ททท. แถลงข่าว เปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยว “Unseen New Series” ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในอีสาน

 นครราชสีมา-วันนี้(8 มกราคม 2565) ที่โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จังหวัดนครราชสีมา นางสาว ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เป็นประธานงานแถลงข่าว “เปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยว ” Unseen New Series” ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “25 Unseen New Series”  ของ ททท. โดย ททท. ได้คัดเลือกแหล่งท่องเที่ยวอันซีนไทยแลนด์ เวอร์ชั่นใหม่ จำนวน 25 แหล่งท่องเที่ยวจากทั่วประเทศ นำมาเป็นจุดขายใหม่ทางการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น สำหรับแหล่งท่องเที่ยว Unseen New Series ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะประกอบไปด้วย 5 แหล่งท่องเที่ยว ได้แก่ โรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา จ.นครราชสีมา , พญานาค 3 พิภพ จ.มุกดาหาร , ภูพระ จ.เลย, หอโหวด จ.ร้อยเอ็ด และโลกของช้าง จ.สุรินทร์

 

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ กล่าวว่า ททท. มีโครงการ “Unseen New Series” เพื่อเป็นแคมเปญชวนเที่ยวเมืองไทย ชวนไปสัมผัสกับเมืองไทยในมุมที่เราอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน ผ่านแหล่งท่องเที่ยว 25 แห่งของแต่ละภูมิภาค ซึ่งมีทั้งแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น Man Made โดยโรงไฟฟ้าลำตะคองชลภาวัฒนา กฟผ. ก็เป็น 1 ใน 5 แหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการคัดสรร ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่โดดเด่นของภาคอีสาน เป็นที่ตั้งของ “เมืองลอยฟ้า” อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยง  ซึ่งถูกกล่าวขานว่า เป็นจุดชมวิวหมื่นล้านที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย รวมถึง เป็นที่ตั้งของ “เมืองใต้พิภพ” อุโมงค์โรงไฟฟ้าใต้ดิน ที่อยู่ลึกไปใต้ผิวดินกว่า 1.5 กิโลเมตร ใช้เป็นแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า โดยการสูบน้ำจากเขื่อนลำตะคองไปเก็บไว้ที่อ่างพักน้ำบนเขายายเที่ยง นับเป็นจุดเช็คอินที่ไม่เหมือนใคร นอกจากนี้ ได้พาผู้สื่อข่าวและตัวแทนบริษัทนำเที่ยวเข้าร่วมกิจกรรมชุมชนท่องเที่ยวเขายายเที่ยง เพื่อเปิดตัวชุมชนท่องเที่ยวภาคอีสาน ซึ่งจะมีกิจกรรมปลูกป่าลอยฟ้า ชมเขาเควสตา และผาชัน

 

ด้านนายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ททท. กล่าวว่า กิจกรรมชุมชนท่องเที่ยวภาคอีสาน เป็นส่วนหนึ่งของโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนเชิงสร้างสรรค์ Creative Tourism   ริเริ่มโดย ททท. เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ทำความรู้จัก เรียนรู้ และทดลองทำกิจกรรมที่น่าสนใจกับเจ้าของพื้นที่ ซึ่งผลประโยชน์ที่จะได้รับคือ นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริงของปราชญ์ชาวบ้าน เกิดความรักความผูกพันต่อวิถีความเป็นอยู่ของสถานที่ที่ได้ไปเยือน รวมทั้ง พัฒนาศักยภาพของตนและเกิดแรงบันดาลใจใหม่ ๆ จากการเดินทางท่องเที่ยว  และในทางกลับกัน การใช้เวลาเพื่อทำกิจกรรมในแต่ละแหล่ง ย่อมส่งผลให้เกิดการพักค้างที่นานขึ้น เกิดการใช้จ่ายในการประกอบกิจกรรมมากขึ้น และกระจายรายได้ไปสู่ระดับสังคมและชุมชนท้องถิ่นอย่างแท้จริง สำหรับชุมชนท่องเที่ยวภาคอีสานทั้ง 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนท่องเที่ยวเขายายเที่ยง จ.นครราชสีมา, ชุมชนบ้านชีทวน จ.อุบลราชธานี , ชุมชนบุ่งสิบสี่ จ.ชัยภูมิ , ชุมชนภูปาเปาะ จ.เลย และชุมชนบ้านเดื่อ จ.หนองคายทาง ททท. คาดว่า การจัดกิจกรรมดังกล่าวจะสามารถกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้อย่างต่อเนื่องในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว นอกจากนี้ ยังกระตุ้นให้เกิดการกระจายตัวของนักท่องเที่ยวชาวไทยไปสู่พื้นที่รอง ลดการกระจุกตัวของนักท่องเที่ยวในเมืองหลัก สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง ของ ททท. รวมทั้ง สร้างการรับรู้ภาพลักษณ์ของภูมิภาคภาคตะวันออกเฉียงเหนือในมุมมองใหม่ บนพื้นฐานของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Creative Economy) กล่าวคือ การส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นอันเป็นอัตลักษณ์ของชาวอีสาน ที่ผสมผสานระหว่างภูมิปัญญาชาวบ้านที่มีมาตั้งแต่บรรพบุรุษ กับวิถีชีวิตของคนยุคใหม่ ตามแคมเปญ “Cool Isan” ของ ททท.

//////////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา