เขื่อนดินพม่าแตก น้ำทะลักท่วม อ.แม่สาย บ้านเรือน-ร้านค้า เสียหายแล้วกว่า 2,000 หลัง
สถานการณ์น้ำแม่น้ำสาย ชายแดนไทย-เมียนมา ยังคงวิกฤตในระดับสูงกว่า 4 เมตร โดยยังมีมวลน้ำจากประเทศเมียนมาไหลมาสมทบอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ยังมีน้ำล้นตลิ่งและแนวกั้นที่ฝ่ายปกครอง และท้องถิ่นอำเภอแม่สายทำป้องกันไว้อย่างหนัก โดยน้ำยังคงไหลทะลักเข้าท่วมบริเวณตลาดสายลมจอย ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจของ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และย่านชุมชนต่างๆ อีกอย่างน้อย 5 ชุมชน ได้แก่ ชุมชนหัวฝาย ไม้ลุงขน เกาะทราย สันทรายให้ และเหมืองแดง
โดยกระแสน้ำไหลเชี่ยวกราก บางจุดท่วมสูงกว่า 1 เมตร หลายพื้นที่ทั้งรถและคนไม่สามารถเดินทางเข้าออกได้ ต้องอาศัยเรือท้องแบนของทางเจ้าหน้าที่หรือไม่ก็เดินลุยน้ำ มีบ้านเรือนของประชาชน และร้านค้าถูกน้ำท่วมไม่น้อยกว่า 2,000 หลังคาเรือน
นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า กรณีน้ำสายล้นเข้าท่วมพื้นที่ชายแดนตั้งแต่ตลาดสายลมจอยเป็นต้นมานั้น ตรวจสอบข้อมูลแล้วทราบว่าเกิดจากเขื่อนดินในประเทศเมียนมาแตก มวลน้ำจำนวนมากจึงเคลื่อนเข้ามาทางสะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ซึ่งมีลักษณะเป็นคอขวดทำให้เข้าท่วมหนักทั้ง 2 ฝั่งประเทศ ซึ่งคาดว่าระดับน้ำจะลดลงตามลำดับและกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็วต่อไป
วันนี้จะประสานกับมณฑลทหารบกที่ 37 เพื่อที่จะส่งรถโรงครัวเพื่อเข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านเรื่องอาหารการกิน น้ำดื่ม และวันพรุ่งนี้จังหวัดจะประชุมเรื่องสาธารณภัยทั้งหมดเพื่อดูความเสียหายและการประกาศภัยจากอุทกภัยเพื่อพิจารณาเป็นเขตให้การช่วยเหลือสำหรับแจกจ่ายถุงยังชีพได้ต่อไป
นายณรงค์พล คิดอ่าน นายอำเภอแม่สาย
เปิดเผยว่า ทางการท้องถิ่นเมียนมา ใน จ.ท่าขี้เหล็ก ได้นำรถแบ็คโฮเข้ามาตักเศษไม้และขยะที่ลอยมากับน้ำ ออกจากคอสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ 1 เพื่อให้น้ำได้ไหลสะดวกและระบายน้ำให้เร็วขึ้น
โดยตลาดท่าล้อ ซึ่งเป็นย่านเศรษฐกิจของจ.ท่าขี้เหล็ก บางจุดท่วมสูงกว่า 2 เมตร และขยายวงกว้าง ร้านค้าและบ้านเรือนริมฝั่งน้ำสายถูกน้ำท่วม นับ 1,000 หลัง ไม่ต่างจากฝั่งไทย และอาจหนักกว่าเนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า