เตือนภัยฉบับที่ 2 รายชื่อจังหวัดพายุฤดูร้อนเข้าพรุ่งนี้

จากกรณีเว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ว่าช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้จะเกิดพายุฤดูร้อนเข้าในหลายจังหวัด ล่าสุดประกาศเตือนภัยฉบับที่ 2 เผยแพร่รายชื่อจังหวัดในกลุ่มเสี่ยงรับมือพายุตั้งแต่วันที่ 13-16 เมษายน 2562 ระบุดังต่อไปนี้

ในช่วงวันที่ 13-16 เมษายน 2562 ประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่า จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่จะเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยผลกระทบตามภาคต่าง ๆ มีดังนี้

ในช่วงวันที่ 13-14 เมษายน 2562

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา มหาสารคาม กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาญเจริญ และอุบลราชธานี

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา และชลบุรี

ในช่วงวันที่ 15-16 เมษายน 2562

ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน ลำพูน ลำปาง ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก กำแพงเพชร พิจิตร และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล

ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณดังกล่าวจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยจะเริ่มแผ่เข้ามาปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกก่อน

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

…..

สำหรับพยากรณ์อากาศประจำวันที่ 12 เมษายน 2562

ลักษณะอากาศทั่วไปพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไปกับมีอากาศร้อนจัดบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งในภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนในระยะนี้ไว้ด้วย

อนึ่งในช่วงวันที่ 13 – 16 เม.ย. 62 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นโดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ รวมถึงฟ้าผ่าได้

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยาความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนโดยทั่วไป กับมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ในขณะที่มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคเหนือตอนล่าง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคใต้มีลมตะวันออกพัดปกคลุม ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 12:00 วันนี้ ถึง 12:00 วันพรุ่งนี้.

ภาคเหนืออากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยทางตอนล่างของภาค
อุณหภูมิต่ำสุด 21-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 38-43 องศาเซลเซียส
ลมตะวันตก ความเร็ว 15-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนืออากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรง ส่วนมากบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม นครราชสีมา
บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 38-42 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

ภาคกลางอากาศร้อนถึงร้อนจัดในตอนกลางวัน
โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรง

ส่วนมากบริเวณจังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี และสุพรรณบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกอากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรง
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด และสระแก้ว
อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-39 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส
ลมเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอากาศร้อนในตอนกลางวัน
อุณหภูมิต่ำสุด 27-28 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 34-38 องศาเซลเซียส
ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

……………….

พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้าตั้งแต่วันที่ 12-18 เมษายน 2562 การคาดหมายลักษณะอากาศ ในช่วงวันที่ 13 – 16 เม.ย. 62 ประเทศไทยตอนบนยังคงมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ และจะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นเป็นบางแห่ง โดยมีลักษณะพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรงบางแห่ง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ ในบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก สำหรับภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น

ส่วนในช่วงวันที่ 17 – 18 เม.ย. 62 ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ข้อควรระวัง ข้อควรระวัง ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะของอากาศร้อนในระยะสัปดาห์นี้ไว้ด้วย ในช่วงวันที่ 13 – 16 เม.ย. 62 ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง ระวังอันตรายจากที่เกิดจากพายุฝนฟ้าคะนอง ฟ้าผ่า และลมกระโชกแรง โดยควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรงไว้ด้วย

 

ลักษณะสำคัญทางอุตุนิยมวิทยา ในช่วงวันที่ 13 – 16 เม.ย. 62 บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและทะเลจีนใต้ ในขณะที่บริเวณประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อน ทำให้บริเวณภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น ส่วนในช่วงวันที่ 17 – 18 เม.ย. 62 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ประกอบกับมีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออก ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคใต้ ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนอง

ภาคเหนือมีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ ตลอดช่วง

ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 เม.ย. 62 มีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่งส่วนมากทางตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 21-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-42 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงวันที่ 13 – 16 เม.ย. 62 มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่

โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 22-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-40 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 17 – 18 เม.ย. 62 มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับลมกระโชกแรง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ภาคกลางในช่วงวันที่ 12 – 13 และ ในช่วงวันที่ 17 – 18 เม.ย. 62 มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 37-41 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 16 เม.ย. 62 อากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่

โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกในช่วงวันที่ 13 – 16 เม.ย. 62 มีอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ส่วนในช่วงวันที่ 17 – 18 เม.ย. 62 มีอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-39 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ตลอดช่วง

อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-37 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง 1-2 เมตร

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ตลอดช่วง

อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงวันที่ 12 – 13 และ 18 เม.ย. 62 มีอากาศร้อน โดยมีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 27-29 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 36-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-15 กม./ชม.

ส่วนในช่วงวันที่ 14 – 17 เม.ย. 62 อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองร้อยละ 10-30 ของพื้นที่ และลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.