21 มิ.ย.นี้ “วันครีษมายัน” ช่วงเวลากลางคืนสั้น กลางวันยาวที่สุดในรอบปี ดวงอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่เวลา 05.51 น. ตกลับขอบฟ้าเวลา 1847 น.รวมเวลาที่ดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าราว 12 ชั่วโมง 56 นาที
วันนี้ (21 มิ.ย.2566) นายศุภฤกษ์ คฤหานนท์ ผอ.ศูนย์บริการวิชาการและสื่อสารทางดาราศาสตร์ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) กล่าวว่า ในปี 2566 “วันครีษมายัน” จะตรงกับวันที่ 21 มิ.ย.นี้ เป็นวันที่ช่วงเวลากลางวันยาวที่สุด และช่วงเวลากลางคืนสั้นที่สุดของปี
คำว่า “Solstice” เป็นภาษาอินโดยูโรเปียน Stice หมายถึงสถิต หรือหยุด ดังนั้น Summer Solstice หมายถึงวันที่ดวงอาทิตย์โคจรไปถึงจุดหยุด หรือจุดสุดทางเหนือ แต่ละวันดวงอาทิตย์จะปรากฏในตำแหน่งต่างกัน เปลี่ยนตำแหน่งไปประมาณวันละ 1 องศา ตั้งแต่เดือนมี.ค. ดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ไปทางเหนือเรื่อย ๆ และหยุดที่จุดเหนือสุดในวันที่ 21 มิ.ย.นี้
จากนั้นจะค่อย ๆ เคลื่อนลงมาทางใต้ ทำให้ดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด และตกลับขอบฟ้าทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันยาวที่สุดในรอบปี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือเข้าสู่ฤดูร้อนส่วนประเทศทางซีกโลกใต้เข้าสู่ฤดูหนาว
สำหรับประเทศไทย วันดังกล่าวดวงอาทิตย์ขึ้นเวลาประมาณ 05.51 น. และจะตกลับขอบฟ้าเวลาประมาณ 18.47 น. รวมเวลาที่ดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่บนท้องฟ้าประมาณ 12 ชั่วโมง 56 นาที (เวลา ณ กรุงเทพมหานคร)
นายศุภฤกษ์ อธิบายเพิ่มเติมว่า ฤดูกาลเกิดจากแกนโลกเอียงทำมุม 23.5 องศา กับแนวตั้งฉากกับระนาบโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ทำให้พื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลกได้รับแสงอาทิตย์ในปริมาณไม่เท่ากันส่งผลให้มีอุณหภูมิต่างกัน รวมถึงระยะเวลากลางวันและกลางคืนก็ต่างกันด้วย เหตุนี้ทำให้เกิดฤดูกาลขึ้นบนโลก จะ
สังเกตได้ว่าในฤดูร้อนเวลากลางวันจะยาวกว่ากลางคืน ดวงอาทิตย์จะขึ้นเร็วและตกช้าแตกต่างกับฤดูหนาวเวลากลางคืนจะยาวนานกว่ากลางวัน ดวงอาทิตย์จะขึ้นช้าและตกเร็ว
สำหรับปรากฏการณ์ต่อไปที่เกี่ยวข้องกับการขึ้น-ตกของดวงอาทิตย์ คือ “วันศารทวิษุวัต”(Autumnal Equinox) ในปีนี้ ตรงกับวันที่ 23 ก.ย.นี้ เป็นวันที่ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกและตกทางทิศตะวันตกพอดี ส่งผลให้ช่วงเวลากลางวันเท่ากับกลางคืนพอดี นับเป็นวันที่ประเทศทางซีกโลกเหนือย่างเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ส่วนซีกโลกใต้เข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ