“สุวัจน์” ลั่นชาติพัฒนากล้า พร้อมเป็นทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน
วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 เวลา 10.30 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้าและอดีตรองนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาร่วมงานฉลองครบรอบ 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยมี นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคชาติพัฒนากล้า เดินทางมาร่วมพิธีด้วย ซึ่งก่อนพิธี นายสุวัจน์ฯ ได้เข้ากราบสมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี หรือเจ้าคุณธงชัย เจ้าคณะใหญ่หนกลาง และผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร ที่เดินทางมาเป็นประธานในพิธีพุทธาภิเษกเหรียญ 100 ปี มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
โดยนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า ให้สัมภาษณ์ต่อการจัดตั้งรัฐบาล ว่าบรรยากาศตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีที่หลายพรรคการเมืองแสดงสปิริตทางการเมือง ในการเปิดโอกาสให้พรรคก้าวไกล ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่ได้รับการเลือกตั้งมาเป็นอันดับที่ 1 เป็นผู้เริ่มต้นกระบวนการในการจัดตั้งรัฐบาล แต่หลังจากนี้ไปก็คงต้องรอการรับรองผลการเลือกตั้ง ส.ส.อย่างเป็นทางการจาก กกต.ก่อน ซึ่งจะต้องรับรองผล 95% ภายใน 60 วัน ก่อนที่จะมีการเลือกประธานรัฐสภา และนายกรัฐมนตรี ส่วนพรรคชาติพัฒนากล้า ถือว่าครั้งนี้ได้ ส.ส.เพียง 2 คนไม่สามารถทำอะไรได้มาก พร้อมที่จะเป็นได้ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่มีการติดต่อทาบทามมาที่พรรคชาติพัฒนากล้าแต่อย่างใด
ส่วนการจัดตั้งรัฐบาลครั้งนี้ ที่พรรคก้าวไกลสามารถรวมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลได้ถึง 313 เสียง ถ้าพูดถึงเฉพาะระบบรัฐสภาก็ถือว่ามีเสถียรภาพมาก เพราะตนเองก็พูดมาโดยตลอดในช่วงหาเสียงเลือกตั้งว่ารัฐบาลที่มีเสถียรภาพต้องมีอย่างน้อย 300 เสียงขึ้นไป แต่ด้วยกติกาครั้งนี้ที่มีบทเฉพาะกาล ซึ่งจะต้องอาศัยเสียงของ ส.ว. 250 เสียง เข้ามาร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีกับ ส.ส.500 เสียงด้วย เพื่อให้ได้เสียงเกิน 375 เสียง จึงทำให้ต้องมารอลุ้นเสียงของ ส.ว.ด้วยว่าการตัดสินใจของ ส.ว.จะออกมาเช่นไร
“การเมืองวันนี้ต้องหันหน้าเข้าหากันพูดคุยกัน อะไรที่ไม่เข้าใจกัน เพราะหลังเลือกตั้งแล้วเป็นเรื่องของบ้านเมือง ก่อนเลือกตั้งเป็นเรื่องการเมือง วันนี้ถ้าพูดคุยกันได้บางที ความเข้าใจผิดหรืออะไรต่างๆ มันก็จะคลี่คลายไป อันนี้ก็เป็นวิธีการที่ฝ่ายจัดตั้งรัฐบาลต้องไปดําเนินการว่าทําอย่างไร
ที่จะได้เสียงจากท่านวุฒิสมาชิก มาสนับสนุนให้เพียงพอ”นายสุวัจน์ กล่าว