นายคลูจยังเตือนว่า ชาวยุโรปหลายล้านคนยังคงไม่ได้รับการฉีดวัคซีน แม้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดีย และมีการแพร่ระบาดรวดเร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา ซึ่งพบครั้งแรกในอังกฤษ
นายคลูจกล่าวว่า ระบบสาธารณสุขของยุโรปมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถรองรับผู้ป่วย ขณะที่จะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ระลอกใหม่ก่อนฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ โดย 3 ปัจจัยที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าว ได้แก่ การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่, การฉีดวัคซีนที่ไม่เพียงพอแก่ประชาชน และการที่ประชาชนมีการพบปะสังสรรค์กันมากขึ้น
2 ก.ค.64 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า องค์การอนามัยโลก เปิดเผยในวันพฤหัสบดีที่ 1 ก.ค. ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในทวีปยุโรปกลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ก่อน หลังจากลดลงมาตลอดช่วง 10 สัปดาห์ที่ผ่านมา พร้อมกับเตือนด้วยว่า จะเกิดการระบาดระลอกใหม่ หากผู้คนไม่ทำตามมาตรการควบคุม
นายฮันส์ คลูจ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ประจำภูมิภาคยุโรป กล่าวว่า ยุโรปกำลังใกล้จะเผชิญการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ และไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาจะเป็นสายพันธุ์หลักในเดือนส.ค.
“จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ใน 53 ประเทศในยุโรปได้ลดลงเป็นเวลา 10 สัปดาห์ติดต่อกัน แต่ช่วงเวลาดังกล่าวได้สิ้นสุดลงแล้ว โดยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 10% ในสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากยุโรปมีการผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม และมีการเดินทางมากขึ้น” นายคลูจกล่าว
นายคลูจยังเตือนว่า ชาวยุโรปหลายล้านคนยังคงไม่ได้รับการฉีดวัคซีน แม้มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พบครั้งแรกในอินเดีย และมีการแพร่ระบาดรวดเร็วกว่าสายพันธุ์อัลฟา ซึ่งพบครั้งแรกในอังกฤษ
นายคลูจกล่าวว่า ระบบสาธารณสุขของยุโรปมีความเสี่ยงที่จะไม่สามารถรองรับผู้ป่วย ขณะที่จะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ระลอกใหม่ก่อนฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ โดย 3 ปัจจัยที่จะก่อให้เกิดความเสี่ยงดังกล่าว ได้แก่ การแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่, การฉีดวัคซีนที่ไม่เพียงพอแก่ประชาชน และการที่ประชาชนมีการพบปะสังสรรค์กันมากขึ้น