“สุวัจน์” ลั่น “ชาติพัฒนา” เล่นการเมือง ยึดประโยชน์บ้านเมือง ก่อนเลือกตั้งสู้เต็มที แต่หลังเลือกตั้งเอาประโยชน์ชาติเป็นตัวตั้ง

อ้อนคนกรุง “ชาติพัฒนา” ทางเลือกใหม่ใช้งานรับรองจะติดใจ
เปิดกลุ่ม “ตัวแม่แก้ปัญหา” แก้สารพัดปัญหาให้ผู้หญิง กลุ่ม เจน – ซี คนรุ่นใหม่ ทีมแบ็คอัพนโยบาย 9 หน้า 9 ไกล พัฒนาประเทศ

เมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา เปิดเวทีปราศรัยใหญ่เพื่อชี้แจงนโยบาย Bangkok No Problem ด้วย 9 Smart เพื่อประกาศความพร้อมของตัวผู้สมัครที่เป็นคนรุ่นใหม่ พร้อมเปิดตัวกลุ่มผู้หญิง “ตัวแม่แก้ปัญหา” และกลุ่ม “ Gen-C” (เจน – ซี) ที่พร้อมจะเข้าไปทำหน้าที่พัฒนาคุณภาพชีวิตให้กรุงเทพฯเป็นเมืองน่าอยู่ อาทิ นางสาวเยาวภา บุรพลชัย บางแค เบอร์ 8 ,นายชนภัทท์ จันทรุเบกษา เขตดอนเมือง เบอร์ 5 , นางสาวอัครวรรณ เจริญผล ผู้สมัครบัญชีนายชื่ออันดับที่ 8 พรรคชาติพัฒนา ,นายไพลิน ชดช้อย เขตบางนา-พระโขนงเบอร์ 18

โดยนายสุวัจน์ กล่าวปราศรัยว่า จากนี้ไปจนถึงวันที่ 24 มี.ค.นี้ การเมืองเริ่มเข้มข้น และ คาดการณ์ยากมากว่าแต่ละพรรคจะได้กี่นั่ง เพราะมีตัวแปรด้านคะแนนเสียงจากคนรุ่นใหม่ 7- 8 ล้านคนเข้ามาเป็นตัวแปร เพราะคนรุ่นใหม่ตื่นตัวทางการเมืองสูงมากจากกระแสปฏิรูปการเมือง และ การเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยและเทคโนโลยี จึงทำให้ย้อนคิดถึงการเลือกตั้งสมัยก่อนที่ตนเคยแข่งขันเลือกตั้งกับ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ขณะนั้นตนได้รับเลือกตั้ง แต่เป็นฝ่ายค้านในฐานะคนรุ่นใหม่ แต่พล.อ.ชาติชาย เป็นนายกรัฐมนตรี ฝ่ายรัฐบาล ยังให้โอกาสและให้เกียรติตนเข้ามาร่วมงานและส่งเสริมคนรุ่นใหม่ แม้ว่าตนและพล.อ.ชาติชาย สังกัดกันคนละพรรค แต่กลับได้รับการสนับสนุนจนได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วย การเมืองในยุคนั้น พล.อ.ชาติชาย กล่าวเสมอว่า ก่อนเลือกตั้งเรียกว่าการเมือง แต่หลังเลือกตั้งเรียกว่า บ้านเมือง

“ก่อนเลือกตั้งเรียกว่าการเมือง เพราะต้องสู้กันให้เต็มที่ แต่พอจบเลือกตั้ง นักการเมืองต้องคุยกัน จึงเรียกว่า บ้านเมือง เพราะทุกฝ่ายต้องช่วยกันคุยกัน ดังนั้นการเมืองในวันนี้ต้องใช้หลักข้อนี้ คือ ก่อนเลือกตั้งสู้กันให้เต็มที่ แต่หลังเลือกตั้งต้องคิดถึงบ้านเมือง แม้ว่าฝ่ายหนึ่งเป็นรัฐบาล อีกฝ่ายเป็นฝ่ายค้าน แต่ต้องคุยกันเพื่อบ้านเมือง” นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีคนแรกของไทย ที่สนับสนุนคนรุ่นใหม่ทำงานการเมือง คือ พล.อ.ชาติชาย ที่เปิดบ้านพิษณุโลกสนับสนุนคนรุ่นใหม่ร่วมงานเป็นที่ปรึกษา เช่น บวรศักดิ์ อุวรรณโณ หรือ สุรเกียรติ์ เสถียรไทย ดังนั้นจึงควรสนับสนุนคนรุ่นใหม่เข้ามาเล่นการเมืองและเข้ามาบริหารพรรค เช่นเดียวกับที่ พล.อ.ชาติชาย สนับสนุนคนรุ่นใหม่ จนเกิดนโยบายใหม่ๆ และที่สำคัญรัฐธรรมนูญ ปี 2560 สนับสนุนพรรคการเมืองขนาดเล็ก และ คนรุ่นใหม่เข้ามาทำงานการเมือง เพราะทุกคะแนนไม่ตกน้ำ ที่สะสมจากทุกเขตเลือกตั้งมาคำนวณ ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้จึงสำคัญอย่างยิ่ง วันนี้หวังเพียงให้กรุงเทพฯรู้จักชาติพัฒนา เช่นเดียวกับคำกล่าวที่ว่ากรุงโรมไม่สร้างเสร็จเพียงวันเดียว แต่จะทำงานด้วยความมุ่งมั่นและพากเพียร

“แม้จะเป็นพรรคชาติพัฒนา จะเป็นพรรคน้องใหม่ในสายตาคนกรุงเทพฯ แต่อยากเป็นทางเลือกใหม่ เพราะถ้าได้เรียกใช้บริการพรรคชาติพัฒนาแล้ว มั่นใจได้เลยว่าคนกรุงเทพฯ จะติดใจผลงานและฝีมือของนักการเมืองรุ่นใหม่ของพรรคที่ขยันขันแข็งในการทำงาน และ นโยบายพรรคที่ต้องการพัฒนากรุงเทพฯอย่างแท้จริง” นายสุวัจน์ กล่าว

นส. อัครวรรณ เจริญผล ผู้สมัคร สส.บัญชีรายชื่อ กล่าวถึงแนวคิดของกลุ่ม “ตัวแม่แก้ปัญหา” เพราะเห็นว่า ผู้หญิงมีความโดดเด่น ด้านใดด้านหนึ่ง ทุกปัญหาแก้ได้ จึงขอเป็นตัวแทนตัวแม่ในการแก้ปัญหา นับแต่วันนี้เป็นต้นไปขอเป็นตัวแทนของผู้หญิงในการแก้ปัญหาของผู้หญิง ทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง โดยระยะแรก จะเน้น 5 เรื่อง คือ 1.จ้างงานตัวแม่ ผู้หญิงอีกหลายๆกลุ่มได้ได้รับสิทธิในการทำงาน โดยเสนอว่านายจ้างใดจ้างแรงงานหญิงจะสามารถหักค่าใช้จ่ายทางภาษีได้ 2.ติดอาวุธตัวแม่ เน้นการพัฒนาทักษะอาชีพแรงงานอย่างจริงจัง และเป็นรูปธรรมเพื่อส่งเสริมศักยภาพ 3.ตัวแม่ไฮเทค โดยจะจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมด้านเทคโนโลยีแก่ผู้หญิงให้มาเรียนฟรี เน้นแรงงานนอกระบบ สตาร์ทอัพ หรือภาคเกษตรกรรม ความรู้ด้านการขายออนไลน์ หรืออี-คอมเมิร์ท , 4.ตัวแม่ปกครองท้องถิ่น เพื่อให้ผู้หญิงได้มีส่วนในการเมืองระดับท้องถิ่น โดยโครงสร้างท้องถิ่นต้องมีผู้หญิงร่วมอยู่ด้วย และ 5.ตัวแม่หมดห่วง คือ จะอุดหนุนค่าจ่ายด้านการศึกษาที่มีรายได้ต่ำกว่าหมื่นบาทต่อเดือนโดยจะอุดหนุนด้านการศึกษา นโยบายดังกล่าวคิดขึ้นมาเพื่อทำงานและพัฒนาสร้างความเสมอภาคของผู้หญิง

สำหรับ กลุ่ม GEN-C คือการรวมตัวของคนรุ่นใหม่ที่อยากจะมีส่วนในการพัฒนาประเทศ และ พื้นที่ชุมชนในเขตต่างๆ โดยแต่ละคนจะใช้ความสามารถความรู้ที่มีเป็นจุดแข็ง จึงทำให้เกิดกลุ่มคนทำงานที่มีศักยภาพ ซึ่งสอดคล้องกับเครื่องมือที่จะนำไว้สร้างความก้าวหน้าให้กับประเทศทั้งหมด 11 คำ ประกอบไปด้วย
Community ,Creativity ,Collaboration
Combination ,Critical Thinking ,Coach ,Cleanliness Courage ,Communication ,Culture
Cyber นำมาเป็นแนวทางทำงานส่งผ่านนโยบาย9 หน้า 9 ไกล ของพรรค ด้วยการดึงการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และสิ่งแวดล้อม ผ่านการมีส่วนร่วมระหว่างพรรคกับประชาชน ผ่านการระดมความคิดในการผลักดันนโยบายจากส่วนล่างระดับชุมชนที่เชื่อมโยงไปสู่ระดับนโยบายชาติ

อย่างไรก็ตามในวันศุกร์ 15 มีนาคม ที่บีทีเอส สกายวอร์ค ช่องนนทรี กลุ่มตัวแม่ จะเปิดรับฟังปัญหาอย่างเป็นทางการ เพื่อนำปัญหามาขับเคลื่อนเป็นนโยบายต่อไป

/-/-/