“สุวัจน์” ชู “สกลนคร” ดันเป็นดินแดนท่องเที่ยว “พระเกจิดัง” อารยธรรมโบราณ วัดเก่าแก่มากมาย ต้องนำมาเป็นจุดขายดึงดูดเม็ดเงิน รับปากจะผลักดันเม็ดเงินเที่ยวอีสาน ให้ทะลุ5แสนล้านต่อปี

เมื่อวันที่ 14 มี.ค.เวลา 15.00 น. นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา พร้อมคณะเดินทางไปปราศรัยาหาเสียงให้ วีรศักดิ์ พรหมภักดี ผู้สมัคร เขต 3 เบอร์ 2 , ศกุลตลา จันทรทรัพย์ ผู้สมัคร เขต 4 เบอร์ 7 และ ว่าที่ ร.ต.รังสฤษ์ฎ์ ดาวจันทึก ผู้สมัคร เขต 5 เบอร์ 3 ที่สนามโรงเรียนปาละวัน อ.วาริชภูมิ เพื่อแนะนำตัวผู้สมัคร และ ชี้แจงนโยบายของพรรคชาติพัฒนาในการพัฒนาจังหวัดสกลนครและภาคอีสานให้กับประชาชนนับหมื่นคนได้รับฟัง

นายสุวัจน์ กล่าวตอนหนึ่งว่า จุดเด่นด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดสกลนครที่ดีเยี่ยมที่สุด คือ วัฒนธรรมท้องถิ่นที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะจังหวัดสกลนครขึ้นชื่อเรื่องพระอาจารย์หรือเกจิชื่อดังที่สุดในภาคอีสาน เพราะเป็นเมืองหรือจังหวัดแห่งดินแดนพุทธศาสนา รวมถึงยังมีโบราณสถาน โบราณวัตถุและอารยธรรมโบราณนับพันๆปีที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ จำนวนมากนับไม่ถ้วน วัดที่จังหวัดสกลนคร มีชื่อด้านการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมจึงควรสนับสนุน ให้ต่างชาติ หรือ คนไทยด้วยกันมาท่องเที่ยวให้มากๆ ดังนั้นพรรคชาติพัฒนามีนโยบายสนับสนุนการท่องเที่ยวอยู่แล้ว จะต้องผลักดันให้ตัวเลขนักท่องเที่ยวมาเที่ยวภาคอีสานให้เพิ่มมากขึ้นตั้งเป้า 20% นั้นหมายความว่าจะมีเม็ดเงินจากการท่องเที่ยวมาเที่ยวภาคอีสาน 5 แสนล้านบาทต่อปี

นายสุวัจน์ กล่าวว่าความขัดแย้งเกิดจากความเหลื่อมล้ำ แต่ความขัดแย้งที่แย่ที่สุด คือ ความขัดแย้งทางการเมือง การเมืองสองขั้ว การเมืองแบ่งฝักแบ่งฝ่ายขณะที่การเมืองในสภา ฝ่ายค้านไม่เคยชื่นชมรัฐบาล ส่วนรัฐบาลไม่เคยฟังคำแนะนำหรือเคารพฝ่ายค้าน เมื่อมีปัญหาก็ไม่จบในสภา เพราะการเมืองไม่มีสปิริต ฝ่ายค้านแนะนำอะไรดีๆฝ่ายรัฐบาลไม่ฟัง แบ่งฝักแบ่งฝ่ายแบ่งพวก ดังนั้นต้องทำให้การเมืองนิ่ง ไม่ทะเลาะกัน คือ เลือกตั้งมาแล้วเรียบร้อย ย่อมจะทำให้เศษฐกิจไทยดีขึ้นแน่นอน เพราะภูมิศาสตร์ไทยดีมาก ทั้งการท่องเที่ยว สินค้าเกษตรในภูมิภาคนี้ไม่มีประเทศไทยสู้ไทยได้ ดังนั้นชาติพัฒนา No Problem

/-/-/