“สุวัจน์” ชี้ องค์ประชุมสภาส่งผลเสถียรภาพรัฐบาล แนะ ถอดบทเรียนเลือกตั้งครั้งหน้าควรมี 300 เสียง กันสภาล่ม ส่วนปมวาระ “บิ๊กตู่” นั่งนายกฯ 8 ปี อยู่ที่การตีความ
เมื่อวันที่ 1 ม.ค. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์การเมืองปี 65 ว่า การเมืองเป็นเรื่องสำคัญ เพราะเป็นตัวกำหนดนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาให้กับประเทศ และประชาชน โดยเฉพาะเสถียรภาพของรัฐบาล ที่เป็นส่วนสำคัญว่าจะแก้ไขปัญหาประเทศสำเร็จหรือไม่ ยกตัวอย่าง กรณีองค์ประชุมไม่ครบก็ถือว่าทำให้ขาดเวทีระดมสมอง ซึ่งประเทศกำลังประสบวิกฤตโควิด – 19 และวิกฤตเศรษฐกิจ ประชาชนจึงคาดหวังในเวทีสภา แต่พอองค์ประชุมไม่ครบ ย่อมกระทบความเชื่อมั่นในความรู้สึกประชาชน ว่ากลไกสภาที่จะช่วยเหลือพวกเขาไม่เอื้อต่อการทำงาน เรื่ององค์ประชุมจึงเป็นส่วนที่กระทบต่อเสถียรภาพรัฐบาล
“เสถียรภาพรัฐบาลสำคัญมาก เราต้องการความเข้มแข็ง และเสียงที่เพียงพอ เพื่อต่อสู้กับปัญหาต่างๆ รัฐบาลที่มีเสถียรภาพควรมี ส.ส. 300 คน หากเป็นเช่นนี้องค์ประชุมจะไม่เป็นปัญหา และจะนำพาไปสู่ความเชื่อมั่นของประชาชน แต่ขณะนี้รัฐบาลมี 200 กว่าเสียงจึงมีปัญหาเรื่ององค์ประชุม ทำให้กระทบการทำงาน เราต้องถอดบทเรียนนี้ในการเลือกตั้งครั้งหน้า ว่าเราต้องมีตัวเลขที่เหมาะสม ให้เกิดเสถียรภาพที่เพียงพอ” นายสุวัจน์ กล่าว
เมื่อถามถึง การดำรงตำแหน่งครบ 8 ปี ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในปีหน้าจะเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งยังไม่ทราบว่าการตีความเป็นอย่างไร แต่วันนี้ทุกคนเตรียมพร้อมเลือกตั้งอยู่แล้ว แม้ว่าไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าวาระการดำรงตำแหน่งนายกฯ เสี่ยงเกิดอุบัติทางการเมืองใช่หรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า การเมืองอะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องการตีความ
เมื่อถามว่า ถึงเวลาเปลี่ยนผู้นำประเทศแล้วหรือไม่ เพราะให้เวลาแก้ปัญหาประเทศมานานแล้ว นายสุวัจน์ กล่าวว่า ทุกประเทศทั่วโลกมีปัญหาเหมือนกันหมด ไม่ใช่โควิด – 19 เกิดขึ้นที่ประเทศไทยที่เดียว แต่เกิดขึ้นทุกประเทศ ดังนั้น ให้ทุกอย่างเป็นไปตามครรลองประชาธิปไตย โดยให้ประชาชนตัดสินใจ
เมื่อถามว่า จะเป็นแคนดิเดตนายกฯเองหรือไม่ นายสุวัจน์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่คิดอะไรเรื่องนี้ เพราะพรรคชาติพัฒนาให้ความสำคัญเรื่องการทำนโยบาย