80 ปี ”กมล ทัศนาญชลี“
ศิลปินแห่งชาติ
ย้อนรอยอดีต-สู่ปัจจุบัน

ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ เจ้าของฉายา “ศิลปินสองซีกโลก” ผู้มาก่อนกาลเวลานำศิลปะไทยเป็น Soft Power สู่ทั่วโลกนานกว่า 40 ปี

ล่าสุด เตรียมจัดแสดงงาน “ย้อนรอยอดีตสู่ปัจจุบัน 80 ปี กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ” พร้อมกัน 3 แห่ง คือ หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน, หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ และ MATDOT ART CENTER เริ่ม 9 มกราคม 2567

ดร. ดร.กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ ปี 2540 วัย 80 ปี เปิดหอศิลป์บ้านศิลปินแห่งชาติ กมล ทัศนาญชลี ซอยเทียมบุญ 111/1 เขตคลองสาน กรุงเทพฯ พูดคุย บอกเล่าเรื่องราว ตัวตน ที่มีความมุ่งมั่น และมีอุดมการณ์ในการสร้างผลงานทางศิลปะอย่างมั่นคงกว่า 60 ปี และจิตรวิญญาณในความเป็นครูศิลปะ ว่า ที่นี้เป็นบ้านเกิดผม ผมเกิดในครอบครัวช่างสิบหมู่ ได้เรียนรู้และฝึกทำงานศิลป์ในหลากหลายแขนงมาตั้งแต่เด็กมีความตั้งใจที่จะสืบสานงานศิลป์ไทย ผมเป็นนักเรียนเพาะช่าง เมื่อสำเร็จการศึกษา ตอนอายุ 17 เป็นช่วงตัดสินใจว่าสองเส้นทางที่ต้องเลือกเดิน คือ จะอนุรักษ์แบบไทยโบราณที่เป็นมาตั้งแต่เด็ก หรือจะเดินไปสู่สากล ผมตัดสินใจเลือกเดินทางสากลก็ต้องต่อสู้กับศิลปินทั่วโลก ต่อสู้กับแนวความคิดปรัชญาทุกอย่าง

ฉะนั้น เมื่อไปอยู่สหรัฐอเมริกา ต้องศึกษาให้มากจนกระทั่งความคิดว่าสิ่งที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดก็คือหลอดสี ลูกกลิ้ง ภาพพิมพ์ หลอดไฟ ก็เลยเลือกหลอดสี มาเป็นตัวแสดงงาน 3 มิติ ฉีกวงการภาพพิมพ์ทั่วไปจะอยู่ในกระจกแต่ผมทํางานนอกกระจก ทํางานกับทะเลทราย ทำงานหิมะ ทำงานกับภูเขา คือ ใช้สถานที่กว้างๆ ทำกับอะไรต่างๆ ที่ฉีกหลุดออกมา คือ การค้นพบตัวตนจุดยืนในการทำงานศิลป์ จนประสบความสำเร็จ และได้อาศัยอยู่ที่ต่างประเทศเป็นเวลานาน

อาจารย์กมล เล่าว่าตนใช้ความเป็นไทยในลักษณะที่เป็นเชฟ เป็นฟอร์ม รูปร่าง รูปทรง เช่น หนังใหญ่ โบสถ์อีสาน หนังสติก เว้าจุฬา สอดแทรกความคิดที่เป็นไทย เป็นปรัชญาทางพุทธศาสนา สอดแทรกเอาพระพุทธบาทเข้าไป เอาโลกุตตร อยู่ข้างบนสอดแทรกเข้าไปในผลงาน ซึ่งดูแล้วเป็นสากลแล้วมีความเป็นไทย คือ การผสมผสานกันระหว่างไทยตะวันออก และตะวันตก ซึ่งการเป็นศิลปินที่อยู่สองซีกโลก ตนสามารถที่จะถอดเอาตะวันออก คือ ประเทศไทยเข้าไปอยู่ในสากลได้ แล้วก็มีความเป็นตะวันตกด้วย ผลงานชิ้นนี้ได้สร้างชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก คือ “ศิลปะรอยพระบาท” ได้รับเลือกลงที่ผลงาน Buddha’s Footprint ถูกบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ศิลป์โลก(Gardner’s Art Through The Ages) จึงได้ชื่อว่าเป็นศิลปินสองซีกโลก เพราะความเชี่ยวชาญด้านงานศิลปะ

นอกจากนี้ื อาจารย์กมล ยังเป็นผู้ก่อตั้งสภาศิลปกรรมไทยในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ครูศิลปะ ศิลปินไทย และผู้สนใจศิลปะ ได้มีโอกาสเห็นและศึกษาค้นคว้าดูงานด้านศิลปะในประเทศสหรัฐอเมริกา นับเป็นคนไทยที่ประสบความสำเร็จในวิชาชีพศิลปะในต่างแดน และเป็นศิลปินต่างชาติคนแรกที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นศิลปินยอดเยี่ยม 1 ใน 10 ประจำรัฐแคลิฟอร์เนียที่ได้รับรางวัล Grand Prize เป็นคนเอเชียเพียงคนเดียวที่ได้รับรางวัล “The Annual Artist’ Award” จากผลงานที่แสดง ณ พิพิธภัณฑ์ศิลปะโอ๊คแลนด์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา

รวมทั้งเป็นผู้บุกเบิกและผลักดันให้เกิดศูนย์กลางเผยแพร่ผลงานศิลปะของศิลปินไทยในรูปแบบต่างๆ นำความรู้และผลงานศิลปะที่ศึกษาค้นคว้ามาเผยแพร่แก่ศิลปิน ครู นักศึกษา ผู้สนใจในศิลปะ จัดกิจกรรมเผยแพร่ศิลปกรรมร่วมสมัยของศิลปินไทยโดยเชิญศิลปินอาวุโสและศิลปินทั่วไปมาแสดงผลงานและเผยแพร่ ความสำเร็จในผลงานศิลปะต่างๆ เรียกว่า จุดประกายศิลปะ เป็น Soft Power มา 40 ปีแล้ว

 

“ผมทำมา 40 ปีแล้ว นำเอาศิลปะ เป็น Soft Power เป็นเรื่องศิลปะวัฒนธรรมสอดแทรกเข้าไป เอาปรัชญาของประเทศไทย ตะวันออกไปสู่สากล เอาศิลปะร่วมสมัยของประเทศไทยไปแสดงทั่วอเมริกา ดังนั้น ถ้ารัฐบาลส่งเสริม Soft Power ต้องสืบสาน ต่อยอดสนับสนุนเรื่องต่างๆ อย่างจริงจัง“

อาจารย์กมล กล่าวว่า ในโอกาสที่ปีนี้ อายุครบ 80 ปี มีความตั้งใจจัดแสดงผลงานทั้งหมดที่ทำมา 60 กว่าปี ภายใต้ชื่อ “80 ปี ย้อนอดีตถึงปัจจุบัน กมล ทัศนาญชลี“
โดยจัดแสดง 3 แห่ง คือ 1.หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน เป็นการแสดงงานย้อนอดีตจนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่จะเป็นงานปติมากรรม ชิ้นใหญ่ๆ
2.หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เป็นงานประติมากรรม งานที่สะสมไว้ของศิลปินดังของโลก มาร่วมแสดงด้วยบริเวณชั้นล่าง ส่วนชั้นบนจะมีผลงานของศิลปินแห่งชาติที่ผมสะสมไว้และทำงานร่วมกัน ที่ยังไม่เคอยออกแสดงที่ไหน นอกนั้นก็เป็นงานของผมแต่ละยุคสมัย จิตกรรม ประติกรรม ภาพพิมพ์ สื่อผสม เซรามิค และอื่นๆ รวมทั้งภาพถ่าย และ 3. MATDOT ART CENTER โดยทั้ง 3 แห่ง จัดแสดงผลงานไม่ซ้ำกัน และจะมีการเวิร์คช้อป ให้นักเรียน นักศึกษา ได้เข้ามาเรียนรูั มีการบรรยายจากศิลปินแห่งชาติ ศิลปินที่มีชื่อเสียง มาสร้างแรงบันดาลใจ

“สิ่งสำคัญที่ศิลปินต้องปฏิบัติ คือ ไม่สูบบุหรี่ ไม่ดืมเหล้า ไม่เที่ยวกลางคืน คือ ต้องเป็นตัวเอง 100 % มันจะบริสุทธิ์ มีพลัง มีความคิด หมั่นศึกษาหาความรู้ แต่ละยุคสมัย ค้นพบตัวเอง นี่คือ สิ่งที่ผมคอยพร่ำสอนให้กับเยาวชนที่อยากจะเป็นศิลปิน“ อาจารย์กมล กล่าว

แหละนี่คือ 80 ปี ”กมล ทัศนาญชลี“ ศิลปินแห่งชาติ เจ้าของฉายา“ศิลปินสองซีกโลก ที่จะมาย้อนรอยอดีตสู่ปัจจุบัน ผ่านผลงานศิลปะในหลากหลายแขนงอันทรงคุณค่า