“สุวัจน์”ระเบิดศึก THAI FIGHT โคราช !!! ชิงถ้วยพระราชทานฯ
หวังกระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยวโคราช
เมื่อค่ำคืนวันที่ 7 พ.ย.2563 ณ ศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการอำนวยการจัดการแข่งขันชกมวยไทยโลก Thai Fight เป็นประธานเปิดการจัดแข่งขันชกมวย Thai Fight โคราช ร่วมกับ นายนพพร วาทิน ประธานกรรมการ บริษัท ไทยไฟท์ จำกัด นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อาร์ เอส จำกัด(มหาชน) พร้อมด้วย นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา อดีต รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีตรมว.อุตสาหกรรม ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรวม.อุตสาหกรรม รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ส.ส เขต 2 จ.นครราชสีมา ชพน.คณะผู้บริหาร ผู้สนับสนุน รวมทั้งแฟนมวยชาวโคราชจำนวนมาก
นายสุวัจน์ กล่าวเปิดงานว่ามวยไทยโลก ไทยไฟท์ ได้จัดขึ้นที่โคราช นับเป็นครั้งที่ 4 เป็นปีที่ 11 ของการแข่งขันมวยไทยไฟท์ ในปี 2020 นี้ คณะจัดการมวยไทยไฟท์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ทรงพระราชทานถ้วยรางวัลชนะเลิศ รวมทั้งสิ้น 5 ถ้วยพระราชทาน 4 ถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะเป็นถ้วยพระราชทานสำหรับนักมวยชาย ประเภทสวมนวม 2 ถ้วยพระราชทาน และประเภทมวยคาดเชือก 2 ถ้วยพระราชทาน และถ้วยพระราชทานในสมเด็จพระบรมพระราชินี สำหรับนักมวยหญิงผู้ชนะเลิศกำหนดการสำหรับการแข่งขันมวยไทยไฟท์ ประจำปี 2020 ชิงถ้วยพระราชทาน คือ การแข่งขันในรอบคัดเลือกในวันเสาร์ที่ 9 มกราคม 2564 รอบรองชนะเลิศ ในวันเสาร์ที่ 30 มกราคม 2564 และรอบชิงชนะเลิศในวันเสาร์ ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564
นายสุวัจน์ กล่าวว่ามวยไทยเป็นศิลปะการต่อสู้ของคนไทยมาช้านาน มีความโดดเด่น ด้านการกอดต่อสู้ ซึ่งมีการใช้ทั้ง ร่างกายและจิตใจ สำหรับการต่อสู้ เป็นที่รู้จักกันว่าเป็น”นวอาวุธ” ซึ่งประกอบด้วย การโจมตีจากร่างกาย ด้วย หมัด ศอก เข่า และเท้า ทำให้เกิดนักสู้ ที่มีอานุภาพอย่างมาก นักมวยไทยที่มีชื่อเสียง แต่โบราณในจังหวัดนครราชสีมา คือ มวยไทยโคราช ซึ่งเป็นศิลปะป้องกันตัวของคนโคราช มวยโคราชมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ เพราะคนไทยสมัยนั้นมีการฝึกฝน การต่อสู้ด้วยอาวุธ สั้น ประกอบกับศิลปะแม่ไม้มวยไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องประเทศชาติ อีกทั้งเมืองโคราชเป็นเมืองหน้าด่านชั้นเอก ที่ต้องทำการรบกับผู้รุกรานอยู่เสมอ จึงทำให้ชาวโคราชมีความเป็นนักสู้ มาชั่วหลายอายุคน วีรกรรมแห่งความกล้าหาญและความเสียสละของชาวโคราชที่ประจักษ์ คือ วีรกรรมของท่านท้าวสุรนารี คุณย่าโม ได้นำชาวเมืองโคราชเข้าต่อสู้กับข้าศึกที่เข้ามารุกรานจนได้รับชัยชนะที่ทุ่งสำริด เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2369
“โคราช ถูกกล่าวขานว่าเป็นดินแดนแห่งเมืองมวยในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชานุญาติ ให้กระทรวงมหาดไทย นำประทวนตรงพระราชสีห์ ตั้งครูมวยโคราช คือ นายแดง ไทยประเสริฐ เป็นหมื่นชะงักเชิงชก เพราะการได้ไปชกหน้าพระที่นั่ง และได้สร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดนครราชสีมา นายแดง ไทยประเสริฐ ได้ใช้การแตะและหมัดเวียง ที่รุนแรงเป็นการแตะและต่อยเป็นวงกว้าง เอกลักษณ์ที่สำคัญคือ คาดเชือก โดยใช้ผ้าดิบพันหมัด ตั้งแต่หมัด จดข้อศอก เพื่อป้องกันแรงกระทบจากการแตะและต่อยจากคู่ต่อสู้ และเสริมพลังหมัดให้แข็งแรง จนได้รับขานเรียกว่า “มวยไทยโคราช” จวบจนทุกวันนี้ แม้ระยะหลังมวยไทยโคราชที่ต่อยแบบคาดเชือกจะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นมวยไทยแบบสวมนวม แต่ความเป็นโคราชเมืองมวย ก็มิเสื่อมคลาย ยังคงมีนักชกชาวโคราชรุ่นหลัง ที่ยังคงเป็นตำนานจวบจนทุกวันนี้ เช่น ยักษ์สุข หรือ ยักษ์สุข ประสาทหินพิมาย เจ้าของฉายา ยักษ์ผีโขมด , ประยุทธ์ อุดมศักดิ์ เจ้าของฉายา ม้าสีหมอก หรือ สุภาพบุรุษ นักชก ร่วมทั้ง สกัด พรทวี เจ้าของฉายา ราชาน็อกเร็ว”นายสุวัจน์ กล่าว
นายสุวัจน์ กล่าว่าการแข่งขันไทยไฟท์ โคราช ในค่ำคืนนี้ ได้ขึ้นในรูปแบบ Social Distancing ตามกฎระเบียบปฏิบัติ ของศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโร่น่า 2019 หรือ ศคบ. อย่างเคร่งครัด นักมวยทุกคนได้รับการตรวจร่างกายหาโควิด 19 ที่คลินิกตรวจวิเคราะห์ ทางการแพทย์ ซึ่งได้การรับรองจากกรมวิทยาศาตร์การแพทย์
และไทยไฟท์โคราชในค่ำคืนนี้ มีทั้งหมด 9 คู่ แบ่งเป็นการชกแบบสวมนวม 2 คู่ และแบบคาดเชือก 7 คู่ เป็นการแข่งขันระหว่างนักชกชาวไทย และนักชกชาวต่างประเทศ การแข่งขันมีการถ่ายทอดสด ทางช่อง 8 เพื่อให้พี่น้องชาวไทยทั้งประเทศได้รับชมอย่างมีความสุข และมีความภาคภูมิใจในศิลปะการต่อสู้ของคนไทยและเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมในการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เกิดขึ้นในจังหวัดนครราชสีมา เพื่อร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจอันเนื่องจากโควิด 19 ให้ผ่านพ้นไปได้
ด้าน นายเทวัญ กล่าวว่า ปัจจุบันสถานการณ์โควิดทั่วโลกมีผู้ติดเชื้ออยู่ประมาณเกือบ 50 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตไปล้านกว่าคน ก็ถือว่าประเทศไทยเราได้รับความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนไปไหนก็ใส่หน้ากาก ใช้เจลล้างมือ เว้นระยะห่างกัน พร้อมกับนโยบายรัฐบาลสามารถควบคุมโควิดไทยได้ดี แต่แน่นอนเมื่อมีสถานการณ์โควิด สิ่งที่ตามมาคือเรื่องเศรษฐกิจเพราะประเทศไทยเรา ทุกปีจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวไม่ว่าจะเป็นภาคอีสาน หรือภาคไหนก็แล้วแต่ ปีหนึ่งประมาณ 40 ล้านคน ปัจจุบันนักท่องเที่ยว ดังกล่าวก็ไม่มีเลย ฉะนั้น แน่นอนเศรษฐกิจที่ตามมา เราไม่มีนักท่องเที่ยว
“วันนี้ ก็เป็นโครงการที่บริษัทไทยไฟท์ ได้มาจัดมวยครั้งยิ่งใหญ่ ที่โคราชเป็นครั้งที่ 4 วันนี้ ผมมองด้วยสายตาแล้วบอกได้เลยว่า พี่น้องประชาชนมากันประมาณ 30,000 คน ถือว่าเป็นโครงการหนึ่งที่เราพวกเราช่วยกันจัด ร่วมกับพี่น้องประชาชน ชาวโคราช เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เมืองโคราช และต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวโคราชที่มาแล้วเว้นระยะ ใส่หน้ากาก ใช้เจลล้างมือ และตรวจอุณหภูมิ ก่อนเข้าตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข ขอขอบคุณบริษัทไทยไฟท์ และสปอนเซอร์ ทุกท่านและพี่น้องประชาชนชาวโคราช ที่มาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโคราช” นายเทวัญ กล่าว
