทิ้งกัน ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19” ร่วมกับภาคเอกชน เทศบาลนครนครราชสีมา พ่อค้า นักธุรกิจ โดยเฉพาะด้วยความห่วงใยพี่น้องประชาชนของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล โดยใน 1-2 สัปดาห์หน้าจะมีโครงการการตั้งโรงทานแจกอาหารสำเร็จรูปกล่องให้ทางผู้นำชุมชน 90 ชุมชนเป็นตัวแทนรับแล้วนำไปแจกจ่ายให้คนยากคนจนผู้ยากไร้ที่ได้รับผลกระทบจากตรงนี้ มีอาหารยังชีพต่อไปได้
สำหรับผู้ใจบุญอยากตั้งโรงทาน แนะนำให้มาทำที่วัด ซึ่งมีอยู่ 400 แห่งทั่วประเทศที่มีความพร้อมในด้านสถานที่ และที่สำคัญ จะต้องประสานหน่วยปกครองท้องถิ่นในการจัดจุดคัดกรอง จัดระเบียบเพื่อความปลอดภัย
นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เท่าที่มามอบข้าวสารอาหารแห้งเป็นถุงน้ำใจ ทราบว่ามีคนยากคนจนในชุมชนที่เขตเทศบาลนครนครราชสีมาบางคนไม่มีโทรศัพท์มือถือ ไม่รู้เรื่องหนังสือ ลงทะเบียนไม่เป็น ไม่ได้รับเงินเยียวยา 5,000 บาท ซึ่งตอนนี้รัฐบาลเปิดโอกาสให้หลายอย่าง หลายคนไม่มีโทรศัพท์ ไม่ได้ลงทะเบียนก็ให้ไปติดต่อทางจังหวัดฯให้ช่วยเหลือ หรือไปที่ที่ว่าการอำเภอแต่ละอำเภอ
ส่วนเรื่องการปลดล็อคนั้น รมต.เทวัญ กล่าวว่า คงต้องรอท่านนายกรัฐมนตรีหาลือกันในที่ประชุม ครม.อาทิตย์หน้า ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีในฐานะประธานสมค.ท่านได้มีมารตราการต่างๆ ซึ่งจริงๆตอนนี้มีพี่น้องประชาชนและภาคส่วนทางด้านธุรกิจอยากจะให้ทำแบบนั้นแบบนี้ แต่ทั้งหมดอยู่ที่การตัดสินใจของท่านนายก
สำหรับเรื่องของพระเมื่อวานนี้มาทั้งหมด 121 ท่าน เป็นพระ 104 รูป ที่เหลือเป็นแม่ชีและเป็นญาติธรรม วันนี้เช่นกัน ประมาณ 107 กว่าท่าน ซึ่งเมื่อวานได้มีโอกาสไปให้กำลังใจ และแวะไปเยี่ยมที่ศูนย์ ที่สนามบินดอนเมือง หลังจากลงเครื่องมาแล้ว ได้ผ่านกระบวนการมาตรฐานของกระทรวงสาธารณะสุข มีการวัดไข้ มีตอกใบต.8 และมีกระบวนการตามาตราฐาน ถ้าท่านใดมีไข้สูงจะแยกไปอีกทาง และท่านใดที่ไข้ไม่สูง ไม่ถึง 37 องศา จะแยกไปอีกทาง จากนั้นรับกระเป๋าเสร็จจึงนำขึ้นรถบัส ซึ่งรถบัสได้เตรียมไว้ 1 คัน จัดให้โดยสารได้ 15 ท่าน ไม่ให้นั่งติดกัน หลังจากนั้นได้จัดพระ แม่ชีและญาติธรรมแยกกัน ส่วนพระที่ได้ไปถึงที่กักกันแล้ว จะมีพระที่อยู่ในพื้นที่มาช่วยดูแล และประเคนของ ซึ่งโรงแรมที่ได้ไปพักอาศัยอยู่ ได้ขอนุญาติทางเถรสมาคมให้ยอมเป็นที่พักอาศัยของพระได้ตามกฎของสงฆ์ซึ่งทุกอย่างได้เป็นไปตามกระบวนการถูกต้องทั้งหมด ซึ่งคิดว่าน่าจะไม่มีอะไรมากมาย รอเฝ้าดูอาการ 14 วัน พระที่มาทั้งหมดคงยังต้องไปกักตัวประมาณ 200 กว่ารูป
นอกจากนี้ ภาพรวมทั้งหมดต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้ความร่วมมืออยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ บางคนอาจลำบาก บางทีอยู่บ้านนานๆอาจจะอึดอัด บางคนก็ทำเพื่อประเทศชาติ และจากที่มีมารตราการเคอร์ฟิวส์ มาตรการปิดต่างๆ ซึ่งเราเห็นได้ว่าตัวเลขมันลดลงได้จำนวนมาก จาก 100 กว่าคน เหลือแค่ 10 กว่าคน แสดงว่ารัฐบาลมาถูกทาง ฉะนั้นดูไปเรื่อยๆไม่อยากให้ชะล่าใจ และฝากถึงพี่น้องประชนอาจต้องอดทนกันอีกนิดเดียวมาตรการต่างๆ อาจะต้องยังใช้อยู่ ทั้งนี้เงินกู้ 1.9 ล้านล้าน ส่วนหนึ่งมาช่วยเยียวยากับพี่น้องประชนชน ส่วนหนึ่งมาเยียวยาด้านเศรษฐกิจ และได้ให้ธนาคารแห่งประเทศไทยไปดูตรงนั้น ว่าจะทำอย่างไง จะช่วย SME ช่วยภาคธุรกิจ หรือช่วยธุรกิจต่างๆให้เดินได้ต่อไป