อบจ.โคราช เผย ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ยังไม่ยืนยันการจองวัคซีนซิโนฟาร์ม ของท้องถิ่น ระบุระเบียบของราชวิทยาลัยฯ ขัดต่อระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง ย้ำ อบจ.โคราชพร้อมซื้อใช้งบเงินสะสม 88 ล้าน ซื้อวัคซีน แต่ต้องรอราชวิทยาลัยฯแก้ไขระเบียบ ด้าน ผวจ.สั่ง 32 อำเภอ คุมเข้มสกัดเชื้อ โควิด-19จาก แรงงานและปชช.จากพื้นที่เสี่ยง
นครราชสีมา – วันนี้ (4 กรกฎาคม 2564) นายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา กล่าวถึงการสั่งจองวัคซีนซิโนฟาร์ม จำนวน 1 แสนโดส จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ว่า เรื่องนี้คงต้องรอการจัดสรรจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ขณะนี้ยังไม่ได้คงต้องรอการจัดสรรก่อน ส่วนตัวคิดว่าราชสิทยาลัยจุฬาภรณ์คงต้องแจกจ่ายไปยังหน่วยงานต่างๆ ก่อน อีกส่วนค่อยดำเนินการจัดสรรให้ท้องถิ่นตามลำดับ และเมื่อได้วัคซีนมาแล้วทางจังหวัดก็จะดำเนินการจัดสรรให้แต่ละอำเภอต่อไป แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าจะได้จำนวนกี่โดสตามที่จองไป ในจังหวัดนครราชสีมามีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน 2 ยี่ห้อ ผลของการฉีดเป็นไปด้วยดี ยังไม่มีประชาชนหรือบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดวัคซีนมีอาการข้างเคียงที่รุนแรงแต่อย่างใด และหวังว่าจะได้รับวัคซีนเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ประชาชนได้รับวัคซีนไปแล้ว ประมาณ 240,000 คน คิดเป็น 7 เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนประชาชนทั้งจังหวัด แผนการในการฉีดวัคซีนในเดือนกรกฎาคม ตั้งเป้าไว้ 70,000 คน ที่จะต้องได้รับการฉีดวัคซีน สำหรับพื้นที่ที่ต้องจับตามองและเฝ้าระวังจากการเดินทางเข้ามาในพื้นที่ ทั้งในส่วนของประชาชนและแรงงาน คงเป็นในพื้นที่อำเภอใหญ่ๆ ที่น่าเป็นห่วง เช่น อ.เมือง อ.โชคชัย อ.โนนสูง อ.สีคิ้ว อ.ปากช่อง ดังนั้นจึงต้องมีการคุมเข้มมาตรการอย่างจริงจังสำหรับประชาชน แรงงานที่เดินทางมาทั้งจังหวัด
ด้านนายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ทาง อบจ.นครราชสีมา ได้ทำการสั่งจองวัคซีนไปยังราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จำนวน 1 แสนโดส ซึ่งทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ยังไม่ได้ยืนยันการจอง ของทาง อบจ.นครราชสีมา นอกจาก อบจ.นครราชสีมาแล้วยังมีอีกหลายท้องถิ่นที่ยังไม่ได้รับการจองเช่นกัน จากการสอบถามไป เบื้องต้น ทาง อบจ.นครราชสีมา ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้กำหนดเอาไว้ โดยจะต้องรายงานการจัดสรรวัคซีนให้กับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้รับทราบว่าจะจัดสรรวัคซีนให้กับประชาชนอย่างไรบ้างในจังหวัดนครราชสีมา หลังจากได้นับการจัดสรรวัคซีนที่สั่งซื้อ ซึ่งตรงนี้ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้นำรายงานการจัดสรรวัคซีนเข้าเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมโรคติดต่อจังหวัดแล้ว เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา และจะมีการรายงานต่อ ศบค.ใหญ่ ที่ กทม.ทราบ เพื่อที่จะได้นำรายงานฉบับนี้ส่งให้ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ต่อไป ตามขั้นตอนที่กำหนด สำหรับการใช้งบประมาณในการจัดซื้อวัคซีน จำนวน กว่า 88 ล้านบาทนั้น ทาง อบจ.นครราชสีมา ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของการจัดสรรงบประมาณแต่อย่างใด เพราะว่าตามระเบียบที่กรมฯ แจ้งมาสามารถใช้เงินสะสมในการดำเนินการได้ ซึ่งทาง อบจ.นครราชสีมา มีเงินสะสมเพียงพอที่จะดำเนินการ เพียงแต่ตอนนี้ติดที่ขั้นตอนของทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เอง ซึ่งมีขั้นตอนที่ขัดต่อระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างอยู่ นั่นคือ ครั้งแรกที่ทางราชวิทยาลัยฯกำหนดว่า จะต้องมีการบริจาค 10 เปอร์เซ็นต์ กลับคืนให้กับทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อทางราชวิทยาลัยฯ จะนำไปจัดสรรให้กับผู้ด้อยโอกาส ตรงนี้เป็นการขัดต่อระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างของท้องถิ่น ซึ่งหากซื้อจำนวน 100,000 โดส และบริจาคคืนกลับไป 10,000 โดส ทางท้องถิ่นจะได้วัคซีนเพียง 90,000 โดส ก็จะเท่ากับว่าท้องถิ่นได้วัคซีนไม่ครบ พอได้ของไม่ครบคณะกรรมการจัดซื้อจัดจ้างก็มีปัญหาทันที เรื่องนี้ทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์กำลังพิจารณาปรับแก้ให้กับทางท้องถิ่นอยู่ นายวีระชาติฯ กล่าว.
////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา