“เทวัญ” รมช.ศึกษาฯ นำทัพลูกเสือโคราชกว่า 500 ชีวิต บริจาคโลหิตช่วยแนวหน้า – พร้อมเปิดค่ายลูกเสือ 4 จังหวัด รองรับผู้ประสบภัยชายแดนไทย-กัมพูชา
.
(26 ก.ค. 68) เวลา 13.00 น. ที่ห้องบริจาคโลหิต ภาคบริการโลหิตแห่งชาติที่ 5 ชั้น LG ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้นำคณะลูกเสือแห่งชาติในพื้นที่ จ.นครราชสีมา กว่า 500 คน ประกอบไปด้วย ลูกเสือจากสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัดนครราชสีมา จำนวน 231 คน และลูกเสือจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา นครราชสีมา เขต 1-7 จำนวน 300 คน เดินทางมาร่วมบริจาคโลหิต เพื่อสำรองโลหิตช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุปะทะกันที่ชายแดนไทย-กัมพูชา โดยมีนายวรัท พฤกษาทวีกุล เลขาธิการสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ กล่าวต้อนรับ พร้อมด้วยนายวัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา นายทวีศักดิ์ เที่ยงธรรม ที่ปรึกษาสำนักงานลูกเสือแห่งชาติ และ ส.อบจ. รวมทั้ง สท.ในพื้นที่ร่วมให้การต้อนรับในครั้งนี้ด้วย

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า สำนักงานลูกเสือแห่งชาติได้จัดการประชุมหารือและตัดสินใจเปิดค่ายลูกเสือในจังหวัดที่เกิดเหตุปะทะ ได้แก่ สุรินทร์ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ และบุรีรัมย์ ให้เป็นที่พักพิงสำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

โดยภายในแคมป์ลูกเสือมีทั้งที่นอน ห้องน้ำ ความปลอดภัย และมีลูกเสือที่เป็นจิตอาสาพร้อมดูแลเรื่องอาหารการกิน ตนเห็นว่าขณะนี้มีความพร้อม จึงได้สั่งการให้เปิดค่ายทั้ง 4 จังหวัดทันที

พร้อมกันนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมของค่ายลูกเสือในจังหวัดอื่นๆ ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบเพิ่มเติม เช่น จันทบุรี และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน

สำหรับการบริจาคโลหิตในวันนี้ ตนยืนยันว่าลูกเสือทั่วประเทศมีความกระตือรือร้นและพร้อมเพรียงในการร่วมบริจาคโลหิตเพื่อสำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน ลูกเสือทุกคนแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าอยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือ และในวันนี้ก็มากันอย่างล้นหลามจนเจ้าหน้าที่แทบรับไม่ไหว

นอกจากนี้ สำนักงานลูกเสือแห่งชาติยังได้ส่งทีมลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากน้ำท่วมในภาคเหนือ โดยเฉพาะในจังหวัดน่าน เชียงราย และพะเยา โดยมีการจัดเตรียมถุงยังชีพและส่งมอบให้ลูกเสือนำไปแจกจ่ายแก่ประชาชน พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัยต่างๆ ตนย้ำว่าลูกเสือคือกำลังสำคัญที่สามารถแบ่งเบาภาระของเจ้าหน้าที่รัฐในการดูแลและบรรเทาทุกข์ให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี