กระทรวงทรัพย์ฯ ติดตามความคืบหน้า แก้ปัญหาไฟป่า หมอกควันภาคเหนือ
วันที่ 24 เม.ย. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมด้วย นายจตุพร บุรุพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์รับฟังการบรรยายสรุปสถานการณ์และผลการดำเนินงานในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน 9 จังหวัดภาคเหนือตอนบนณ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (ส่วนหน้า) ทส. จังหวัดเชียงใหม่
นายวราวุธ กล่าวว่า เรื่องเร่งด่วนขณะนี้คือการทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ครั้งล่าสุดที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้มาสั่งการทางจังหวัดภาคเหนือ สถานการณ์ก็ดีขึ้นมาตามลำดับ เช่นที่ดอยสุเทพ ดอยปุย จุดความร้อน หรือแม้แต่ไฟก็ไม่มีมาหลายสัปดาห์แล้ว ประกอบกับช่วงนี้สถานการณ์ลมมีการเปลี่ยนทิศ ทำให้คุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงใหม่ดีขึ้น สิ่งสำคัญคือ จากนี้ไปต้องมานั่งทำรีวิวกัน กลางเดือนพ.ค.จะมีการประชุม AAR (After Action Review) การทบทวนผลสรุปที่ได้ปีนี้จากต้นปีมาว่าข้อดี ข้อด้อย ข้อผิดพลาด มีอะไรบ้าง เชื่อว่าทุกๆ ครั้งการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นหัวใจสำคัญของการประชุมและการแก้ไขปัญหาทุกครั้ง
“แน่นอนว่าประชาชนจะมีบางกลุ่มที่มีแนวความคิดที่แตกต่าง ที่ผ่านมาต้องขอบคุณอีกครั้งในส่วนทางจังหวัดโดยเฉพาะจังหวัดเชียงใหม่ ท่านผู้ว่าและท่านรองผู้ว่า ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กองทัพภาคที่ 3 ที่ได้ร่วมมือกัน จนกระทั่งวันนี้ เราสามารถควบคุมสถานการณ์ได้เกือบ 100% จุดความร้อนยังมีขึ้นประปราย แต่เมื่อเกิดขึ้นเราก็สามารถดับได้ทันท่วงที”นายวราวุธ กล่าว
นายวราวุธ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับสถานการณ์ภาคเหนือเป็นอย่างยิ่ง ตนได้ย้ำไปในหลายๆ ครั้งว่า เนื่องจากวันนี้ประเทศไทยโดนปัญหารุมล้อมเข้ามาหลายประเด็น ซึ่งที่หนักที่สุดคือเรื่องโควิด-19 นายกรัฐมนตรีได้ระดมสรรพกำลังส่วนหนึ่งแก้ไขปัญหา แต่กรณีปัญหาหมอกควันไฟป่าภาคเหนือนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับคำบัญชาจากพล.อ.ประวิตรได้กำกับ และคอยบัญชาการอยู่ ทำให้ขณะนี้สถานการณ์เริ่มคลี่คลาย ลงทุกๆ พื้นที่ สิ่งที่จะต้องเตรียมในช่วงปลายปีไม่ให้เกิดเหตุการณ์ คือปีที่แล้วทราบมาว่า มีการพูดคุยกัน มีไฟไหม้ป่า คุยกันว่าปีนี้คงจะไม่หนัก แต่กลายเป็นว่า ปีนี้มีปัญหารุนแรงมากกว่าปีที่แล้ว จึงต้องคุยกันว่าเกิดจากประเด็นอะไรบ้าง มีความขัดแย้งอะไรบ้าง หรือมีพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ไม่ได้ทำตามข้อตกลงกันเรื่องการไม่ให้มีการเผา
นายวราวุธ กล่าวด้วยว่า อีกไม่นานจะเข้าสู่ระยะการเผาได้ ขอให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประสานฝ่ายปกครอง จังหวัด ผู้ว่าฯ นายอำเภอ ในการจัดระเบียบการเผา ให้มีการกระจายการเผาไปในพื้นที่ต่างๆ ไม่ให้เกิดการเผาในพื้นที่ที่ติดกันเพื่อป้องกันปัญหาสภาพอากาศ นอกจากนี้ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแต่ละจังหวัด จะประสานทางผู้ว่าราชการจังหวัด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เนื่องจากภารกิจการดับไฟป่าได้ถูกถ่ายโอนให้เป็นภารกิจของท้องถิ่น
“องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีพื้นที่ที่คาบเกี่ยวกับป่าไม้ อุทยาน ต้องตระหนักและทำความเข้าใจในการกำหนดงบประมาณเพื่อดำเนินงานในเรื่องดังกล่าว สำหรับภารกิจในการดับไฟป่าของท้องถิ่น ได้ให้กรมป่าไม้เตรียมการถ่ายทอดองค์ความรู้และการฝึกปฏิบัติแก่ท้องถิ่นต่อไป”นายวราวุธ กล่าว