“ชาติพัฒนากล้า” เสนอเร่งออกพ.ร.ก.เก็บภาษีลาภลอยโรงกลั่นก่อนปันผล วิธีการต้องไม่เป็นภาระประชาชน ไม่ต้องกู้

เมื่อวันที่ 9 พ.ย. 65 ที่รัฐสภา นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค ส.ส.วัชรพล โตมรศักดิ์ รองหัวหน้าพรรค และ อรัญ พันธุมจินดา ผู้อำนวยการพรรค แถลงภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบ พ.ร.ก.ผ่อนผันให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้กองทุนน้ำมัน 1.5 แสนล้านบาท ว่าหากไม่มี พ.ร.ก.ฉบับนี้รัฐบาลจะไม่มีเงินมาแทรกแซงราคาน้ำมันให้น้ำมันถูกลงได้ แต่สิ่งที่นายเทวัญ ลิปตพัลลภ เลขาธิการพรรค ได้อภิปรายต่อสภาฯ คือการหาทางออกด้วยการปฏิรูปโครงสร้างพลังงาน เพื่อลดภาระกองทุนน้ำมันและประชาชน จะได้ไม่ต้องออกพระราชกำหนดในลักษณะนี้อีก ด้วยการใช้อำนาจออกพระราชกำหนดเก็บภาษีลาภลอยโรงกลั่น มาชดเชยหนี้กองทุนน้ำมัน ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลควรรีบดำเนินการ เพราะสิ้นปีนี้ บริษัทโรงกลั่นต่างๆ ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ จะต้องปิดบัญชี จ่ายกำไรปันผลให้ผู้ถือหุ้นแล้ว ถ้ายังช้าจะไม่สามารถเก็บภาษีได้
 
“ค่าการกลั่นปีนี้ เฉลี่ยอยู่ที่ 3.70 บาท สูงสุดเคยขึ้นไปถึง 8 บาทกว่า ช่วงเดือนมิถุนายน ทั้งที่ปีที่แล้วอยู่ที่ 90 สตางค์ต่อลิตร ซึ่งค่าการกลั่นประเทศไทย ไปเทียบเคียงกับราคาน้ำมันสิงคโปร์ ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับต้นทุนที่แท้จริงของโรงกลั่นในประเทศ กลายเป็นต้นทุนที่เป็นภาระประชาชนผ่านการใช้ราคาน้ำมันสูงขึ้น ซึ่งนายเทวัญได้อภิปรายทวงถามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เคยบอกว่า มีการเจรจากับโรงกลั่น ว่าจะปันส่วนกำไรเดือนละ 8,000 ล้านบาท 3 เดือน รวม 24,000 ล้านบาท มาช่วยลดหนี้กองทุนน้ำมัน ลดภาระประชาชน แต่มาถึงวันนี้ก็ยังไม่มีการดำเนินการ เป็นสาเหตุทำให้หนี้กองทุนน้ำมันเพิ่มขึ้นทุกวัน สิ่งที่รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ ต้องออกกฎหมายให้ชัดเจนเหมือนหลายประเทศ มีข้อกฎหมายให้โรงกลั่นบริจาคเงินเข้ากองทุนน้ำมันได้  เมื่อ พ.ร.ก.ผ่านแล้ว สิ่งที่รัฐบาลจำเป็นต้องดำเนินการต่อไป คือการออกมาตรการลดภาระให้ประชาชน ลดราคาน้ำมันลงมาแบบถาวร โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการกู้ยืม เพื่อเป็นภาระประชาชนอีกต่อไป” นายกรณ์ กล่าว

ด้าน นายเทวัญ กล่าวว่า ตัวเลขกำไรโรงกลั่นน้ำมัน หลังจากที่มีค่าการกลั่นสูง ตัวเลขมันฟ้องอยู่ที่กำไรของโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งบางโรงกลั่นน้ำมัน กำไรปีที่แล้วทั้งปีกำไร 12,000 ล้าน แต่ปีนี้แค่ครึ่งปี กำไรสูงถึง 3 หมื่นกว่าล้าน บางโรงกลั่นปีที่แล้วกำไร 4,000 กว่าล้าน ปีนี้แค่ครึ่งปีเท่านั้นสามารถทำกำไรได้ถึง 12,000 ล้านบาท กำไรสูงขึ้นถึง 3 เท่าตัว ซึ่งเห็นชัดเจนว่า ถ้าเราสามารถนำค่าการกลั่นมาชดเชยกับกองทุนน้ำมัน พี่น้องประชาชนจะได้รับผลทำให้น้ำมันถูกลง กองทุนน้ำมันที่เคยติดลบสูง จะติดลบน้อยลง จึงฝากถึงรัฐบาลให้พิจารณาเรื่องค่าการกลั่นและค่าการตลาดที่สูงเกินกว่าความเป็นจริง