“วิษณุ” เผย สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระราชวินิจฉัยตราสัญลักษณ์ – รอสำนักนายกฯ ผลิตเสื้อเหลือง เชิญชวนใส่ช่วงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
วันนี้ (27ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการฝ่ายพิธีการงานพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก ครั้งที่ 2/2562 ว่า มีหลายเรื่องที่ได้รับพระราชวินิจฉัยลงมาแล้วสามารถดำเนินการต่อได้จึงได้มีการประชุมเพื่อติดตามงานหลังจากที่ได้ประชุมครั้งที่ 1 ไปเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2562
สำหรับคณะอนุกรรมการฝ่ายพิธีในเรื่องพิธีตักน้ำศักดิ์สิทธิ์จากสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ 108 แห่ง ที่กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพนั้นสามารถจัดการได้เรียบร้อยซักซ้อมความเข้าใจได้เป็นอย่างดี แม้กระทั่งเรื่องคนโทที่เตรียมบรรจุก็เรียบร้อยดี
ส่วนเรื่องตราสัญลักษณ์ซึ่งได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายไปประมาณ 6-7 แบบ และมีพระราชวินิจฉัยลงมาแล้วแบบหนึ่ง โดยได้ทรงปรุง หรือปรับปรุงแก้ไขมีความหมายที่สวยสดงดงาม และเมื่อได้รับหนังสือยืนยันเป็นทางการก็จะได้ดำเนินการเพื่อนำไปใช้ทำเป็นตราติดบนคนโทที่บรรจุน้ำอภิเษก และจะใช้ทำเป็นซุ้มตามถนนหนทางต่างๆในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด และที่สำคัญจะใช้เป็นธงที่จะประดับตลอดงานพระราชพิธี รวมทั้งที่จะใช้พิมพ์บนเสื้อสีเหลือง อยากจะเชิญชวนประชาชนทั่วไปให้แต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง หากมีเสื้อสีเหลืองตัวเก่าอยู่แล้วก็มาใช้ได้ แต่ควรจะเป็นเสื้อที่มีตราสัญลักษณ์รัชกาลใหม่ก็จะเป็นความเหมาะสมกว่า และเชิญชวนให้แต่งกันในช่วง 4 เดือน คือ เมษายน, พฤษภาคม, มิถุนายน และกรกฎาคม เพราะเดือนเมษายน, พฤษภาคมนั้นมีพระราชพิธี เดือน กรกฎาคมเป็นเดือนเฉลิมพระชนมพรรษา ดังนั้นจึงเชิญชวนแต่งกันต่อเนื่องทั้ง 4 เดือน อย่างไรก็ตาม ทางสำนักนายกรัฐมนตรีจะได้ทำเสื้อดังกล่าวจำหน่ายเป็นต้นแบบต่อไป ส่วนคนอื่นใครจะทำก็ได้แต่ต้องขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์ให้ถูกต้อง
“คงจะมีเผยแพร่ได้ในเร็วๆ นี้ เพราะมีพระราชวินิจฉัยแล้วและจะได้มีหนังสือยืนยันถึงนายกรัฐมนตรีต่อจากนั้นสามารถดำเนินการได้ ขณะนี้ สำนักนายกรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร ต่างรออยู่ เพื่อที่จะได้ทำ คนโท เข็ม เสื้อ ธง ซุ้มบนถนนต่อไป ทั้งนี้จะต้องออกมาเร็ว”
สำหรับเรื่องเข็มจะมีอยู่ 2 อย่าง คือ เข็มที่ใช้ประดับปกเสื้อซึ่งเป็นเข็มพระราชทาน กับอีกอย่างหนึ่งคือเข็มที่รัฐบาลขอพระราชทาน มาจัดทำเพื่อจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปที่ไม่ได้รับพระราชทานได้มีโอกาสซื้อหาเข็มละไม่กี่สตางค์และรายได้ทั้งหมดนำขึ้นทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายโดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย
ที่ประชุมยังได้หารือกันถึงกำหนดการในพระราชพิธีตั้งแต่วันที่ 2-6 พฤษภาคม 2562 ว่าวันไหนมีพิธีอย่างไร การเข้าเฝ้าฯ ควรเป็นอย่างไร มีรายละเอียดของจำนวนเก้าอี้ที่นั่งอย่างไร จำกัดอย่างไรเพื่อให้เป็นไปตามกฎและกติกา ซึ่งตนไม่ขอลงในรายละเอียดดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีการหารือถึงเรื่องเสด็จพระราชดำเนินเลียบพระนครในขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค โดยเสด็จออกจากพระบรมมหาราชวังที่จะไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และไปยังวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และเสด็จกลับพระบรมมหาราชวัง ทั้งหมดระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตร คงใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง บวกกับระยะเวลาที่จะประทับอยู่ในวัดต่างๆ ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที รวมแล้วทั้งหมดในขบวนนี้จะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 30 นาที ถือเป็นกระบวนพยุหยาตราใหญ่ ที่จะมีในวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ประชุมหารือกันในรายละเอียดและรวมไปถึงขบวนพยุหยาตราทางชลมารคด้วย ที่จะมีช่วงปลายเดือนตุลาคมซึ่งเป็นหน้ากฐิน ซึ่งจะมีขบวนเรือพระที่นั่ง และเรือรูปสัตว์ต่างๆ ออกจากท่าวาสุกรีไปยังวัดอรุณราชวราราม เพื่อถวายผ้าพระกฐิน และเสด็จกลับเพื่อมาขึ้นที่ท่าราชวรดิษฐ์ ทั้งหมดจะเป็นระยะทางประมาณ 4 กิโลเมตรครึ่ง มีพลพาย 2,200 คน ประจำเรือทั้งหมด 52 ลำ เต็มแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นขบวนพยุหยาตราที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งหนึ่งที่ปวงชนชาวไทยจะมีโอกาสได้เห็นกัน