“สุวัจน์”ระดมกูรูธุรกิจจัด “วธอ.สัญจร ภูเก็ต”ฟื้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวอันดามัน กระตุ้นเศรษฐกิจหลังโควิด
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2563 สถาบันวิทยาการธุรกิจและอุตสาหกรรม (วธอ.) จัดโครงการ “วธอ.สัญจร @ ภูเก็ต” ภายใต้แนวคิด”The Return of Andaman ฟื้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวอันดามัน” ณ ห้องอลังก์ บอลรูม โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล ภูเก็ต รีสอร์ท ถ่ายทอดสดผ่านรายการคนหลังข่าว ช่อง TNN 16 เวลา 10.00 น.-12.30 น.ดำเนินรายการโดย “ณัชชาวีล์ วาณิชย์สุรางค์
โดยมี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี , ประธานที่ปรึกษา มูลนิธิเพื่อการพัฒนาการประกอบการธุรกิจและอุตสาหกรรม และสถาบัน วธอ.เป็นประธานเปิดงานสัมมนา “วธอ.สัญจร @ ภูเก็ต The Return of Andaman ฟื้นเศรษฐกิจท่องเที่ยวอันดามัน” ร่วมกับวิทยากรพิเศษทั้ง 11 ท่าน ประกอบด้วย
นายพิเชษฐ์ ปาณะพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พ.ต.ท.ม.ล.กิติบดี ประวิตร ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ นายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา
นายธเนศวร์ เพชรสุวรรณ รองผู้ว่าการด้านสื่อสารการตลาด การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)
นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน)
และภาคธุรกิจในพื้นที่ นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต นายกฤษ ศรีฟ้า ประธานหอการค้าจังหวัดพังงา น.ส.วิไลพร ปิติมานะอารี ผู้บริหาร ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน)
นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต นางสาวัน ตัน รองประธานอุตสาหกรรมภาคใต้ นายแอนโทนี่ ลาร์ค ประธานสมาคมโรงแรมภูเก็ต
นายสุวัจน์ กล่าวเปิดงาน ว่าหลังจากที่เราจัด “วธอ.talk ทางรอดเศรษฐกิจหลังโควิด-19” ได้ระดมนักธุรกิจทุกแขนงทั้งการลงทุน การส่งออก การท่องเที่ยว ปัญหาการว่างงาน หรือเรื่องเทคโนโลยี เรื่องพลังงาน หลังจากที่เราได้ดำเนินการในวันนั้น ก็มีเสียงตอบรับในทางที่ดี และรัฐบาลก็ได้ส่ง ดร.ไพรินทร์ ชูโชติถาวร ได้เข้ามาร่วมรับฟังด้วยในฐานะประธานกรรมการ ในคณะกรรมการขับเคลื่อนมาตรการบริหารเศรษฐกิจภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส (โควิด-19)
และหลังจากงานเราได้ทำรายงานให้ท่านนายกรัฐมนตรี และท่านได้ตอบรับว่าได้รับแล้ว และได้ส่งผลของการสัมนาไปให้ทางกรมสภาพัฒนาธุรกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณา ซึ่งเราคิดว่าปัญหาไม่ใช่มีแต่กรุงเทพฯ ถ้าเราสามารถสัญจรไปหัวเมืองต่างๆ ซึ่งหัวเมืองต่างๆ มีเศรษฐกิจ มีธุรกิจที่แตกต่างกันไป อย่างทางภาคใต้ แน่นอนถ้านึกถึงภาคใต้ ต้องนึกถึงภาคการท่องเที่ยว ถ้าภาคอีสานก็จะเป็นเรื่องภาคการเกษตร เราได้พูดคุยกันในคณะกรรมการมูลนิธิฯ ว่าเราลงพื้นที่พูดคุยในแต่ละภูมิภาคกันไปเลย เช่นภาคใต้เรื่องท่องเที่ยวก็คิดว่า มาท่องเที่ยวกับ วธอ.สัญจร เพราะนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวภาคใต้ 30 ล้านกว่าบ้านคน ไม่ใช่ภูเก็ต ที่เดียวที่สวยงาม ตรัง ระนอง พังงา กระบี่ สุราษฏร์ธานีก็สวยงาม แต่ตอนนี้เราอยู่ฝั่งทะเลอันดามันมีความสวยสด งดงาม และอันดามันจะกลับมาหลังโควิด ก็เลยใช้คำว่า “The Return Of Andaman” คือ อันดามันตอนนี้อาจจะซบเซา แต่หลังโควิด อันดามันจะกลับมายังไง และด้วยวิธีการอย่างไร เราได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการ เช่น ผู้ว่าราชการจังหวัด 3 จังหวัด คือ ภูเก็ต พังงา กระบี่ มาร่วมให้ความคิดเห็น และขณะเดียวกันก็มีส่วนกลางราชการ เช่น การท่องเที่ยว นักอุตสาหกรรมการบิน อย่างแอร์เอเชีย ซึ่งมีสายการบินที่เชื่อมโยงในพื้นที่ท่องเที่ยวทั้งหมดของภาคใต้
นอกจากนี้ เชิญภาคธุรกิจเอกชน ในแต่ละจังหวัด ซึ่งเป็นตัวแทนจาก ภูเก็ต พังงา กระบี่ เช่น ประธานหอการค้า ประธานสมาคมโรงแรม รวมถึงชาวต่างชาติที่อยู่ในพื้นที่ ว่าปัญหาคืออะไร เราจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เราจะฟื้นฟูกันอย่างไร และอะไรที่เป็น long Team ระยะยาว
“ผมคิดว่า ภูเก็ตเคยเจอหนักๆ เมื่อปี 2547 เจอสึมานิ ตอนนั้นผมเป็นรองนายกรัฐมนตรี ก็คิดว่าแย่แล้วตอนนั้นสูญเสียทั้งโครงสร้างทางพื้นฐาน สูญเสียทั้งสภาพจิตใจ สูญเสียทั้งชีวิตผู้คนที่เป็นชาวไทยและชาวต่างประเทศ แต่หลังจากเหตุการณ์ เราได้ฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วทั้งโครงสร้างทางพื้นฐาน ทั้งการสร้างภาพลักษณ์ใหม่ๆ สิ่งหนึ่งที่ทำให้เราฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็วก็คือ
น้ำใจของคนไทย อันนี้เป็นเคล็ดลับเลย เพราะตอนนั้นผู้ประสบภัยส่วนมากเป็นต่างชาติ บังเอิญตอนเกิดสึนามิ ผู้สื่อข่าวได้เผยแพร่ภาพคนในภูเก็ต คนในสามจังหวัด อันดามัน ลงไปช่วยผู้ประสบภัย เช่น ไม่มีเตียง มีหน่วยพยาบาลลงไปแจกถึงบ้านเลย และช่วยกันอุ้มดูแลคนไข้ คนบาดเจ็บ เป็นภาพของน้ำใจคนไทย ที่ลงไปช่วยผู้ประสบภัย เป็นภาพความทรงจำของคนที่เห็นภาพเหตุการณ์สึนามิ ปรากฏว่าภูเก็ตกลับมาเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดี วิกฤตเป็นโอกาสจริงๆ สมัยนั้น ปี 2546 ผมว่านักท่องเที่ยวภูเก็ต อย่างมากก็ 1 ล้าน หรือ 2 ล้าน แต่ว่าวันนี้นักท่องเที่ยวต่างประเทศมา 10 ล้าน ขึ้นมาตั้ง 4 -5 เท่า ปัจจุบันขึ้นเป็น 30 กว่าล้านหมายถึงก่อนเกิดโควิด” สุวัจน์ กล่าวและย้ำว่า
อันดามัน ประกอบด้วย 6 จังหวัด เราต้องช่วยกันในช่วงฟื้นฟู ประคองกันไปก่อน อย่าให้จมน้ำ และเราก็หวังว่า เมื่อจบโควิดแล้ว มีวัคซีนแล้ว แนวโน้มสูงว่าต้นปีนี้ เศรษฐกิจจะกลับมานับ 1 ใหม่ ก็ไตรมาส 2 ของปีหน้า หรือประมาณกลางปีหน้า ฉะนั้น ช่วงนี้เป็นช่วงที่ยากลำบากที่อยู่ในช่วงสถานการณ์อย่างนี้ ในทุกอุตสาหกรรม ในด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เราก็พยายามที่จะผ่อนคลาย อย่างเช่น เคยมีนักท่องเที่ยวมา 40 ล้านคน แต่ตอนนี้มาไม่ได้ เพราะปิดประเทศมาไม่ได้ หรือถ้าเปิดก็ต้องมี State Quratine 14 วัน ซึ่งอย่างนี้ก็เป็นไปไม่ได้ อย่างเช่น นักท่องเที่ยวอยากมาเที่ยวทะเล และอยากกินอาหารซีฟูสต์ อยากมาดูวัฒนธรรม ก็ไม่อยากจะมากักตัว 14 วัน ถ้าจะได้ก็อาจจะได้เล็กน้อย จาก 40 ล้านคนผมว่าน่าจะได้หลักหมี่น หลักแสน
“ผมเชื่อว่าไทยเที่ยวไทย แล้วไม่ต้อง State Quratine คนไทยพร้อมจะเที่ยว คนไทยมีน้ำใจ ผมว่าถ้าเทียบกับการวางยุทธศาสตร์ ที่จะดึงการท่องเที่ยวกลับมาช่วยผู้ประกอบการ ช่วยผู้คนไม่ให้ตกงานแล้วไปพึ่งมุมเล็กๆ จากการผ่อนปรนเล็กๆ Long State แล้วก็ยังมี State Quratine แล้วเราก็ยังต้องเสี่ยง อีกด้วย ถ้าเกิดหลุดมาแล้วแพร่กระจายเชื้อโควิด ฉะนั้น ผมคิดว่าต้องปิดประตูเสี่ยง และมีประสิทธิภาพมากกว่า ชวนคนไทยมาเที่ยว ชิปช้อปใช้ เราเที่ยวด้วยกัน รัฐบาลออกเงินให้ ขึ้นเครื่องบินรัฐบาลออกตังค์ให้ บางส่วน หรือ ออกคนละครึ่ง ออกไปซื้อร้านค้าเล็กๆ
หรือช้อปดี มีคืน แล้วก็มี Refund Tax 30,000 ผมว่ามาตรการนี้ สามารถช่วยได้ เพียงแต่ว่าไปปรับตัวสมัคร หรือเสนอตัว หรือการปรับใช้ Activity ให้สะดวกขึ้น ทั้งนักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการ ผมว่าตอนนี้ ความคิดดี แต่พอลง Detail implement ยังต้องปรับตัวอีกเยอะ ส่วนตัวผมมองว่าคนไทย มีน้ำใจอยู่แล้ว และวันที่ชาติบ้านเมืองมีปัญหา คนไทยช่วยกันออกมาเที่ยวกัน ผมคิดว่าคนไทยพร้อม แล้วยังมี Activity ที่รัฐบาลได้ช่วยเรื่องการเงิน ผมเชื่อว่า มาตรการ ไทยเที่ยวไทย จะฟื้นเร็วกว่า State Quarantine และไม่ก่อให้เกิดความคิดเห็นที่แตกต่าง เราต้องพยายามสงวนตัวและน้ำใจ และไม่สร้างความแตกแยกกันดีกว่า
ช่วงนี้อาจจะเป็นช่วงยากลำบาก แต่รัฐบาลต้องเข้าไปช่วย ไปช่วยให้คนมาเที่ยวไทย แล้วอะไรที่นอกเนื่องจากนักท่องเที่ยว ก็คือการช่วยประกอบการโดยตรงผู้ประกอบการ อาจจะยังไม่พอ คนก็ยังน้อย ดอกเบี้ยก็ยังต้องจ่าย เงินต้นก็ต้องจ่าย ฉะนั้น ก็อาจจะต้องมีอีกมาตรการ คือยิงตรงไปที่ผู้ประกอบการเลยควรจะเป็นนโยบาย จากแบงค์ชาติโดยตรง เศรษฐกิจมันยังไม่ฟื้นตัว แล้วโควิดก็ยังลากยาวต่อไป ก็ต้องเป็นรัฐบาล หรือแบงค์ชาติ ในการที่จะช่วยผู้ประกอบการรัฐบาลก็อัดงบลงการท่องเที่ยวโครงการไทยเที่ยวไทย ช้อปดีมีคืน คนละครึ่ง โปรโมทให้มีกิจกรรมประชาสัมพันธ์เยอะ ๆ สมมุติ ว่าทุกคนต้อง Work From Home ก็หยุดทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์หยุดทุกสัปดาห์ พร้อมใจกันหยุด ได้ทั้งงานและได้ทั้งท่องเที่ยว ช่วยให้ไทยอยากไทยเที่ยวไทย” นายสุวัจน์ กล่าวและย้ำว่า
“อยากจะบอกพี่น้องประชาชนว่า ถ้าหมดโควิดพวกท่านเตรียมรวยเลย เตรียมมีความสุข แต่ตอนนี้ เราอยู่ให้รอดตอนนี้เราต้องทำ 2 อย่าง
1 การฟื้นฟู จับมือกันแล้วช่วยกันฟื้นฟู รัฐบาลมีนโยบายต่างๆ
2.อันดามัน ควรจะฟื้นฟูอย่างไร สมมุติ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง ตรัง สตูล ที่นี้คือแหล่งท่องเที่ยวอันดามันของประเทศไทยเอาพลังทุกจังหวัด มาเป็นอันดามัน คือแหล่งรวบรวมท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย เชิงทะเล หาดทราย ที่สวยงามของโลกไว้ที่นี้ สมมุติว่าเราสามารถสร้างมาย์ดมาเก็ตติ้ง ให้เห็นภาพใหญ่ของอันดามัน มันก็เหมือนเอาชิ้นแม่เหล็กชิ้นเล็กๆ มากองพลังในการดูดและประชาสัมพันธ์ มันจะมหาศาล
“ผมยังคิดว่ามาอยู่อันดามัน เราไม่ได้อยู่แต่ภูเก็ต แต่จะเที่ยวให้ทั่วทั้งอันดามัน จะทำให้เกิดแมกติจูด เกิดพลังดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลก ก่อให้เกิดความคุ้มค่าของการลงทุนของภาครัฐ เราสามารถวางแผน 6 จังหวัดอันดามัน แล้วนักท่องเที่ยวก็อยากอยู่ยาว เรามีความจำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ในการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อให้เป็นย่านอันดามัน แล้วเชื่อมโยงกับ พวก Activity สมมุติเราจะไปกระบี่เดียวนี้ 2 ชั่วโมง ทำไม่เราไม่คิดแบบ EEC มีรถไฟความเร็วสูง เชื่อมโยง ดอนเมือง สุวรรณภูมิ เชื่อมอู่ตะเภา ชั่วโมงเดียวก็ถึงกันหมดแล้ว ถ้าเราวางโครงสร้างพื้นฐาน เช่นมอเตอร์เวย์ เชื่อมกับอันดามัน มีรถไฟเชื่อมทั้ง 6 จังหวัดอันดามัน หรือตอนนี้เรามีสนามบินหลัก มีสนามภูเก็ต กับกระบี่ ปรากฏสนามบินภูเก็ตเต็ม แต่กระบี่ ยังไม่เต็ม จริงๆเราไม่จำเป็นต้องคิดว่าต้องขยายสนามบิน ก็ใช้สนามบินให้คุ้ม แล้วเชื่อมด้วยระบบ maxclinic
ฉะนั้น เราควรขยายความเป็นอันดามัน แล้วขยายโครงสร้างพื้นฐาน ทางด้านคมนาคม ทางบก ทางรถไฟ ทางมอเตอร์เวย์ เชื่อมกัน อย่างนี้จะเป็นตัวเสริมความหนักแน่น ความเป็นอันดามัน
จะทำให้การท่องเที่ยวในย่านนี้ ซึ่งตัวเลขนักท่องเที่ยวมาเที่ยวภาคใต้ กว่า 30 ล้าน ผมเห็นว่า 50-60 ล้านนี้สบายเลย ยิ่งภาพลักษณ์ของประเทศไทยดีๆอย่างนี้ เมืองไทยเป็นเมืองท่องเที่ยว เป็นเมืองปลอดภัย สองถ้ามาดูแผนที่ประเทศไทย อันดามัน อยู่ฝั่งซ้าย ฝั่งขวา คืออ่าวไทย จริงๆ สมุย ไม่ได้ไกลจากภูเก็ต สุราษฎร์ก็ไม่ได้ไกลจากภูเก็ตเลย เหนือ สมุย ก็คือเกาะเต่า เกาะนางนวล ชุมพร ก็ไม่ได้ไกลเลย เราเคยคิดไม่ว่าจะเชื่อมสองฝั่งทะเลเข้าด้วยกัน ประเทศไทยด้ามขวาน ฝั่งตะวันตก มองไปฝั่งซ้ายมือ ก็คือ ภูเก็ต คือพังงา คือตรัง คือสตูล คือระนอง
ฝั่งขวาที่อยู่อีกฝั่ง แต่ที่อยู่เยื้องๆกันเลยก็มีสุราษฏร์ ชุมพร และประจวบ และมาอยู่ฝั่งขวา แล้วมาดูฝั่งอันดามันมีอะไร ก็จะมีภูเก็ต มีอ่าวพังงา ที่เค้าเรียกว่า ปากเกาะ ซึ่งมีเกาะเล็กๆ 120 เกาะ เป็นเกาะหินปูนมีแร่ธรรมชาติเยอะแยะ พอพระอาทิตย์ส่องมีแสงสีเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา มีที่ไหนในโลก ในพื้นที่ 450 ตร.กิโลเมตร ที่เค้าเรียกว่า พังงาเดย์ แล้วก็มีไปทางตะวันตก ก็จะมี หมู่เกาะสิมิลัน หมู่เกาะสุรินทร์ พอไปทางใต้หน่อย ก็จะเป็น หาดนพรัตน์ธารา กับหมู่เกาะ พีพีเดย์ มีอ่าวมายา ในหมู่เกาะพังงาก็จะมี เขาตะปู มีเขาพิงกัน มีเกาะยาวใหญ่ เกาะยาวน้อย นี้คือย่านธรรมชาติที่มีความสวยงามที่สุดในอันดามัน
ที่นี้เรามาฝั่งขวา เราก็มี สมุย พะงัน หมู่เกาะอ่างทอง เลยขึ้นมาหน่อยชุมพร ก็มีเกาะเต่า เกาะนางนวลที่ดังๆ ที่สวยทีสุดในโลก ซึ่งถ้าเราเชื่อมสองฝั่งทะเล การท่องเที่ยวเข้าด้วยกันคือ เชื่อมอ่าวไทยฝั่งสุราษฎร์ ชุมพร เชื่อมมาอันดามัน ภูเก็ต พังงา กระบี่ มันก็จะเป็นดับเบิ้ล เชื่อมสองฝั่งทะเล ผมว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวจะท่องเที่ยวอย่างมหาศาล”
นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า วธอ.สัญจรครั้งที่. 2 ภาคอีสาน ประตูสู่การค้า จะจัดขึ้นที่จังหวัดนครราชสีมาภาคอีสาน ถือว่าเป็นภาคที่ใหญ่ที่สุด มีภาคการเกษตรซึ่งมีผลกระทบเยอะ แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นโอกาสของภาคเกษตรไทยสูงมากจากเรื่องโควิด การเติบโตจากการส่ง