“ประเสริฐ บุญชัยสุข”

ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนคร นครราชสีมา เบอร์ 2

ชูนโยบาย”สร้างโคราชเป็นเมืองหลวงของอีสาน”

ชั่วโมงนี้ เซียนการเมืองโคราช ต่างวิเคราะห์สนามนายกเล็กโคราช โดยยกให้ หมายเลข 2 “ประเสริฐ บุญชัยสุข” อดีต รมว.อุตสาหกรรม และอดีตรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ในนาม “ทีมโคราชชาติพัฒนา” เป็นเต็งแชมป์ ด้วยดีกรีบวกความเก๋าเกมทางการเมืองตั้งแต่สนามการเมืองท้องถิ่น

“ประเสริฐ” เริ่มต้นเส้นทางการเมืองจากการเป็น ส.จ. ,รองนายก อบจ.นครราชสีมา, รองประธานสภา อบจ.นครราชสีมา, ส.ส.นครราชสีมา 3 สมัย และรัฐมนตรีอุตสาหกรรม เรียกว่า 30 กว่าปีที่ผ่านมา กลุ่มโคราชชาติพัฒนา และพรรคชาติพัฒนา สร้างผลงานไว้ให้ชาวโคราชมากมาย ตั้งแต่สมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ได้วางโครงสร้างพื้นฐานให้กับชาวโคราช เมื่อมาถึงยุคสมัย รศ.เชิดชัย โชครัตนชัย ลงสมัครนายกเทศมนตรี ในสังกัดกลุ่มโคราชชาติพัฒนา ก็ได้รับเลือกตั้งยกทีมปี 2547

มาปี พ.ศ.2564 ยุค 5 G “ประเสริฐ” และทีมงานสนับสนุนของพรรคชาติพัฒนา จะแข็งแกร่งในพื้นที่เขตเทศบาลนคร นครราชสีมา ดังที่เซียนการเมืองโคราชวิเคราะห์ไว้หรือไม่ ติดตามคมความคิดทางการเมืองของ “ประเสริฐ บุญชัยสุข” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนคร นครราชสีมา เบอร์ 2 ทีมโคราชชาติพัฒนา ในบทสัมภาษณ์ต่อไปนี้

มียุทธศาสตร์ในการหาเสียงอย่างไรบ้าง

ผมขอใช้คำว่า “ทีมโคราช ชาติพัฒนา” เราชูนโยบายหลักคือ “สร้างโคราชเป็นเมืองหลวงของอีสาน” ด้วยนโยบาย 5 ประการ คือ 1.เมืองน่าอยู่อย่างยั่งยืน ด้วยการพัฒนาเมืองให้สวยงาม อากาศดี คูเมืองสะอาด น้ำไม่ท่วม ถนนดี รถไม่ติด 2. เมืองศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งของอีสาน ด้วยพัฒนาเมืองให้พร้อมรองรับโครงสร้างคมนาคมพื้นฐานจากส่วนกลาง เช่น ทางหลวงพิเศษหรือรถไฟทางคู่ 3. เมืองท่องเที่ยว ด้วยการจัดงานเทศกาลให้น่าท่องเที่ยว สร้างตลาดเฉพาะ (Niche Market) และส่งเสริมตลาด Street Food เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น 4. เมืองกีฬา ด้วยการส่งเสริมทีมสโมสรกีฬาในด้านศักยภาพและการแข่งขัน รวมทั้งเป็นเจ้าภาพจัดงานแข่งขันกีฬาระดับประเทศ เพื่อกระตุ้นวงการกีฬาของโคราช และ 5. เมืองอัจฉริยะ Smart City ด้วยการนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ เช่น การพัฒนาขนส่งที่ทันสมัย การส่งเสริมอาคารสีเขียว ประหยัดพลังงาน

ซึ่งจะจัดเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ 3 กลุ่ม ได้แก่

1.กลุ่มเรื่องคุณภาพชีวิต วันนี้เมืองโคราช ยังไม่สวยงามเท่าที่ควรจะเป็น เราก็จะทำให้เป็นพื้นที่สีเขียวปรับปรุงภูมิทัศน์รอบเมืองและในชุมชนให้สะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย สวยงามให้ร่มรื่น และคูเมืองโดยรอบ ซึ่งเป็นคูเมืองประวัติศาสตร์ที่มีความสวยงามมาก เราต้องเข้าไปพัฒนาและปรับปรุง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยากจะไปผลักดันอาคารสิ่งปลูกสร้างที่เป็นส่วนของราชการที่ยังคงหลงเหลือไม่มากหนัก จะขอความร่วมมือว่าขอให้ย้ายออกได้ไหมถ้าย้ายได้ออกคูเมืองจะมีความสวยงาม เพราะเป็นพื้นที่โล่ง เราสามารถมาปรับภูมิทัศน์ ปลูกต้นไม้ สร้างลานกีฬาสำหรับคนเมือง ทำเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ ที่นั่งเล่น ทั้งกลางวัน กลางคืนติดไฟ และเรื่องน้ำ ว่าเน่าส่งกลิ่นเหม็นเราต้องเข้าไปปรับปรุง โดยเราจะมีการเชิญผู้เชี่ยวชาญเฉพาะในการออกแบบภูมิสถาปัตย์ มาออกแบบเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ที่สวยงาม

“เรื่องฝุ่นละออง PM 2.5 น้ำเน่าน้ำเสียจะต้องไม่มีตกค้าง ขยะวันนี้ เริ่มมีปริมาณที่มากขึ้น เมืองโคราชเจริญแบบก้าวกระโดด เราต้องเร่งรัดในโครงการกำจัดขยะในระยะที่ 2 เพื่อที่จะได้เพิ่มขีดความสมารถในการกำจัดขยะมากขึ้น แล้วก็แปลงขยะมาเป็นพลังงาน เรามองไปที่ลำตะคอง เป็นลำนำเส้นทางสายหลักที่มาสู่โคราชผ่านเทศบาล เราจะปรับปรุงภูมิทัศน์สองฝั่งถนนลำตะคองให้สวยงาม ถนนต้องเรียบ ผิวจราจรต้องเพิ่มขึ้น เพื่อให้การจราจรลื่นไหล เป็นเมืองที่น่าอยู่ยั่งยืน”

กลุ่มที่ 2 เน้นเรื่องเศรษฐกิจ วันนี้เป็นปัญหาที่หนักมาก ปัญหาที่คนทั้งโลกต้องเผชิญกันอยู่ เพราะเราเจอวิกฤตโควิด รอบแรก รอบที่ 2 ก็เข้าใจได้ ในขณะที่เราเตรียมความพร้อม ทุกประเทศได้ฉีดวัคซีน ป้องกันโควิด โลกเปิดอีกครั้งหนึ่ง ในวันนั้นเราคิดว่าโคราชมีความพร้อม ทั้งเศรษฐกิจระดับมหภาค ขนาดใหญ่ โดยศักยภาพของเมืองโคราช มีความพร้อมมาก เพราะเป็นเมืองอุตสาหกรรมอยู่แล้ว ผลิตสินค้าส่งออก ทั้งชิ้นส่วนยานยนตร์และชิ้นส่วนอิเลกทรอนิกส์ อาหารแปรรูป รวมทั้งอาหารแปรรูป

“เราห่วงเศรษฐกิจในเมืองและเศรษฐกิจชุมชน ต้องพัฒนาในเรื่องของการท่องเที่ยว การพัฒนางานประเพณีสงกรานต์ งานแห่เทียนพรรษา งานลอยกระทง หรือจัดงานปีใหม่ ที่จังหวัดใหญ่ๆ เค้าจัดกัน ให้คนได้มีจุดหมายปลายทางมาท่องเที่ยวที่โคราช และการส่งเสริมการจัดแข่งขันกีฬา เพื่อการท่องเที่ยวโดยเฉพาะกีฬาของเยาวชนคนรุ่นใหม่ การแบทเทิล กีฬาแอคสตรีม การจัดประกวดงานศิลปะ การจัดประกวดดนตรี ไม่ว่าดนตรีไทย ดนตรีโฟล์คซอง ดนตรีสตริง ผมเชื่อว่าเยาวชนยังไม่มีเวที ถ้าเกิดเรามีเวทีรอบคูเมือง ปรับปรุงสวยงาม เราก็จัดกิจกรรมเหล่านี้ให้กับเยาวชน พวกเค้าก็จะมาแข่งขัน แล้วทำให้เศรษฐกิจคึกคักได้”

สุดท้ายต้องยกระดับการพัฒนาเมือง ไปสู่สังคมคุณภาพที่ทันสมัย คือ “โคราชเมืองอัจฉริยะ” Smart City เช่น Smart mobility เรื่องของการขนส่ง ขนย้าย วันนี้เราต้องมีระบบขนส่งมวลชน รถไฟฟ้า จะเป็นแบบไหนอย่างไร ต้องดูที่จุดเหมาะสมกับการลงทุน ระยะทางจากจุดไหนไปไหน ผู้โดยสารต่อวันมีปริมาณพอเพียง ราคาเป็นธรรม ไม่มีมลพิษเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นการขนส่งในบริเวณรอบๆ ปริมณฑลให้เข้าถึงด้วย ไม่ใช่เฉพาะคนในเมืองเทศบาล อันนี้ไม่คุ้มทุนแน่ ต้องมีการเชื่อมโยง เช่น จอหอ มาในเมือง โคกกรวดมาในเมือง หนองบัวศาลามาในเมือง คือ ต่อไปโคราชจะเป็นเมืองอัจฉริยะ

ใช่ครับ เราต้องยกระดับการพัฒนาเมืองไปสู่สังคมคุณภาพทันสมัย “โคราชเมืองอัจฉริยะ” Smart City เช่น

1.สมาร์ท คอมมูนิตี้ (Smart Community) ชุมชนทันสมัย สะอาด ปลอดภัย

2.สมาร์ท แอนเวอร์รอยเมนท์ (Smart environment) สิ่งแวดล้อมที่เป็นมิตร ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต

3.สมาร์ท สมาร์ท เอ็ดดูเคชั่น (Smart Education) วันนี้เรามีโรงเรียนเทศบาล 5-6 แห่ง เราจะปรับคุณภาพและนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้พัฒนาในด้านการศึกษา

4.สมาร์ท เฮลท์ (Smart Health) เรื่องของสุขภาพ วันนี้เรามีศูนย์แพทย์ชุมชน 5 แห่ง เรายกระดับพัฒนาและเพิ่มเรื่องของประสิทธิภาพมากขึ้น ขยายวิธีการเข้าดูแลรักษาพี่น้องประชาชนให้มากขึ้นและขยายศูนย์แพทย์ ให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ

ท่านคิดว่าปัญหาหลักของคนโคราช วันนี้คืออะไร

ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจปากท้องสำคัญมากที่สุด พ่อค้า แม่ค้า จากการลงพื้นที่ไปสัมผัสชุมชน ต่างก็ร้องขอให้จัดสถานที่ให้ค้าขาย เพื่อเป็นสถานที่จำหน่ายสินค้าได้ไหม แล้วก็จัดกิจกรรม เพื่อให้คนมาเที่ยวโคราช มาซื้อสินค้า ซึ่งโคราชมีจุดแข็งคือ โคราชเป็นเมืองอาหารอร่อยมากมาย เช่น ผัดคั่วหมี่ ไก่ย่าง ขนมจีนประโดก เนื้อโคราชวากิว และมีสินค้าอาหารสำเร็จรูปมากมาย อาจจะมีการจัดกิจกรรมประกวดเรื่องอาหาร เช่น เราจะเชิญ เชฟชุมพล แจ้งไพร เซฟกระทะเหล็ก ซึ่งเป็นคนโคราช มาร่วมกิจกรรมเพื่อเข้ามาช่วยกันพัฒนาในเรื่องอาหาร และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วย

ด้านสาธารณสุข มีมาตรการป้องกันโควิด-19 ได้ดีมาก

โคราช วันนี้ เรามี โรงพยาบาลที่ทันสมัยที่เป็นของรัฐ และมีโรงพยาบาลเอกชนเยอะ แต่ในชุมชนเราจะเข้าไปรักษาดูแลรักษาสุขภาพพี่น้องประชาชน ในระดับปฐมภูมิ ที่สามารถดูแลได้ดีและมีประสิทธิภาพ ให้ความรู้ ความเข้าใจในการป้องกันตัวเอง สวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ เฝ้าระวังความปลอดภัยในชุมชน ให้ความร่วมมือกับมาตรการของรัฐ ทำให้โคราชการ์ดไม่ตก ผมเชื่อว่าหลังโควิดจบ โคราชจะเป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาจำนวน

ชาวโคราชาฝากบอก ว่าเดือดร้อนมาก รถติด น้ำไม่ไหล ไฟดับ

ปัญหาที่เราได้เข้าไปรับฟังมาเกือบทุกชุมชน ในระหว่างนี้ ได้มีการพัฒนาเรื่องของการนำสายไฟลงใต้ถนน และมีหลายหน่วยงานเข้ามาทำงานร่วมกัน ซึ่งมีการขุดเจาะ เมื่อเสร็จก็จะมีการปรับถนนให้เรียบร้อย เรื่องของน้ำประปา น้ำไม่ค่อยไหล ไม่สะอาด เราได้ทราบว่า ระบบท่อกระจายน้ำประปาเก่าแก่มาก อาจจะแตก รั่ว เราต้องเข้าไปพัฒนาและปรับปรุงเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยความร่วมมือและประสานงานความเข้าใจกันทุกฝ่าย ไม่ว่าจะระดับจังหวัด ระดับกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ระดับ ส.ส.

ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อจะทำให้สามารถบริหารงานได้สำเร็จตามเป้าหมาย ทั้งเทศบาลมีงบประมาณไม่พอเพียง เทศบาลมีงบประมาณปีละ 800 ล้าน เงินอุดหนุนจากรัฐบาลก็ประมาณ 600-700 ล้าน ปีหนึ่งจะมีรายจ่ายประจำเงินเดือนเจ้าหน้าที่ก็ไป 70-80 เปอร์เซ็นต์ จะเหลือเงินที่จะพัฒนาเทศบาล ก็ประมาณ 200-300 ล้าน ไม่พอต่อการพัฒนาเมือง ต้องรับการสนับสนุนจากรัฐบาลส่วนกลาง

ท่านประเมินสถานการณ์การเลือกตั้งครั้งนี้ อย่างไรบ้าง

เป็นบรรยากาศการเลือกตั้งเหมือนทุกครั้ง มีการแข่งขันกันตามปกติของการเมือง จากการฟังเสียงสะท้อนของพี่น้องประชาชนคนในเมืองโคราช มีความตื่นตัวกันมากในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะไม่ได้เลือกตั้งมา 8 ปีแล้ว ปัญหาที่เค้าพบและเห็นปัญหา เค้าก็มองว่าทีมไหนที่เข้ามาแก้ไขปัญหา และเหมาะสมประชาชนก็มีการพิจารณา เค้าจะมองว่าทีมผู้บริหารเป็นใคร หัวหน้าเป็นใคร

แสดงว่าท่านมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์

(อมยิ้ม) เวลาเราหาเสียง เราจะเข้าไปทุกชุมชนและองค์กร ทุกพื้นที่ เพื่อเข้าไปแนะนำนโยบาย ตามมูลนิธิ สมาคมต่างๆ สถาบันการศึกษา กลุ่มนักธุรกิจ คนรุ่นใหม่ หน่วยงานราชการ และตามชุมชน เพื่อเราจะได้ไปเห็นสภาพและปัญหาในแต่ละชุมชน อย่าง เขต 1 เขต 3 บางเขตเป็นชุมชน ที่ความเจริญยังไม่เข้าไปถึงเต็มที่ จะเห็นสภาพปัญหา ว่าเค้าขาดอะไร มีปัญหาอะไร เช่น หลายชุมชนไม่มีที่พักผ่อนหย่อนใจ ไม่มีสวนสาธารณะ เค้าเข้าไม่ถึง เวลาจะมาก็ต้องไปบุ่งตาหลั่ว มาสวนภูมิรักษ์ ก็คิดว่าถ้าเราได้รับโอกาสจากพี่น้องประชาชน เราจะเน้นในเรื่องของลานกิจกรรม สวนพักผ่อนหย่อนใจ เพื่อให้เข้าถึงทุกคน

ท่านคิดว่าคนรุ่นใหม่ ตื่นตัวกับการเลือกตั้งหรือไม่ อย่างไร

ผมคิดว่าคนรุ่นใหม่โคราช มีความตื่นตัวตั้งแต่มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ตั้งแต่ปี 2562 เราได้เห็นพลังของคนรุ่นใหม่ ที่เค้าอยากจะเห็นสิ่งใหม่ๆ ผมเชื่อว่าพลังคนรุ่นใหม่ ก็จะเป็นพลังที่สามารถขับเคลื่อนและพัฒนาเขตเทศบาลได้ ผมยากจะฝากคนรุ่นใหม่ วันนี้ เราคงเลือกจากการพิจารณาของตัวบุคคลและทีมงานที่สามารถเข้ามาแก้ไขปัญหาได้จริงๆเมื่อเป็นผู้สมัคร ก็ต้องลุยกันเต็มที่ ตื่นแต่เช้า ไปตลาดเช้า ไปเดินในชุมชน และร้านค้า เพื่อให้พี่น้องประชาชน ได้เห็นเราและสัมผัส พูดคุยได้เห็นหน้ากัน เพื่อให้เค้าได้เห็นถึงความตั้งใจของเรา

อยากได้ใจพี่น้องประชาชน อยากได้คะแนนจากพี่น้องประชาชน ต้องเข้าไปสัมผัส เข้าไปรับฟังความคิดเห็นของเค้า เค้าก็ตื่นตัวที่อยากเลือกคนที่เหมาะสมที่จะมาแก้ไขปัญหา ให้กับเค้าได้ เราพยายามที่จะนำเสนอ ให้เค้าเกิดความเชื่อมั่น ในทีมของเรา ในประสบการณ์ ในคอนเนกชั่นและเครือข่ายของเรา ที่เคยมีแนวร่วมงานกับเทศบาล อบจ. จังหวัด และส่วนราชการที่อยู่ในจังหวัด และผู้แทนราษฎร

ท่านกำลังจะบอกว่า

ถ้ามองมาที่โคราช ถ้าเราช่วยกันสร้างเทศบาลนครโคราช ให้เป็นไปตามเป้าหมาย นโยบายที่ผมได้นำเรียน “ว่าเป็นเมืองหลวงของอีสานจริงๆ” อันนี้ได้ความภาคภูมิใจของคนโคราชทั้งจังหวัด นี้คือ ศูนย์กลางเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุน นี้คือ ความแข็งแกร่งของเมืองโคราช ทุกคนจะมองมาที่นี้ จะสำเร็จได้ ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย