ชาวนาพิมายโอด น้ำลำมูลลด แต่ยังท่วมนาข้าว จมน้ำเน่าตายหมด ทำอะไรไม่ได้ ขณะที่โคราชประกาศพื้นที่ประสบอุทกภัยแล้ว 10 อำเภอ เร่งสำรวจเพิ่ม ของบมาเยียวยาช่วยเหลือ
นครราชสีมา – ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้พยากรณ์ลักษณะอากาศของจังหวัดนครราชสีมา วันนี้ (19 สิงหาคม 2565) ว่า ยังคงได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ซึ่งมีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับ มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมประเทศเมียนมา ซึ่งทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ บริเวณ จ.นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และ จ.อุบลราชธานี แต่วันนี้จะมีฝนลดลง หลังจากนั้นช่วงวันที่ 20-22 สิงหาคม 2565 จะมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้
ซึ่งจากปัจจัยฟ้าฝนดังกล่าว ทำให้ล่าสุดช่วงนี้ พื้นที่จังหวัดนครราชสีมายังคงมีฝนตกต่อเนื่องทุกวัน จึงมีมวลน้ำฝนสะสมจำนวนมากไหลลงลำน้ำธรรมชาติ แต่ที่ลำน้ำมูล ช่วงผ่าน อ.พิมาย กลับพบว่า ระดับน้ำในลำน้ำมูล เหนือเขื่อนพิมาย ระดับน้ำลดลงแล้ว ทางโครงการศูนย์ส่งน้ำและบำรุงรักษาทุ่งสัมฤทธิ์ (เขื่อนพิมาย) จึงหยุดเดินเครื่องผลักดันน้ำทั้งหมด ยกแค่บานประตูระบายน้ำทั้ง 6 บานขึ้นเท่านั้น เพื่อปล่อยให้มวลน้ำเหนือเขื่อนไหลลงพื้นที่ท้ายเขื่อนและลงลำน้ำมูลได้อย่างสะดวก ในขณะที่พื้นที่การเกษตรนาข้าวของเกษตรกรที่อยู่ติดลำน้ำหลายพื้นที่ ยังคงได้รับผลกระทบจากระดับน้ำมูลที่เอ่อล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมมาตั้งแต่ช่วงก่อนหน้านี้ ทำให้ได้รับความเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
โดยนายประคอง ประตูชัย อายุ 62ปี อยู่บ้านเลขที่ 401 ม.16 บ้านใหม่สามัคคี ต.ในเมือง อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หนึ่งในชาวนาที่ประสบภัย บอกว่า ตอนนี้น้ำในเขื่อนพิมายลดลงแล้ว มวลน้ำที่เอ่อท่วมนาข้าวของตนมานานหลายสัปดาห์ สูงกว่า 1 เมตร ก็ลดระดับลงไปกว่า 50-60 เซนติเมตร และแม้น้ำจะลดลง แต่นาข้าวกว่า 50 ไร่ที่ทำนาปรังเอาไว้ยังคงจมน้ำอยู่ กล้าข้าวที่ปลูกไว้เน่าตายเสียหายทั้งหมด และหากมีฝนตกลงมาต่อเนื่องอีก ทางเขื่อนก็ต้องเร่งผลักดันน้ำออก ตอนนี้ได้แต่ยืนมอง ยังไม่รู้จะทำอย่างไรต่อ เพราะน้ำในนายังสูง จะหว่านกล้าใหม่ก็ไม่ได้ คาดว่า จะต้องเจอวิกฤติเสียหายซ้ำอีกแน่นอน
ทั้งนี้ จากการรายงานสาธารณภัยของสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดนครราชสีมา พบว่า พื้นที่ อ.พิมาย มีพื้นที่ประสบอุทกภัย 6 ตำบล 32 หมู่บ้าน ผู้ประสบภัย 2,176 ครัวเรือน พืชไร่เสียหาย 551 ไร่ และนาข้าว เสียหาย 3,557 ไร่ ในขณะที่ภาพรวมทั้งจังหวัด ได้มีการประกาศพื้นที่ประสบสาธารณภัย อุทกภัย ช่วงตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ถึงปัจจุบัน มีพื้นที่ประสบภัยแล้ว 10 อำเภอ ได้แก่ อ.บัวใหญ่ พิมาย โนนแดง หนองบุญมาก สีดา ห้วยแถลง บัวลาย ชุมพวง จักราช และ อ.โชคชัย รวมพื้นที่เสียหาย 59 ตำบล 356 หมู่บ้าน มีผู้ประสบภัย 8,384 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรเสียหาย ประกอบด้วย พืชไร่ 6,625 ไร่ พืชสวน 81,032 ไร่ นาข้าว 49,815 ไร่ บ่อปลา 26 บ่อ และมีสิ่งสาธารณประโยชน์เสียหายด้วย ได้แก่ ถนน 20 สาย ฝา 5 แห่ง และสะพาน 2 แห่ง ได้รับความเสียหาย .
/////////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา