“อัญชลี วานิช เทพบุตร” ชี้ “ภูเก็ต โมเดล 4 T”
เชื่อกู้วิกฤตเศรษฐกิจท่องเที่ยวได้
นางอัญชลี วานิช เทพบุตร อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และอดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จังหวัดภูเก็ต ให้สัมภาษณ์กรณี “ภูเก็ต โมเดล 4 T” ว่า จังหวัดภูเก็ตได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ค่อนข้างรุนแรงทางด้านเศรษฐกิจ โดยเฉพาะท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตทำได้รายจากการท่องเที่ยวปีหนึ่ง 4 แสนล้านบาท พี่น้องประชาชนทำมาหากินกับการท่องเที่ยวกว่า 90% ในจังหวัดภูเก็ต ที่สำคัญ คือ 90% ของเศรษฐกิจท่องเที่ยวภูเก็ตเป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ อีก 10% เป็นนักท่องเที่ยวไทย เมื่อโควิดเกิดขึ้นแล้วการเคลื่อนย้ายมนุษย์ถูกปิดกั้น เราเลยไม่มีเลือดใหม่มาเติมทำให้เศรษฐกิจของเรานิ่งสนิทช่วงเวลาก็ผ่านมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนสิงหาคมกว่า 8 เดือน ถ้าเรายังอยู่แบบนี้คิดว่าเศรษฐกิจของเราคงไปไม่รอด
ฉะนั้น การสร้างสมดุลระหว่างเรื่องเศรษฐกิจกับเรื่องสาธารณสุขจึงมีความจำเป็นมากที่สุด ภาคเอกชนในวงการท่องเที่ยวผู้ประกอบการทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรม สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภูเก็ต หอการค้า สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต (สสจ.) ได้มีการประชุมร่วมกันและตัดสินใจว่าต้องขอร้องไปทางรัฐบาล เพื่อขอให้รัฐบาลเปิดเกาะภูเก็ต เพื่อรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้แล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี คือ เดือนตุลาคมถึงธันวาคม ซึ่งอาจจะทำให้มีความเคลื่อนไหวทางด้านเศรษฐกิจและรื้อฟื้นความมั่นใจต่างๆ กลับมาได้ จึงเป็นที่มาของการออกแบบ “ภูเก็ต โมเดล 4 T”
นางอัญชลี บอกว่า “ภูเก็ต โมเดล 4 T” ภายใต้ตรรกะ “คนภูเก็ตต้องปลอดภัย” เราจึงออกภูเก็ตโมเดล เป็น 4 T คือ 1.Target ขอให้รัฐบาลช่วยดูคู่ค้าหรือลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย คือ เมืองที่จะมาเที่ยวภูเก็ต ต้องเป็นเมืองที่ปลอดจากการเป็นโควิด มาแล้วอย่างน้อย 30 วัน เช่น ประเทศจีน เราจะเลือกเมืองปลอดโควิดแล้ว 30 วันซึ่งมีเป็น 10 เมืองตอนนี้ที่ติดต่อมาจะมาเที่ยวภูเก็ต หรือเมือง perth ประเทศออสเตรเลีย ไม่มีคนป่วยเป็นโควิดมาแล้ว 30 วัน หรือเมืองต่างๆ ที่ส่งข้อมูลมาให้เราแล้วอย่างนี้จะเป็นประโยชน์ คือ นักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาต้องปลอดโควิดมาแล้ว 30 วัน
2.Testing คือ การที่นักท่องเที่ยวจะมาภูเก็ตต้อง direct flight บินตรงมาที่ภูเก็ตเท่านั้น และก่อนมาจะขอให้ทำการเทสต์ของเขาก่อน 14 วันก่อนเดินทาง 1 รอบ โดยการ สวอป และ 3 วันก่อนเดินทาง สวอป อีกรอบหนึ่ง เพื่อมั่นใจว่าจะไม่หลุดและเมื่อบินมาถึงภูเก็ตพอลงเครื่องเราขออีกรอบคือ แลปพิทเทสต์ ด้วยน้ำลายแบบที่ฮ่องกงทำ ซึ่งตรงนี้เราจะมีห้องแลปอยู่ที่สนามบินภูเก็ต ทำแลปพิทเทสต์ ประมาณ 1-2 ชั่วโมง ผลตรวจว่าไม่เป็นก็จะไปสู่ T 3 คือ
Traeing คือ การติดตามตัวนักท่องเที่ยวสแกนให้เราว่าคุณไปอยู่ที่ไหน อย่างไร แบบสแกนไทยชนะ จากนั้นเราก็จะให้โรงแรม รีสอร์ต ต่างๆ ที่ผ่านการตรวจที่ได้มาตรฐาน ASQ (Alternative State Quarantine) หรือ ALSQ ( Alternative Local Self Quarantine) มาตรฐานนี้ต่างจังหวัดทำซึ่งก็เหมือนกัน ASQ ที่ภาคเอกชนต้องผ่านมาตรฐานนี้ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกักตัวไว้อีก 14 วันและเมื่ออยู่ครบ 14 วันแล้วปลอดภัยไม่มีอะไร เราก็จะให้อนุญาตให้คุณไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ ในเกาะภูเก็ตได้ ไปเดินชายหาด ไปถนนคนเดินได้หมด
และ T สุดท้าย คือ Treating ความปลอดภัยด้านสาธรณสุข เป็นกรณีที่เราเผื่อว่านักท่องเที่ยวมาแล้วเกิดหลุดมีโควิดขึ้นมาเพื่อความไม่ประมาทเราได้คุยกับทาง สสจ.คุยกับผอ.โรงพยาบาลต่างๆ ในภูเก็ตทั้งหมดว่าถ้าเกิดหลุดมา สมมติ สัก 10% จะรับมือไหวไหม จะทำอย่างไร ซึ่งตรงนี้เรามีความพร้อมทางการแพทย์พอสมควรกับจำนวนนักท่องเที่ยวที่เราจะรับมารอบแรก
“นี่คือ “ภูเก็ต โมเดล 4 T” ถ้าเราไม่เริ่มต้นเลยชาวบ้านจะเป็นอย่างไร ชาวบ้านบอกว่า ไม่เป็นไหร่ คุณอัญชลี ทำไปเลยนะ เพราะว่า โรคระบาดกับโรคไม่มีสักบาท มันสู่สีกัน ไม่ได้ตายเพราะโรคระบาด แต่ตายเพราะโรคอื่นก็จะยุ่งเหมือนกัน”
นางอัญชลี กล่าวว่า ถ้าวัคซีนยังไม่ได้เหตุการณ์นี้ยาวถึงปีหน้า พนักงาน ผู้ประกอบทั้งหมดจะอยู่กันได้อย่างไร สมติ เราตัดเอาแค่ 40- 50% ของยอดเดิมที่เราเคยมี คือ ปี 2562 มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาภูเก็ต 14 ล้านคน เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12 ล้านกว่าเกือบ 13 ล้าน อีกล้านกว่าจะเป็นคนไทย ฉะนั้น เราตัดลงมาครึ่งหนึ่งของ 14 ล้านก็จะได้ประมาณ 6 ล้านคน นั่นหมายความ ว่าถ้าเราจะเอาแค่นี้ ต่อวันจะมี direct flight วันละ 70 ไฟล์ต่อวันมีนักท่องเที่ยวเข้ามาประมาณ 2 หมื่นคนต่อวัน โรงแรม รีสอร์ต ต่างๆ ที่ได้มาตรฐาน ASQ และ ALSQ ที่จะดูแลนักท่องเที่ยวก็จะทยอยกันได้รับนักท่องเที่ยว ค่อยๆ ทำความรู้จักกันไปเรื่อยๆ ไม่ให้เกิดปัญหาหลุดรอดของคนที่ติดเชื้อโควิดมามีเกือบเรียกว่า ศูนย์เปอร์เซ็นต์ เราค่อยมาพิจารณากันว่า Self Quarantine เราจะเป็นแบบไหนอย่างไร แต่ในช่วงแรกอยากให้ทำแบบนี้ก่อน เพื่อสร้างความมั่นใจให้คนภูเก็ตด้วยว่าเขาจะได้รับความปลอดภัย นักท่องเที่ยวก็คงจะมีความสุข
นางอัญชลี ย้ำว่า ถ้าภูเก็ตโมเดล 4 T สำเร็จสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็จะเป็นต้นแบบให้จังหวัดอื่นๆ ต่อไปได้ เช่น พี่น้องที่เกาะสมุยก็รอฟังของภูเก็ตอยู่ เพราะเราเป็นชาวเกาะด้วยกัน คนภูเก็ตก็สับสนตอนนี้ เพราะสิ่งที่เราบอกประชาชนคือ 4 T ของเราโมเดลนี้ ซึ่งทาง ศบค.โดย พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รองผู้บัญชาการทหารบก และประธาน ศบค.ชุดเล็กได้ลงพื้นที่และรับข้อเสนอนำเสนอท่านนายกรัฐมนตรีต่อไป และภูเก็ตเองซึ่งเป็นเจ้าบ้านก็จะรู้สึกปลอดภัย และจะได้ยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวได้ เราต้องสื่อไปในทิศทางเดียวกัน
แต่ความกังวลและสับสนของคนภูเก็ตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ออกมาพูดเรื่องภูเก็ตโมเดล ตามที่ท่านได้บอกไปนั้น จะทำให้เกิดเป็นประเด็น เพราะท่านบอกว่าจะให้นักท่องเที่ยวมาอยู่ปิดหาดป่าตองและให้นักท่องเที่ยวสามารถออกจากโรงแรมมาเดินที่หาดป่าตองได้ ในระยะ 1 กม.ตรงนี้อาจทำให้สับสนกันอยู่เพราะว่าถ้าเป็นอย่างนั้นพี่น้องประชาชนอาจจะรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย ขอบคุณท่านที่พยายามช่วยคิด แต่ถ้ามาได้โมเดลภูเก็ต 4 T ของเราแล้วเชื่อว่านักท่องเที่ยวจะมั่นใจ มีนักท่องเที่ยวหลายประเทศอยากมาภูเก็ตมากถึงมากที่สุด เป็นกลุ่มที่ไม่ได้เป็นโควิด และรอว่าเมื่อไหร่รัฐบาลไทยจะประกาศสักที และตกลงจะเอาโมเดลไหน เรารอคำตอบจากรัฐบาลอยู่
“ดิฉันขอเรียนเชิญพี่น้องประชาชนขาวไทยให้มาเทียวที่ภูเก็ต วันนี้ภูเก็ต ปลอดโควิด 100% แน่นอน สิ่งที่พวกเราพยายามสื่อสารไปว่าจะรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในช่วงปลายไตรมาสสุดท้ายของปีนั้น พี่น้องประชาชนไม่ต้องกังวลเพราะว่าโรงแรม รีสอร์ต ที่จะรับนักท่องเที่ยวต่างชาติมานั้น ต้องผ่านมาตรฐานของ ASQ ท่านก็สามารถเลือกโรงแรม รีสอร์ต ที่มีความสุข สนุก สบายหลายรีสอร์ต ให้ท่านเลือก ภูเก็ตเรายังปรารถนาที่จะได้ต้อนรับพี่น้องประชาชนชาวไทยของเรา” อัญชลี กล่าวทิ้งท้าย