สส.โต รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า แชมป์ 5 สมัยซ้อน ลงพื้นที่หาเสียงในงานยกช่อฟ้าวัดกระโดน มั่นใจยึดเก้าอี้ได้อีกสมัยแน่นอน พร้อมชูเป็นพรรคการเมืองเดียวที่มีนโยบายเพื่อชาวโคราช

นครราชสีมา – วันนี้ (18 มีนาคม 2566) เวลา 10.00 น. นายวัชรพล โตมรศักดิ์ หรือ ส.ส.โต ซึ่งเป็น ส.ส.นครราชสีมา เขต 2 และรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้ลงพื้นที่ ที่วัดกระโดน ต.หนองไข่น้ำ อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อร่วมพิธียกช่อฟ้าอุโบสถวัดกระโดน โดยมีผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ ต.หนองไข่น้ำ อ.เมืองนครราชสีมา ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก พร้อมกันนี้นายวัชรพลฯ ได้พบปะผู้นำชุมชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อหาเสียงในการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะถึงนี้ด้วย โดยนายวัชรพลฯ กล่าวว่า หลังจากที่ ก.ก.ต.ได้ประกาศผลการแบ่งเขตเลือกตั้ง ส.ส.ปี 66 ออกมา ซึ่งการเลือกตั้งเมื่อปี 2562 จ.นครราชสีมา มี 14 เขต แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ จ.นครราชสีมา มีทั้งหมด 16 เขต ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งเดิมที่ตนเองคุ้นเคยมานานแล้ว ต่างจากปี 62 ที่แบ่งไปในพื้นที่ซึ่งตนเองไม่คุ้นเคยบางส่วน ทำให้การลงพื้นที่ยากมากกว่าปีนี้ ซึ่งตนเองนั้นทำงานการเมืองมานานนับสิบปีแล้ว ตั้งแต่สมัยเป็น สจ.ในเขต อ.เมืองนครราชสีมา แต่ถ้านับเฉพาะการเป็น ส.ส.นครราชสีมา เขต 2 ในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา ก็ยึดเก้าอี้ ส.ส.มาติดต่อกันแล้วถึง 5 สมัย ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ ตนมั่นใจว่าประชาชนจะให้ความไว้วางใจเลือกตนเข้ามาทำงานเป็น ส.ส.รับใช้ประชาชนอีกสมัยอย่างแน่นอน และหากมองภาพรวมทั้ง 16 เขต ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา พรรคชาติพัฒนากล้า ก็ไม่มีปัญหาอะไร เราพร้อมที่จะลงพื้นที่หาเสียงเพื่อเสนอนโยบายดีๆ ให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่ออาสารับใช้ประชาชนในพื้นที่ จ.นครราชสีมาอย่างสุดกำลัง

นายวัชรพลฯ กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ โดยใบหนึ่งเลือกพรรค ใบหนึ่งเลือก ส.ส.เขต นั้น พรรคชาติพัฒนากล้า อาจจะไม่ใช่พรรคใหญ่ กระแสพรรคอาจจะสู้พรรคใหญ่ๆ ไม่ได้ แต่ตนเองเชื่อว่าในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จะได้รับความนิยมอยู่ไม่น้อย เนื่องจากมีผลงานที่สร้างไว้ให้กับชาวโคราชมากมาย ตั้งแต่ยุคสมัยที่ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ เป็นหัวหน้าพรรค ประกอบกับตนเองทำงานการเมืองมานาน มีความใกล้ชิดกับผู้นำชุมชน รู้ปัญหาต่างๆ ในพื้นที่เป็นอย่างดี ตนเชื่อว่าพี่น้องประชาชนต้องการเลือก ส.ส.ให้เข้ามาทำงานเพื่อประชาชนมากกว่า อีกทั้งประชาชนก็อยากเห็นการเมืองที่ไม่มีความแตกแยก มีความคิดที่สร้างสรรค์ มาช่วยกันพัฒนาบ้านเมือง ส่วนนโยบายของพรรคชาติพัฒนากล้า มีอยู่ 2 ด้านหลัก คือ 1.ด้านการหาเงินเข้ามาในประเทศไทย เพราะช่วงสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมา ประเทศไทยต้องไปกู้เงินเพื่อมากู้วิกฤติมากมาย ทำให้ประเทศเป็นหนี้มหาศาล สิ่งหนึ่งที่พรรคชาติพัฒนากล้าไม่เหมือนพรรคอื่น เพราะเราก่อกำเนิดจากโคราช จึงมีทั้งนโยบายระดับชาติ และนโยบายระดับจังหวัดนครราชสีมา ดังนั้นจึงเป็นจุดแข็งที่จะทำให้พี่น้องชาวโคราช เชื่อมั่นในผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคชาติพัฒนากล้า ว่าจะเข้ามาทำงานเพื่อชาวโคราชอย่างแท้จริงได้

ถึงอย่างไรก็ตาม พื้นที่ จ.นครราชสีมา ซึ่งการเลือกตั้งครั้งนี้ สามารถมี ส.ส.เขตได้ถึง 16 คน ก็ถือว่าเป็นเป้าหมายของพรรคการเมืองใหญ่หลายพรรค ซึ่งจะมีการแข่งขันสูงมาก เพื่อชิงชัยที่นั่ง ส.ส.ให้ได้มากที่สุด ดังนั้นก็อาจจะมีการทุ่มเม็ดเงินมหาศาลเพื่อซื้อสิทธิ์ขายเสียงกันอย่างรุนแรง ซึ่งตนเองก็ขอให้ ก.ก.ต.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยจับตาและทำงานป้องกันปราบปรามการซื้อสิทธิ์ขายเสียงอย่างเข้มงวด ขณะที่พี่น้องประชาชนชาวโคราช ตนเองก็เชื่อมั่นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เงินซื้อเสียงเขาไม่ได้แน่นอน เพราะเขารู้ดีว่าเงินที่ซื้อเสียง 200-300 บาท ไม่มีค่าอะไร เมื่อได้มาก็ใช้หมด แต่เขาต้องการคนมาทำงานแก้ไขปัญหาต่างๆ ให้มากกว่า การหาเสียงของพรรคชาติพัฒนากล้า จะพยายามทำงานการเมืองอย่างใสสะอาด เน้นเสนอนโยบายเพื่อทำให้พี่น้องประชาชนอยู่ดี กินดี เพื่อให้ประชาชนได้ประกอบการตัดสินใจเลือกตั้งดีกว่า นายวัชรพลฯ กล่าว.

///ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ // นครราชสีมา