“สุวัจน์”ชูการค้าและการท่องเที่ยว
เปิดปักธงชัย เป็นประตูอีสานสู่ทะเล ขายโอโซนอันดับ 7 วังน้ำเขียว

8 มี.ค. 2562 15:07 น.
นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมด้วยนายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา, นายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล ที่ปรึกษาพรรคฯ ผู้อำนวยการพรรคฯ รวมทั้งผู้สมัครระบบปาร์ตีลิสต์ อาทิ พ.อ.วินัย สมพงษ์ ที่ปรึกษาพรรคฯ ,นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 2 ร่วมปราศรัยใหญ่กับ ไกรสีห์ หล่อธราประเสริฐ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 11 เบอร์ 3 พรรคชาติพัฒนา โดยมีแฟนคลับพี่น้องประชาชนชาวอำเภอปักธงชัยกว่า 4,000 คนฟังการปราศรัย ที่สนามหน้าเทศบาลปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา พร้อมทั้งมีการเปิดเพลง พรรคชาติพัฒนา No Problem ที่ขับร้องโดย คุณยืนยง โอภากุล หรือ ”แอ็ด คาราบาว” สร้างบรรยากาศและมีการเต้นประกอบเพลงอย่างคึกคัก ก่อนรับฟังนโยบายหาเสียง

โดยนายสุวัจน์ฯ ขึ้นกล่าวปราศรัยว่า พรรคชาติพัฒนาขอรับใช้พี่น้องประชาชนอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะนโยบายที่จะมาบอกกับประชาชนว่าเป็นนโยบายที่มีพื้นฐานมาจาก พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และ พล.อ.ชาติชายฯ เป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกของภาคอีสาน และได้สร้างความเจริญให้กับ จ.นครราชสีมาอย่างมาก จ.นครราชสีมา ไม่เคยเจริญเท่ากับในยุคที่ พล.อ.ชาติชายฯ เป็นนายกรัฐมนตรี เอาถนนมิตรภาพ 4 เลนมาโคราชและไปเหนือ ใต้ ตะวันออก ตะวันตก ไปทั้งประเทศ เพราะถนนคือทูตแห่งความเจริญ และด้านการศึกษาเอามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีมา เดี๋ยวถนนมา ไฟมา น้ำมา หมู่บ้านมา อุตสาหกรรมมานี่คือความเจริญ

นอกจากนี้คนโคราชทำไมต้องไปหางานที่อื่น ฉะนั้นเอางานมาหาคนโคราช พล.อ.ชาติชายฯ ได้ประกาศนโยบายแปรสนามรบเป็นสนามการค้า เปิดประตูโคราชเป็นประตูสู่อีสาน อีสานเป็นประตูสู่อินโดจีน เมื่อ 20 ปีที่แล้วไปไหนที่ดินมีราคา ทุกคนมีงานทำ สินค้าเกษตรไม่มีราคาตก ไม่เคยมีม็อบเกษตรกรในสมัยยุค พล.อ.ชาติชายฯ และเอาโรงงานมาตั้งมากมาย ซื้อสินค้าเข้าโรงงานมากๆ เอาอุตสาหกรรมมาซื้อสินค้าเข้าโรงงาน เพื่อดูดซับไม่ให้สินค้าเหลือ เศรษฐกิจง่ายๆ เวลาสินค้าเหลือก็ไม่มีราคา เวลาสินค้าขาดก็มีราคา เอาข้าว อ้อย ยางพารา มันสำปะหลังเข้าโรงงงานมากๆ ฉะนั้นในช่วงรัฐบาล พล.อ.ชาติชายฯ เขาบอกว่า เศรษฐกิจยุคทอง เศรษฐกิจยุคน้าชาติ เศรษฐกิจกระจายพี่น้องประชาชนมีความสุข ฉะนั้นพรรคฯ ก็คิดถึงในยุค พล.อ.ชาติชายฯ พี่น้องทั่วประเทศขอฝากพรรคฯว่า ช่วยเอาเศรษฐกิจยุคน้าชาติกลับมาหน่อย

“วันนี้บ้านเมืองมีปัญหามีความขัดแย้งขอให้เราช่วยเป็นพรรคการเมืองที่มีกติกาอย่าสร้างปัญหา ฉะนั้นพี่น้องประชาชนได้ฝากมา 2 เรื่อง

1.เรื่องเศรษฐกิจ 2.เรื่องความขัดแย้ง พรรคฯ ได้เอาปัญหาของประชาชนมาทำเป็นนโยบายให้คนทั้งประเทศ 3 นโยบายคือ
นโยบายทั้งประเทศ ก้าวหน้า ก้าวไกล ไทยไร้ปัญหา นโยบายที่กรุงเทพฯเมืองหลวงคือ นโยบายสมารทซิตี้ เมืองทันสมัย นโยบายที่โคราชบอกว่า โคราช No Problem ไม่มีปัญหา ทั้ง 3 นโยบายจัดทำขึ้นโดยเอา พล.อ.ชาติชายฯ เป็นหลัก เรื่องการคมนาคม ถนน 4 เลน 8 เลน ถนนมอเตอร์เวย์มาโคราชต้นปี 2563 ได้ใช้และจะไม่เห็นจราจรติดขัดและจะต้องให้พี่น้องประชาชนทั้งอีสานได้ใช้กันให้ทั่วจึงมีนโยบายจะต่อถนนมอเตอร์เวย์ไปทุกๆ จังหวัดในภาคอีสาน รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง 250 กม./ชั่วโมง ที่จะดึงนักลงทุน นักท่องเที่ยวมาสู่ จ.นครราชสีมา โดยอำเภอปักธงชัยและอำเภอวังน้ำเขียวเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดีที่สุด โอโซนระดับ 7 ของโลก”

สุวัจน์ กล่าวและย้ำว่า ตอนนี้เราให้ความสำคัญกับผู้ประกอบการท้องถิ่นจะเข้ามาช่วยจัดตั้งกองทุน SME เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ และการเน้นเอาการท่องเที่ยวมาเป็นเศรษฐกิจหลักของประเทศ นี่เป็นนโยบายพรรคชาติพัฒนาที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยว เราจะเอาเศรษฐกิจยุคทองของน้าชาติกลับมา ขอให้ประชาชนสบายใจได้เรื่องเศรษฐกิจไม่ต้องห่วงเราพัฒนาเราทำให้เห็นมาแล้ว แต่ที่ห่วงตอนนี้การเมืองแรงเหลือเกินกว่า 10 ปีมาแล้วที่ประเทศชาติติดหล่มพื้นฐานมาจากการเมืองขัดแย้ง แต่ไม่ต้องห่วงพรรคชาติพัฒนาไม่ขัดแย้งกับใคร พรรคชาติพัฒนา No Problem ไม่มีปัญหา เราเล่นการแบบนักกีฬา รู้แพ้รู้ชนะ ให้อภัย เสียสละ ไม่ทะเลาะกับใคร ฟังเสียงประชาชน ยึดถือกติกา ทุกอย่างตัดสินด้วยเสียงข้างมาก ถ้านักการเมืองทุกคน พรรคการเมืองทุกคนเล่นตามกติกา ฟังเสียงประชาชน ตัดสินในห้องประชุม ใช้กติกาเป็นหลัก บ้านเมืองไม่มีปัญหา พรรคชาติพัฒนาจะยุติความขัดแย้งทางการเมือง ขอให้พี่น้องประชาชนสบายใจ และการบ้านที่ฝากพรรคชาติพัฒนามาเราจะทำให้กับพี่น้องประชาชน
สุวัจน์ ปราศรัยต่อว่า มีคนบอกว่าที่โคราชเป็นสมรภูมิทางการเมืองที่ดุเดือดที่สุด ทุกพรรคต่างมาแย่งตำแหน่งที่โคราช มี 2-3 พรรคต้องการ 14 ที่นั่ง และทุกคนอยากที่จะได้หมด ผมขอฝากพี่น้องประชาชนว่า เที่ยวนี้พรรคฯส่งครบทั้ง 14 เขต นโยบายของคนโคราช นโยบายของ พล.อ.ชาติชายฯ นโยบายของเศรษฐกิจยุคทอง นโยบายที่ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อยตั้งแต่สมัย พล.อ.ชาติชายฯ เป็นนายกรัฐมนตรีมาให้พี่น้องประชาชน และไม่ว่าพรรคชาติพัฒนาจะได้ ส.ส.กี่ที่นั่ง แต่ผมอยากบอกพี่น้องชาวโคราชว่า พล.อ.ชาติชายฯ สั่งกับผมไว้ก่อนเสียชีวิตไว้ประโยคสุดท้ายว่า พรรคฯ เป็นพรรคของคนโคราช ผมคนเดียวจะรักษาพรรคฯ ไว้ไม่ได้เด็ดขาด แต่ถ้าคนโคราชช่วยผมรักษาพรรคฯเอาไว้ พรรคฯจะอยู่กับคนโคราชตลอดไป
ฉะนั้น การต่อสู้ครั้งนี้จะได้กี่เสียงผมไม่ทราบก็แล้วแต่ประชาชนชาวโคราช แต่ผมยินดีต้อนรับอยากให้ทุกคนมาแข่งกัน เสนอนโยบายดีๆ ให้กับประชาชนชาวโคราช เพื่อให้คนโคราชได้สิ่งที่ดีที่สุด ผมจะแพ้จะชนะก็ไม่เป็นไร แต่ผมอยากให้คนโคราชได้สิ่งที่ดีที่สุด แต่สำคัญที่สุดผมอยากให้คนโคราชนึกถึง พล.อ.ชาติชายฯ และช่วยกันรักษาพรรคชาติพัฒนาเอาไว้ได้นะครับ พรรคชาติพัฒนามีที่มั่นฐานสุดท้ายอยู่ที่โคราช เกิดที่โคราช ได้ ส.ส.มากที่สุดก็ที่โคราช

“ผมต้องบอกว่าฐานที่มั่นสุดท้ายก็คือที่โคราช ถ้ารบที่โคราชแล้วแพ้ก็เหมือนกับรบที่เมืองลวงแล้วยังแพ้แล้วจะไปรบที่อื่นได้ยังไง ฉะนั้นที่เมืองหลวงต้องสู้เต็มที่ และต้องชนะ ขอให้ช่วยกันรักษาพรรคฯ เอาไว้ เพื่อให้มาพัฒนา เราจะต้องสานต่อเจตนารมณ์ในการสร้างความเจริญให้เกิดขึ้นกับ จ.นครราชสีมา วันที่ 24 มีนาคมนี้ช่วยกันไปใช้สิทธิ์กันมากๆ เลือกสิ่งที่ดีที่สุด เลือกพรรคการเมืองที่ดีที่สุด เลือกนโยบายที่ดีที่สุด และในจำนวนนั้นขอให้ช่วยกันพิจารณาผู้สมัครพรรคชาติพัฒนาทุกเขต และอยากให้ได้ช่วยกันรักษาพรรคชาติพัฒนาเพื่อให้อยู่กับคนโคราชตลอดไป “ นายสุวัจน์ฯกล่าว.