เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 เวลา 10.00 น. ที่ สำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ม.ราชภัฏภูเก็ต ร่วมกับ หอสมุดแห่งชาติ และทายาทกรมพระยาดำรงราชานุภาพ รับมอบหนังสือพร้อมหารือการจัดตั้งแหล่งเรียนรู้ราชสกุลดิศกุลและราชวงศ์จักรี เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณ สู่การผลักดันเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ไทย
นายสำราญ สินธ์ทอง เลขาธิการมูลนิธิอนุรักษ์ทรัพยากรอันดามัน พร้อมด้วย ผศ.ดร.รังสรรค์ พลสมัคร ประธานสภาคณาจารย์และข้าราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และผู้แทนกรมประชาสัมพันธ์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เข้าพบ หม่อมราชวงศ์พิศวาส นาควานิช (ดิศกุล) ธิดาของพลโท หม่อมเจ้าพิศิษฐ์ดิศพงษ์ ดิศกุล, นางสาวบุบผา ชูชาติ ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร และบุคลากรของสำนักหอสมุดแห่งชาติ เพื่อรับมอบหนังสือบริจาคจากมูลนิธิสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพฯ และจากสำนักหอสมุดแห่งชาติ
พร้อมหารือในการจัดตั้งห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับราชสกุลดิศกุลและราชวงศ์จักรี เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ด้านประวัติศาสตร์ไทย และวัฒนธรรมไทยอย่างสมพระเกียรติ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เพื่อสืบสานการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต และน้อมรำลึกถึงพระเกียรติคุณและพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ องค์ปฐมเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ซึ่งทรงได้รับการยกย่องให้เป็น “พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย”
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตมีห้องสมุดที่เปิดให้บริการแก่นักศึกษาและประชาชนอยู่แล้ว แต่ต้องการเชื่อมโยงและต่อยอดสู่การสืบสานพระราชดำริและพระราชกรณียกิจของสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ด้วยแนวคิดจัดตั้งห้องสมุดและแหล่งเรียนรู้เพิ่มเติมที่ให้ความรู้เกี่ยวกับราชวงศ์และสถาบันหลักของชาติ เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณอย่างสมพระเกียรติ
นอจากนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2547 จังหวัดภูเก็ตได้สร้าง อนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ประดิษฐาน ณ บริเวณพื้นที่ท่าแครง เขตเทศบาลนครภูเก็ต โดยความร่วมมือของจังหวัดภูเก็ต หน่วยงานภาครัฐ และประชาชนชาวภูเก็ต เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งการเทิดพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อบ้านเมือง สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต ในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมไทยให้เป็นศูนย์กลางแห่งความภาคภูมิใจของชุมชนอย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม หม่อมราชวงศ์พิศวาส นาควานิช (ดิศกุล) ทายาทสายตรงกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ยังได้แสดงเจตนารมณ์สนับสนุนแนวคิดดังกล่าว โดยมุ่งหวังให้แหล่งเรียนรู้แห่งนี้เป็นพื้นที่ในการให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ ควบคู่ไปกับการปลูกฝังให้เยาวชนรุ่นใหม่มีสำนึกในความรักและความภาคภูมิใจต่อสถาบันหลักของชาติอย่างแท้จริง

