“สุวัจน์” เชียร์ ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งที่ 33

“สุวัจน์” เชียร์ ไทยพร้อมเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างความภาคภูมิใจให้ประเทศชาติ

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า อดีตรองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ กรณี คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 และกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ปี 2568 ว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะว่ากีฬานํามาซึ่งความสุข ความรัก ความสามัคคี ของคนในชาติ การเป็นเจ้าภาพกีฬาแสดงออกถึงศักยภาพ ความเจริญเติบโต พื้นฐานที่ดีของประเทศให้คนทั้งโลกได้รู้จัก โดยเฉพาะกีฬาที่เป็นสากล ซีเกมส์ก็ถือว่าเป็นกีฬาของกลุ่มประเทศอาเซียน

“ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ดี เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง แล้วก็เป็นจังหวะที่ดีที่เวียนกลับมาที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ อันนี้ผมถือว่าเป็น เป็นข่าวดี”นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ บอกว่าขณะนี้โครงสร้างพื้นฐานด้านการกีฬาของประเทศเราก็ได้มีการพัฒนาไปมากอย่าง ภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ก็มีความพร้อม ภาคอีสานที่จังหวัดนครราชสีมาก็มีความพร้อม ภาคตะวันออกจังหวัดชลบุรีก็มีความพร้อม ภาคใต้ภูเก็ต สงขลาก็มีความพร้อม เราสามารถที่จะบริหารจัดการ โดยไม่ต้องลงทุนมากด้วย เพราะใช้โครงสร้างพื้นฐานด้านการกีฬาที่มีอยู่ของแต่ละภูมิภาค แล้วรัฐบาลก็สามารถจะตัดสินใจ ว่าจะเอาซีเกมส์ไปลงที่ภาคไหน หรือจะบูรณาการร่วมกันเลยก็ได้ให้ทุกภาคร่วมกันเป็นเจ้าภาพ กีฬาประเภทนี้ไปที่เชียงใหม่ กีฬาประเภทนี้มาที่โคราช กีฬาประเภทนี้ไปที่ภูเก็ต สงขลา หรือกีฬาประเภทนี้ไปที่จังหวัดชลบุรี เป็นการบูรณาการเพื่อใช้โครงสร้างพื้นฐานร่วมกัน

และสําคัญที่สุด ทําให้เกิดการมีส่วนร่วมของประชาชนทั้งประเทศในการเป็นเจ้าภาพ
ทําให้พี่น้องประชาชนชาวไทยจะรู้สึกภูมิใจว่าเราได้เป็นเจ้าภาพ แล้วก็สนุก มีความสุขจากความสําเร็จของคณะนักกีฬาไทย อย่างจังหวัดนครราชสีมา ถือว่ามีความพร้อมจังหวัดหนึ่งเพราะเราเพิ่งเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ เมื่อปี 2550 เราเรียกว่า “กีฬาซีเกมส์เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา” เราเป็นเจ้าภาพได้ดีแล้วนักกีฬาไทยก็ประสบความสําเร็จได้เหรียญทองมากที่สุด คือ โครงสร้างพื้นฐานครบ อย่างสนามกีฬาหลัก 25,000 ที่นั่ง แล้วที่โคราชก็มีชื่อเสียงเรื่องกีฬา ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล วอลเลย์บอล มวย พี่น้องประชาชนทั้งจังหวัดก็ถือว่ามีกีฬาเป็นหัวใจเราเรียกว่า โคราชเมืองกีฬาอยู่แล้ว

ฉะนั้น การตอบรับ การพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพ โครงสร้างพื้นฐานที่มีอยู่แล้วถ้าเกิดเราสามารถที่จะบริหารจัดการให้แต่ละภาค หรือบางจังหวัดได้ร่วมกันเป็นเจ้าภาพจะเป็นการกระจายความเจริญ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นการแสดงออกถึงภาพลักษณ์และประชาสัมพันธ์ ความเจริญแต่ละส่วนของประเทศไทย แล้วก็จะถือว่าเป็นการกระจายนักท่องเที่ยว

นายสุวัจน์ กล่าวว่าการเป็นเจ้าภาพซีเกมส์คนนับหมื่นในอาเซียนจะต้องมาที่ประเทศไทย จะเป็นประโยชน์มากับสถานการณ์ที่เรากําลังต้องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ แต่ว่าการตัดสินใจนี้ก็เป็นเรื่องของรัฐบาลว่าจะจัดแบบไหน จะมอบให้ภูมิภาคหนึ่ง ภูมิภาคใด จังหวัดหนึ่งจังหวัดใด หรือบูรณาการร่วมกัน เหมือนกับเป็นเจ้าภาพร่วมกัน แล้วก็ตามประเภทกีฬาที่มีความถนัด

สำหรับโคราชถือว่ามีความพร้อมในการที่จะจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ถ้าเราเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 วันนั้นอย่างน้อย มอเตอร์เวย์เสร็จคนอยู่กรุงเทพหรือจังหวัดอื่นจะมาดูกีฬาซีเกมส์ที่โคราช มาไม่ถึงสองชั่วโมงการเดินทางสะดวกมาก พี่น้องประชาชนชาวโคราชก็ตอบรับได้ดี
หลังจากที่ข่าวออกไปทุกคนตื่นเต้นยินดี คือ ตื่นเต้นยินดีที่ซีเกมส์กลับมาอีกเพราะซีเกมส์ครั้งล่าสุดจัดที่โคราช แต่ถึงแม้ว่าจะจัดที่จังหวัดอื่นคนโคราชก็ดีใจ ถ้ามาจัดที่โคราชยิ่งดีใจหลายเท่าเลย เพราะโคราชเป็นเมืองกีฬาอยู่แล้ว ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาลในการพิจารณาน ซึ่งคงจะมีกฎ มีเกณฑ์ว่าจะเลือกยังไง ประเภทกีฬาไหนไปที่ไหน คงจะต้องมีการจัดตั้งคณะกรรมการอะไรขึ้นมา สําหรับจังหวัดนครราชสีมาเองคงจะต้องมีการหารือกันในแต่ละภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เพื่อที่จะเตรียมการให้รัฐบาลเห็นว่าเรามีความพร้อมอย่างไร

“ผมกีฬาอยู่ในหัวใจอยู่แล้ว กีฬาเป็นสิ่งที่ดีมาก ทําให้เกิดความรัก ความสามัคคี วันนี้กีฬาเป็นเรื่องเศรษฐกิจ กีฬาทําให้เกิดความรักชาติ กีฬาลดความขัดแย้ง สร้างความสามัคคี กระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว สร้างความภาคภูมิใจ และกีฬา วันนี้เป็นอาชีพที่ดี เรื่องกีฬาดีมากๆ ผมเชียร์เต็มที่ให้รัฐบาลเป็นเจ้าภาพจัดซีเกมส์ จะไปจัดจังหวัดไหน จะไปแต่ละภูมิภาคได้ทั้งนั้น มาที่โคราชด้วยก็ยิ่งดี เพราะเรามีความพร้อม”นายสุวัจน์ กล่าว