4 กุมารพลังประชารัฐ แถลงเปิดใจลาออก ภูมิใจที่สร้างพรรค ยันไม่ตั้งพรรคใหม่
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิจัย และนวัตกรรม อดีตรองหัวหน้าพรรค และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อดีตกรรมการบริหารพรรค กลุ่ม 4 กุมาร พรรคพลังประชารัฐ แถลงเปิดใจลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
นายอุตตม กล่าวว่า เรา 4 คน ได้ปฏิบัติภารกิจทั้งทางด้านบิรหารและทั้งการเมือง วันนี้ขอเรียนว่า ตัดสินใจยุติบทบาททางการเมืองในฐานะสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ที่มาที่ไปที่ผ่านมากว่า 3 ปี มีส่วนร่วมเป็นแกนนำตั้งพรรคด้วยกัน ความตั้งใจขณะนั้นต้องการทำงานทางการเมือง เข้ามาเพื่อประเทศชาติในภาวะตอนนั้น สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี นำพาประเทศก้าวข้ามสถานการณ์ การทำงานหลายอย่างในพรรคก้าวหน้าไปมาก สานต่อนโยบาย สร้างพรรคสถาบันทางการเมือง จนมีคนมาจากหลายสาย มาถึงวันนี้ ภารกิจทางการเมืองที่ผ่านมาลุล่วงไปแล้ว และมีผู้บริหารชุดใหม่พร้อมนำพาพรรคเดินหน้าต่อได้ เวลาเหมาสม หยุดภารกิจในพรรคพลังประชาชน จะทำงานด้านบริหารในภารกิจที่รับมอบหมาย ในคณะรัฐมนตรีต่อไป วันนี้อยากทำงานให้ประเทศชาติประชาชน ที่กำลังเผชิญโควิด-19
นายอุตตม กล่าวว่า ยังไม่คิดเรื่องตั้งพรรคการเมืองใหม่ วันนี้ขอทำหน้าที่ให้เต็มที่ ยังคงทำงานด้านบริหารในบทบาทของรัฐมนตรี ส่วนในอนาคตจะมีการปรับเปลี่ยนก็เข้าใจในวิถีของการเมือง ส่วนการไม่อยู่ในสังกัดพรรคการเมืองจะกระทบสัดส่วนตำแหน่งรัฐมนตรี หรือไม่ ไม่ใช่เรื่องที่พวกตนจะพูดตอนนี้ การออกมาแถลงไม่ได้แจ้งพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคคนใหม่ เพราะการแถลงนี้เป็นทางการ ก็ได้ทราบไปพร้อมๆกัน ตอนนี้ไม่ขอพูดเรื่องการเมือง อนาคตข้างหน้า อย่าไปคาดการณ์
“การเปลี่ยนแปลงภายในพรรค ที่พูดไปสะท้อนได้บ้าง เราไม่ยึดติด ตั้งใจทำการเมือง การปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลง เรื่องธรรมชาติ ความผูกพันธ์กับในพรรคยังมี การเมืองมีวิถี ไม่รู้สึกเป็นกังวล เชื่อผู้บริหารใหม่ นำพาพรiคไปได้ อะไรเป็นประโยชน์ประชาชนสนับสนุนหมด” นายอุตตม กล่าวและว่า ก่อนมาแถลงบอกนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีแล้ว ท่านเป็นที่ปรึกษามาตลอด ท่านทราบว่าตัดสินใจอย่างนี้ ท่านให้กำลังใจ เคารพการตัดสินใจของเราให้กำลังใจบรรลุ สิ่งที่ตั้งใจทำ นี่คือจบตอนหนึ่ง ทำงานต่อ ตั้งพรรคไม่ได้คิด มีแน่นอน ค่อยๆดูค่อยๆคิดไป
ด้านนายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เราไม่ใช่นักการเมือง วันที่เรามาร่วมตั้งพรรคเปลี่ยนผ่านบ้านเมือง ใต้รัฐธรรมนูญเปลี่ยนผ่านประเทศ ขณะนั้นเชื่อว่า ประยุทธ์เหมาะสุดในช่วงนั้นช่วงรอยต่อ ก็สำเร็จแล้ว นี่คือการลาออก เราทำเต็มที่เราทำเต็มที่จนทุกอย่างเดินหน้าตามความตั้งใจ บทบาทกาเรมือง หน้าที่ย่อมเปลี่ยนแปลงตอลดเวลา ไม่ยึดติด อะไรเป็นประโยชน์ ไม่ยึดติดทางการเมือง ว่าต้องเป็นตลอดไปว่าต้องอยู่หน้าที่การเมืองตลอด อย่างนั้นไม่ใช่เรา ที่ผ่านมาและขณะนี้ทำหน้าที่ที่มอบหมาย ดีที่สุด ไม่ยึดติด ยินดีจะมีส่วนช่วยบ้านเมืองต่อไป ในงานฝ่ายบริหารในฐานะรมต. ทำถึงที่สุด เรื่องอนาคต นายกฯเป็นผู้ใช้ดุลพินิจ ไม่ได้ก้าวล่วง ทำหน้าที่รัฐมนตรีจนเต็มที่
“ผมภูมิใจ เรา 4 คนภูมิใจ ที่เป็นส่วนหนึ่งพรรคพลังประชารัฐ คนไม่เคยทำการเมือง ทำการเมืองจนสร้างพรรค 1 พรรค จนเป็นผู้นำรัฐบาล หวังเป็นสถาบันทางการเมือง เป็นแกนนำ สายใยในพรรคไม่ได้หายไป ไม่ได้ตัดขายสายใย สัมพันธ์ที่ดี เคยเป็นคนในครอบครัว การเปลี่ยนแปลงเป็นเพียงวิถี ไม่โกรธเกลียดหรือขัดแย้งกัน เลือกทางเดินในวิถี พูดเสมอเรื่องถอดใจไม่มี การมาทำงานเพื่อบ้านเมืองไม่ใช่ตัวตน หรือชีวิตของใครคนหนึ่ง เป็นหน้าที่ต้องทำ ไม่ยึดตัวตน ตำแหน่งได้เป็นหรือไม่ เพียงทำหน้าที่ดีที่สุด การเมืองเป็นเรื่องเสียสละ ไม่ใช่ตัวบุคคล หากอนาคต เราอาจเป็นประโยชน์ ไม่ใช่ในรูปแบบพรรคการเมือง อย่ากังวลใจเรื่องพรรคการเมือง ย้ำว่า ไม่คิดเรื่องตั้งพรรค