พรรคร่วมรัฐบาล แถลงจุดยืน โหวต “อุ๊งอิ๊งค์” เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เจ้าตัวยอมรับ เสนอตัวรับไม้ต่อ เศรษฐา บอกคุณแม่เป็นห่วง แต่ประเทศไทยต้องไปต่อ
วันนี้ 15 สิงหาคม 2567 ที่อาคารชินวัตร พรรคร่วมรัฐบาลได้ร่วมแถลงจุดยืนการส่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ที่จะมีการโหวตในวันพรุ่งนี้ (16 ส.ค.67 )
นายสรวงศ์ เทียนทอง เป็นเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ระบุว่า พวกเราทุกคนในนามพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล วันนี้มีจุดยืนเดียวกัน หลังจากพรรคเพื่อไทยได้มีการประชุมกับกรรมการบริหารพรรค ได้มีมติเสนอชื่อนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ของประเทศไทย
ซึ่งจากที่ท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรได้ออกหนังสือเชิญประชุมวาระการประชุมในวันพรุ่งนี้ 16 สิงหาคม เป็นการเลือกนายกรัฐมนตรีในสภาผู้แทนราษฎร ก็จะมีการเสนอชื่อ โดยพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคให้ความเห็นชอบ ท่านแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี
ด้าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ระบุว่า นี่เป็นสปิริตของพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรค ในรัฐบาลนายกเศรษฐา ทวีสิน เมื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ทำให้ท่านอดีตนายกรัฐมนตรีต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ พวกเราทุกคนก็พร้อมใจกัน เพื่อไม่ให้การบริหารประเทศหยุดชะงัก เราก็พร้อมใจกันที่จะให้พรรคเพื่อไทย ในฐานะที่เป็นพรรคแกนนำร่วมรัฐบาล เป็นผู้เสนอบุคคลที่เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งทางพรรคเพื่อไทยได้ให้ คุณแพทองธาร ชินวัตร ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี
พรรคภูมิใจไทยรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ตัวพรรคเองเรียกประชุมสมาชิก กรรมการบริหารพรรคเมื่อเช้าวันนี้ และได้แจ้งให้ทราบถึง บุคคลที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็เป็นไปตามที่เราได้คาดการณ์ไว้ พอทราบว่าเป็นคุณแพทองธาร ก็ยิ่งมีความมั่นใจ และมีความเชื่อมั่นว่าภายใต้การนำของว่าที่นายกรัฐมนตรีแพทองธาร พวกเราทุกคนก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุนร่วมมืออย่างเต็มที่ และพร้อมที่จะปฏิบัติตามนโยบาย ข้อสั่งการของว่าที่นายกรัฐมนตรี นับตั้งแต่วันแรกที่ดำรงตำแหน่งอย่างเป็นทางการ
ด้านนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ระบุว่า ในนามพรรคพลังประชารัฐ เพื่อไม่ให้ระบบบริหารราชการแผ่นดินล่าช้า พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้ว มีความตั้งใจและมีความเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย จึงสนับสนุนตัวแทนของพรรคเพื่อไทย ก็คือท่านแพทองธาร ชินวัตร มั่นใจในความรู้ความสามารถ จึงสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ เช่นเดียวกับพรรคร่วมทุกพรรค
ด้านนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุว่าเกือบหนึ่งปีเต็มที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ภายใต้การนำของนายกเศรษฐา ทวีสิน ซึ่งระยะเวลาเกือบหนึ่งปีเต็ม ตนและพรรคร่วมรัฐบาล เราได้ร่วมกันทำงานด้วยความตั้งใจแล้วก็มุ่งมั่นที่จะบริหารราชการแผ่นดินเพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ แม้แต่ช่วงเวลาสุดท้าย ก่อนที่จะถึงวันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ท่านอดีตนายกเศรษฐา ยังมาร่วมประชุมมติคณะรัฐมนตรีกับเรา ก็เป็นที่น่าเสียใจที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของท่านเศรษฐาได้ยุติลง วันนี้ตนในฐานะพรรคร่วมรัฐบาล ก็พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ที่มีท่านแพทองธาร ชินวัตร ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป รู้สึกดีใจที่ท่านแพองธาร ได้รับการเสนอชื่อและขอให้ประสบความสำเร็จในการร่วมรัฐรัฐบาลต่อไป
ด้านนายวราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่ามาถึงวันนี้แนวทางการทำงานกับคำมั่นสัญญาที่พรรคชาติไทยพัฒนาได้ให้กับพรรคร่วมรัฐบาลยังไม่เปลี่ยนแปลง เราทำงานกันมาถึงตรงนี้ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นต้องขอบคุณท่านอดีตนายกเศรษฐา ทวีสิน วันนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่พรรคเพื่อไทยได้เสนอแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เป็นคุณแพทองธาร ชินวัตร พรรคชาติไทยพัฒนาเองยืนยันตามเจตนารมย์สนับสนุนแคนดิเดตพรรคเพื่อไทย ที่จะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีเป็นคนที่ 31 ดังนั้นในวันพรุ่งนี้ พรรคชาติไทยพัฒนาจะสนับสนุนคุณแพรทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
ด้านนายทวี สอดส่อง หัวหน้าพรรคประชาชาติ ระบุว่าพรรคประชาชาติได้เข้าร่วมรัฐบาล โดยมีอดีตนายกเศรษฐา เป็นแกนนำ ท่านนายกเศรษฐามีภาวะผู้นำ มาถึงวันนี้พรรคประชาชาติยินดีและมีจุดยืนที่จะดันคุณแพทองธาร ชินวัตรเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31
ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนา ระบุว่ายินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนพรรคร่วมรัฐบาล ในการจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ โดยเฉพาะยินดีที่จะสนับสนุนผู้นำ คือท่านหัวหน้าพรรคเพื่อไทยในการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งจะมีการโหวตพรุ่งนี้ในสภา ซึ่งพรรคชาติพัฒนามีความเชื่อมั่นในตัวท่านหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ว่าท่านเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่และเป็นผู้ที่อยู่ในประวัติศาสตร์ และเป็นรัฐมนตรีที่มีอายุน้อย เป็นผู้นำการเมืองยุคใหม่ และนอกจากนั้นท่านหัวหน้าพรรค มีความรู้ความสามารถมาจากภาคธุรกิจ ถึงแม้ท่านจะเป็นนักการเมืองใหม่ แต่ท่านอยู่กับครอบครัวนักการเมืองมาตลอด ฉะนั้นความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริหารการเมืองบวกกับนักการเมืองรุ่นใหม่และความเข้าใจเศรษฐกิจ ตนมีความมั่นใจว่าท่านแพทองธาร จะเป็นรัฐนายกรัฐมนตรีที่สามารถนำพาประเทศและแก้ไขปัญหาประเทศต่างๆให้ลุล่วงไปด้วยดี ยินดีที่จะสนับสนุนทุกประการ
ด้านนายวสวรรธน์ พวงพรศรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทยรวมพลัง ระบุว่า ประเทศต้องมีนายกรัฐมนตรีโดยเร็ว ต่างประเทศกำลังจับตาดูเราอยู่อย่างใกล้ชิด ไม่ว่าจะการลงทุน การค้าการผลิต ก็ต้องมีนายกฯบริหารประเทศต่อไป พรรคเราเองก็ยินดีสนับสนุนคุณแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 เพื่อขับเคลื่อนประเทศต่อไป
ขณะที่ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า ดีใจที่บ้านเมืองมีกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์ ใครทำผิดก็ต้องยุบไป ใครขาดคุณสมบัติก็ต้องถอดถอนเป็นเรื่องปกติ รัฐธรรมนูญได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้ที่จะดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีมาจากไหน ตอนนี้เราไม่มีนายกรัฐมนตรี จำเป็นจะต้องคัดเลือกใหม่ เราต้องยอมรับกติกานั้นและการที่พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อคุณแพรทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี ก็เป็นไปตามกติกาที่รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ เป็นไปโดยชอบตามกฏหมายทุกประการ ฉะนั้นพรรคเสรีรวมไทยถึงแม้เราจะมีแค่เสียงเดียว แต่เราก็ยินดีที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ เพื่อให้ภารกิจของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ดำเนินไปได้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ขอให้ประสบความสำเร็จ
ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนขอขอบคุณกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย สมาชิกพรรคเพื่อไทยที่ได้เสนอชื่อตนให้เป็นนายกรัฐมนตรี และขอบคุณพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนในการสนับสนุนครั้งนี้ แน่นอนว่าตนจะทำทุกอย่างให้เต็มความสามารถ และรอดูผลโหวตพรุ่งนี้กันอีกทีให้เป็นทางการ
แน่นอนว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา พวกเราทุกคนชื่นชมทำงานของอดีตนายกเศรษฐา ทวีสิน และเสียดายที่จะต้องเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่เราไม่ได้คาดฝันเอาไว้ อดีตนายกเศรษฐาเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่งที่ตนเคารพรักนับถือมาตั้งแต่ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี ท่านเป็นคนที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจทำงาน ก็รู้สึกเสียดายในโอกาสนี้ แต่แน่นอนว่าประเทศต้องไปต่อ
พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เรามีความพร้อมที่จะผลักดันประเทศต่อ ตนมั่นใจในพรรคเพื่อไทย มั่นใจในพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคที่จะช่วยกันนำพาประเทศของเราให้หลุดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจ และแน่นอนว่าเรามารวมตัวกันในวันนี้เพื่อให้ประชาชนได้เห็น ว่าเรามีความตั้งใจมีความมุ่งมั่นและมีความพร้อมเพรียงกันในการที่จะผลักดันประเทศให้ไปต่อ ขอขอบคุณทุกคนที่มารวมกันและตกลงกันทำเพื่อประเทศชาติร่วมกันต่อไป