สิ้นตำนาน “ศรีเหน่ง” ผู้จัดการ “คาราวาน” ยุคแรก สุวัจน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และศิลปินแห่งชาติ 5 คน ร่วมงานประชุมเพลิง

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน ที่ฌาปนสถานกองทัพบก (กองทัพภาคที่2) วัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานทอดผ้ามหาบังสุกุลในงานประชุมเพลิงนายมงคล สนิทบุรุษ อายุ 68 ปี อดีตรองนายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมาและสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) นครราชสีมา เสียชีวิตจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยมีศิลปินแห่งชาติ ประกอบด้วยนายศราวุธ ดวงจำปา สาขาทัศนศิลป์ ประติมากรรม นายคำสิงห์ ศรีนอก สาขาวรรณศิลป์ นายสถาพร ศรีสัจจัง สาขาวรรณศิลป์ กวีนิพนธ์ร่วมสมัย นายชาติ กองจิตติ สาขาวรรณศิลป์ นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี สมาชิกวงคาราบาว สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) และอดีตนักการเมืองระดับชาติ ท้องถิ่น คหบดีร่วมทอดผ้าบังสุกุลรวมจำนวนทั้งสิ้น 14 คน ท่ามกลางญาติ เพื่อนและบุคคลที่รู้จักมักคุ้นกว่า 500 คน ร่วมส่งวิญญาณด้วยความอาลัยและนายสมคิด สิงสง ผู้แต่งเพลง “คนกับควาย” ได้เขียนบทกวีมอบให้ครอบครัวสนิทบุรุษ ก่อนจะประชุมเพลิง “เขาเป็นลูกแม่ย่าโม จึงเติบโตในโคราช ยุคอำนาจจีไอ ครอบงำไทยทั้งประเทศ ก่อการเหตุสงครามเย็น สร้างลำเค็ญอินโดจีน บ่มีศีลแลธรรม ยุคระยำทรราช ถืออำนาจครองเมือง ไทยฝืดเคืองไปทั่ว จึงรวมตัวต่อต้าน ฮือทั่วบ้านทั่วเขต ไทยประเทศจลาจล ลงถนนราชดำเนิน เดินเพื่อโค่นบัลลัง อหังการทรราช พวกปล้นชาติกอบโกย ผู้หิวโหยฮือต้าน คนเรือนแสนเรือนล้าน พลิกฟ้าคว่ำดิน บารนี”

สิ้นตำนาน “ศรีเหน่ง” ผู้จัดการ “คาราวาน” ยุคแรก สุวัจน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และศิลปินแห่งชาติ 5 คน ร่วมงานประชุมเพลิง

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 27 มิถุนายน ที่ฌาปนสถานกองทัพบก (กองทัพภาคที่2) วัดสุทธจินดาวรวิหาร อ.เมือง จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานทอดผ้ามหาบังสุกุลในงานประชุมเพลิงนายมงคล สนิทบุรุษ อายุ 68 ปี อดีตรองนายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมาและสมาชิกสภาจังหวัด (สจ.) นครราชสีมา เสียชีวิตจากโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ โดยมีศิลปินแห่งชาติ ประกอบด้วยนายศราวุธ ดวงจำปา สาขาทัศนศิลป์ ประติมากรรม นายคำสิงห์ ศรีนอก สาขาวรรณศิลป์ นายสถาพร ศรีสัจจัง สาขาวรรณศิลป์ กวีนิพนธ์ร่วมสมัย นายชาติ กองจิตติ สาขาวรรณศิลป์ นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี สมาชิกวงคาราบาว สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีไทยสากล) และอดีตนักการเมืองระดับชาติ ท้องถิ่น คหบดีร่วมทอดผ้าบังสุกุลรวมจำนวนทั้งสิ้น 14 คน ท่ามกลางญาติ เพื่อนและบุคคลที่รู้จักมักคุ้นกว่า 500 คน ร่วมส่งวิญญาณด้วยความอาลัยและนายสมคิด สิงสง ผู้แต่งเพลง “คนกับควาย” ได้เขียนบทกวีมอบให้ครอบครัวสนิทบุรุษ ก่อนจะประชุมเพลิง “เขาเป็นลูกแม่ย่าโม จึงเติบโตในโคราช ยุคอำนาจจีไอ ครอบงำไทยทั้งประเทศ ก่อการเหตุสงครามเย็น สร้างลำเค็ญอินโดจีน บ่มีศีลแลธรรม ยุคระยำทรราช ถืออำนาจครองเมือง ไทยฝืดเคืองไปทั่ว จึงรวมตัวต่อต้าน ฮือทั่วบ้านทั่วเขต ไทยประเทศจลาจล ลงถนนราชดำเนิน เดินเพื่อโค่นบัลลัง อหังการทรราช พวกปล้นชาติกอบโกย ผู้หิวโหยฮือต้าน คนเรือนแสนเรือนล้าน พลิกฟ้าคว่ำดิน บารนี”

บรรยากาศช่วงวางดอกไม้จันทน์ ญาติและเพื่อนได้ตั้งเวทีข้างณาปนสถาน “คน เวลา สถานที่ จึงมีเรื่องราว ด้วยรักอาลัย สีเหน่ง มงคล สนิทบุรุษ” เพื่อให้บรรดาศิลปินเพลงเพื่อชีวิตผลัดกันขึ้นร้องเพลง เนื่องจากนายมงคล ชื่นชอบเพลงแนวเพื่อชีวิต นายอิศรา อนันตทัศน์ หรือสีเผือก นักร้องนำวงคนด่านเกวียน ขึ้นร้องเพลง “กุหลาบปากซัน” กลุ่มเพื่อนราชสีห์ 66 หรือศิษย์เก่าโรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย รุ่น 66 ร่วมร้องเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธา” นายสถาพร ศิลปินแห่งชาติสาขาวรรณศิลป์ ประพันธ์บทกวีสด เนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตนายมงคล โดยมีนายธนิสร์ ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดงได้กล่าวว่า วงคาราบาว มีความผูกพันกับ “ศรีเหน่ง” ผู้จุดประกายให้คาราบาวประสบความสำเร็จมาทุกวันนี้ แอ๊ด คาราบาว ติดภารกิจไม่สามารถมาร่วมงานศพได้จึงส่งพวงหรีดมาเคารพศพ จากนั้นได้เป่าขลุ่ยเป็นเสียงดนตรีประกอบในขณะนายสถาพร อ่านบทกวี ส่วนหงา คาราวาน หรือนายสุรชัย จันทิมาธร อาจารย์ใหญ่เพลงเพื่อนชีวิต ได้เดินทางมาเคารพศพและร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรม เมื่อวันที่ 25 มิย. ที่ผ่านมา ติดภารกิจจึงได้แต่งและร้องเพลง “เพื่อนจากจากเพื่อน” เป็นการไว้เอาลัยช่วงก่อนทุกคนจะแยกย้ายเดินทางกลับ

“แดงโย่ง” ข้าราชการบำนาญ เพื่อนสนิทนายมงคล สนิทบุรุษ เปิดเผยว่า กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อชีวิตและสหายที่เข้าป้าหลังเหตุการณ์ตุลาคม 2519 เรียกขานชื่อนายมงคล “ศรีเหน่ง” แต่ภาษาโคราชหรือคนท้องถิ่นขานชื่อเป็น “สีเหน่ง” หมายถึง ชีวิตชอบช่วยเหลือเพื่อนฝูง ลักษณะใจใหญ่ กล้าได้ กล้าเสีย สมัยนั้นสมาชิกวงคาราวานส่วนหนึ่งเป็นนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคภาคตะวันออกเฉียงเหนือชื่อเดิมปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน (มทร.) นครราชสีมา สนิทสนมคุ้นเคยกับ “ศรีเหน่ง” มาก เนื่องจากมีแนวคิดหัวก้าวหน้า อุดมการณ์ร่วมต่อต้านเผด็จการครองเมือง ขับไล่ทหารอเมริกาที่มาตั้งฐานทัพในโคราชและเป็นสหายเข้าป่า ทำหน้าที่ส่งกำลังบำรุงให้กับเพื่อนๆ รวมทั้งสนับสนุนซื้อเครื่องดนตรีให้วงคาราวาน เพื่อเล่นคอนเสริต์ขับไล่เผด็จการในรั้วมหาวิทยาลัยช่วงเริ่มก่อตั้งวงใหม่ถือเป็นผู้จัดการยุคแรกและเมื่อศิลปินเพื่อชีวิตเดินทางมาภาคอีสานได้แวะหาพูดคุยกับ “ศรีเหน่ง” เป็นประจำ ซึ่งมีการพูดกันในกลุ่มเพื่อนๆ “ศรีเหน่ง” สามารถเจรจาต่อรองเรื่องค่าจ้างคาราวาน คาราบาว “น้าหมู” พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ “สีเผือก” คนด่านเกวียน ฯลฯ มาเล่นในราคาถูกกว่าคนอื่น “แดง โย่ง” กล่าว