“สุวัจน์” ปราศรัย ย้ำ คนโคราช ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 24 มี.ค. ให้ได้รัฐบาลประชาธิปไตย นำประเทศกลับมาได้รับความน่าเชื่อถือ บ้านเมืองสู่ภาวะปกติ เศรษฐกิจดีขึ้น …

เมื่อวันที่ 8 มี.ค.ที่โรงเรียนบ้านแชระ อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา
ผู้สมัคร ส.ส. เขต 10 เบอร์ 4 ชยพัทธ์ ธรรมสถิตไพศาล พรรคชาติพัฒนา

นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วยคุณเทวัญ ลิปตพัลลภหัวหน้าพรรคฯและทีมบริหารฯกล่าวปราศรัยต่อประชาชนชาวครบุรี จ.นครราชสีมาว่าวันนี้มาปราศรัยเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบนโยบายของพรรค เพราะการเลือกตั้งครั้งนี้ในวันที่ 24 มี.ค.นี้ มีความสำคัญอย่างมาก เพราะจะได้รัฐบาลที่เป็นประชาธิปไตยจะทำให้ประเทศไทยได้รับความน่าเชื่อถือและบ้านเมืองเข้าสู่ภาวะปกติ โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจจะดีขึ้นและไม่อยากเห็นปัญหาการแบ่งแยกทางการเมืองอีก นั้นคือโจทย์ที่ประชาชนต้องการเห็น ดังนั้นจึงเป็นที่มาพรรคชาติพัฒนาได้นำเสนอเพื่อตอบโจทย์ทั้งสองเรื่อง ด้วยการนำนโยบายสมัย พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี มาปรับใช้ เพราะท่านเป็นนายกรัฐมนตรีที่มีวิสัยทัศน์ด้านการต่างประเทศ เศรษฐกิจ และ ความมั่นคง โดยเล็งเห็นว่าต้องพัฒนาภาคอีสาน เพราะอีสานมีพื้นที่และประชากร 1 ใน 3 ของประเทศ และที่สำคัญชายแดนติดกับประเทศอินโดจีน ถือเป็นตลาดการค้าที่มีกำลังซื้อสูง โดยมีภาคอีสานเป็นฐานการผลิตด้านนิคมอุตสาหกรรม ด้วยการแปรทุ่งมันสำปะหลัง ข้าวโพด หรืออ้อย ให้กลายเป็นอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปเพื่อดึงราคาสินค้าเกษตรให้สูงขึ้นและประชาชนในพื้นที่ได้มีงานทำ ดังนั้นจะทำให้โคราชรุ่งเรืองเหมือนยุค พล.อ.ชาติชาย คนมีงานทำ สินค้าเกษตรราคาดี และพี่น้องมีรายได้สูง

“พรรคชาติพัฒนาเป็นของคนโคราช ท่านชาติชาย สั่งเสียผมให้ดูแลพรรคและรักษาพรรคชาติพัฒนาให้คนโคราช นี่คือคำสั่งที่ท่านสั่งผม ผมจึงอยู่กับน้องๆเพื่อให้พรรคชาติพัฒนาเป็นทรัพย์สมบัติแก่คนโคราช” นายสุวัจน์ กล่าว

นายสุวัจน์ กล่าวว่าพรรคชาติพัฒนา จะทุ่มเทการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาภาคเกษตรแก่คนโคราช โดยเฉพาะ อ้อย และ มันสำปะหลัง ที่ขณะนี้ประสบปัญหาราคาตกต่ำ จะต้องเข้ามาแก้ปัญหาโดยด่วน ด้วยการแปรรูปสินค้าเกษตรเป็นสินค้าอุตสาหกรรม หรือ สินค้าสำเร็จรูปอื่นๆ เช่น แปรรูปเป็นน้ำมันเอธานอล โดยจะพยายามทำให้เต็มสูบด้วยการใช้เอธานอลร้อยเปอร์เซ็นต์เป็นพลังงานทดแทน หรือ นำไปใช้เป็นสินค้าประเภทอื่นๆ ด้วยการนำ “เขตเศรษฐกิจพิเศษที่โคราช หรือที่ อ.ครบุรี ด้วยการให้สิทธิพิเศษต่างๆ เพื่อดึงดูดนักลงทุนมาที่โคราช เพราะโคราชมีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานอย่างมาก เช่น มอเตอร์เวย์ โครงการรถไสมฟความเร็วสูง เป็นต้น