ฝรั่งเศสเล็งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รับมือประท้วงแรงสุดรอบ 50 ปี ท้าทายอำนาจมาครง เบนจามิน กริโวซ์ โฆษกรัฐบาลฝรั่งเศส เปิดเผยว่า ฝรั่งเศสกำลังพิจารณาจะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อป้องกันสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นอีกครั้ง
หลังกลุ่มผู้ประท้วงสวมเสื้อกั๊กเหลืองก่อเหตุจลาจลครั้งใหญ่ ระหว่างการชุมนุมประท้วงราคาน้ำมันแพงใจกลางกรุงปารีส และอีกหลายเมืองทั่วประเทศ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากริโวซ์ เรียกร้องให้ผู้ประท้วงแยกตัวออกจากกลุ่มสุดโต่งที่ยุยงให้เกิดเหตุรุนแรง และจัดการเจรจากับรัฐบาล แต่ยืนยันว่ารัฐบาลจะยังไม่เปลี่ยนนโยบาย
ขณะที่รอยเตอร์ส รายงานว่า ผู้ประท้วงส่วนหนึ่งก่อเหตุจลาจลครั้งใหญ่ในกรุงปารีส ทั้งทุบรถ และอาคาร บุกปล้นร้านค้า ทุบประตูหน้าต่าง และปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งนับว่าเป็นเหตุการณ์ความไม่สงบครั้งรุนแรงที่สุดในกรุงปารีส
นับตั้งแต่ปี 1968 โดยเจ้าหน้าที่ได้จับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงทั้งหมด 412 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 133 คน ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ 23 คน ที่ปะทะกับผู้ชุมนุม โดยเป็นการชุมนุมทุกวันเสาร์มาตั้งแต่วันที่ 18 พ.ย
นอกจากนี้ การประท้วงยังนับเป็นการท้าทายอำนาจของประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง ครั้งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำฝรั่งเศส 18 เดือน
โดยมาตรงได้จัดประชุมฉุกเฉินกับนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีมหาดไทย และเจ้าหน้าที่หน่วยงานต่างๆ ที่ทำเนียบประธานาธิบดี วานนี้ หลังเสร็จสิ้นภารกิจเข้าร่วมการประชุม จี20 ที่อาร์เจนตินา เพื่อหาทางรับมือกับเหตุจลาจล และหาทางเจรจากับผู้ประท้วง ซึ่งไม่มีรูปแบบที่ชัดเจน และไม่มีแกนนำการชุมนุม
ขอบคุณภาพจาก เอเอฟพี