สุวัจน์ – กรณ์ นำชาติพัฒนากล้า สรงน้ำพระ ขอพรพระไพรีพินาศ ร่วมสงกรานต์ตรอกข้าวสาร นำ Soft Power กู้วิกฤติเศรษฐกิจชาติ
วันที่ 13 เมษายน 2566 เวลา 16.00 น.นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรค พร้อมด้วยผู้สมัครส.ส.กรุงเทพฯ เดินทางไปยังวัดบวรนิเวศวิหาร มากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ โดยได้สรงน้ำพระธรรมวชิรญาณ เจ้าอาวาสวัดบวรฯ และสักการะพระไพรีพินาศ จากนั้นได้นำทีมผู้สมัครร่วมเล่นน้ำสงกรานต์กับประชาชนที่ถนนข้าวสาร โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักสนุกสนาน นายสุวัจน์และนายกรณ์ รวมถึงผู้สมัครถูกรุมฉีดน้ำ กันอย่างสนุกสนานสร้างเสียงโห่ร้องตลอดการเดินเล่นน้ำ
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ได้เห็นบรรยากาศการท่องเที่ยวในวันนี้ กลับมาจากสถานการณ์โควิด-19 ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี ดีใจที่วันครอบครัวและวันผู้สูงอายุรวมถึงวันปีใหม่ไทยกลับมาคึกคัก ถือเป็นสัญญาณที่ดี เป็นวันที่ประชาชนคนไทยกลับมามีความสุขอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้หากสงกรานต์ได้การรับรองจาก UNESCO ให้เป็นมรดกโลก ภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม ก็จะเป็นภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมอันดับที่ 4 ของประเทศ ต่อจากโขน นวดไทย และรำโนราห์ ทั่วโลกจะรู้จักสงกรานต์ปีใหม่ของไทยมากขึ้นเหมือนที่รู้จักตรุษจีนและคริสต์มาส ถือเป็นการใช้ซอฟพาวเวอร์ สู้กับเทคโนโลยี และวิกฤติเศรษฐกิจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นนโยบายของชาติพัฒนากล้า และจะเป็นการกระตุ้นฟื้นฟูเศรษฐกิจได้เร็วที่สุด ซึ่งถนนข้าวสารก็เป็นถนนที่โลกรู้จัก วันนี้ที่พรรคชาติพัฒนากล้าเดินทางมาที่นี่เพราะเป็นจุดที่สามารถสร้างชื่อเสียง และกระตุ้นการท่องเที่ยว ซึ่งตรงกับนโยบายของชาติของพรรคชาติพัฒนากล้า
นายสุวัจน์ ยังกล่าวว่าพรรคชาติพัฒนากล้ามีนโยบายต้องการให้ 4 ปีข้างหน้าการท่องเที่ยวไทยกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งเป็นสองเท่าตัว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจรากหญ้า และ GDP ของประเทศ
นอกจากนี้ วันนี้ได้มากราบพระไพรีพินาศ เพื่อความเป็นสิริมงคลเนื่องในวันสงกรานต์ ส่วนจะมีนัยยะสำคัญหรือไม่นั้น นายสุวัจน์ ระบุว่าชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ชนะทุกเรื่อง