วรรณี ชัชวาลทิพากร ศิลปินแห่งชาติ ปี 2564บทพิสูจน์ การสร้างนักถ่ายภาพด้วยมือถือ

ความสุขของการถ่ายภาพ กลายมาเป็นความรัก และความเสียสละ ในการเป็นจิตอาสาตัวแม่ ของ วรรณี ที่หลายคนไม่ได้เจอ เธอเป็นช่างภาพหญิงที่เดินทาง ด้วยความสมัครใจในถนนหนามเตย หลังจากเรียนจบพยาบาล จาก รพ.จุฬาฯ แม่ได้ซื้อกล้องฟิลม์ ให้ ทำให้จิตใจ มุ่งมั่น เรียกร้องที่จะสะพายกระเป๋ากล้อง และฟิล์ม ออกเดินทางท่องเที่ยวถ่ายภาพ แบบนับวันหยุด จองวันลาก็ว่าได้ อาจจะบอกว่า ลืมเข็มน้ำเกลือก็ว่าได้

พี่วรรณี ได้ร่วมก๊วนกับช่างภาพรุ่นใหญ่ ได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ การถ่ายภาพ ทักษะต่างๆ จากเกจิ มืออาชีพ หลายต่อหลายคน จนทำให้เกิดองค์ความรู้ ในเรื่องการถ่ายภาพแน่นปั๊ง พอยุคสมัยเปลี่ยน จากกล้องฟิลม์ มาสู่ดิจิตอล และม้วนตัวมาเป็น มือถือ การถ่ายภาพ ได้ ปรับโฉม และปรับตัว โดยมีบทบาท ยังคงเป็น สิ่งที่คู่กับ สังคมของคนทั่วไป ได้อย่างต่อเนื่อง

การปรับตัวครั้งใหญ่ ทำให้ พี่วรรณี ได้ตัดสินใจมุ่งมั่นที่จะเรียนรู้ กระบวนทัศน์ของการถ่ายภาพ ตามยุคกระแสโซเชียล โดยตอบรับ และเรียนรู้โลกของการถ่ายภาพ ด้วยแอปพิเคชั่น เอไอ ต่างๆ จากการมีทักษะที่แน่น เป็นทุนเดิม ทำให้ ตัวเองสามารถก้าวกระโดดมายืน เป็นตัวแม่ บนถนนถ่ายภาพด้วยมือถือ โดยไม่ต้อง อายใคร

พี่วรรณี บอกว่า เราต้องสร้าง เราต้องให้เขารู้ ยังมีอีกหลายคนที่ชอบการถ่ายภาพ แต่วันนี้ กล้องแพง และลดจำนวนลง คนไปใช้มือถือในการถ่ายภาพกันหมด ถ้าเราสามารถ เป็นแรงบันดาลใจ ให้กับ ผู้ที่อยากเรียนรู้ ทำให้เขาถ่ายภาพสวยๆ ถ่ายภาพดีๆ ได้ และไม่ต้องเสียเงินมากมาย ทำไมจะไม่ทำ นี่คือ ความตั้งใจที่จะ สร้างให้คนถ่ายภาพด้วยมือถือ ให้เกิดประโยชน์

การอบรถม สร้างแรงบันดาลใจให้กับ ผู้สูงอายุ ในนิทรรศการ กษัตริย์ ของราษฎร รพ.ศิริราช ร่วมกับ มูลนิธิเก้ายั่งยืน รพ.ศิริราชปิยะมหาการุณย์ ระหว่างวันที่ 13-31 ตุลาคม 2566

 

วรรณี ชัชวาลทิพากร เกิดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2498 ที่กรุงเทพมหานคร ปัจจุบันอายุ 66 ปี สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีและระดับปริญญาโท ด้านพยาบาลศาสตร์ และสาธารณสุขศาสตร์จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยมหิดล

 

ภายหลังสำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญาจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นางวรรณี ชัชวาลทิพากร ได้ประกอบอาชีพพยาบาลเป็นหลัก ซึ่งต้องทำงานคลุกคลีกับผู้ป่วย ทำให้เข้าใจถึงสัจธรรมของชีวิต ต้องอยู่กับความทุกข์ตลอดเวลา เมื่อมีเวลาในวันหยุด จึงชอบออกเดินทางไปท่องเที่ยวและถ่ายภาพยังสถานที่ต่างๆ การได้เห็นความแตกต่างอีกหลายมุมของชีวิตผู้คนในหลากหลายวิถีทางวัฒนธรรมที่ได้สัมผัสนั้น เป็นบ่อเกิดของแรงบันดาลใจการถ่ายภาพอิริยาบถของผู้คน โดยมีแนวคิดว่า ภาพอันน่าประทับใจและมีคุณค่าเหล่านี้ ควรได้บันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ ท่ามกลางวิถีทางสังคมที่กำลังเปลี่ยนไป จนอาจไม่เหลือร่องรอยความงดงามของอดีตส่งต่อให้สังคมใหม่ในอนาคต