ค่าฝุ่น PM 2.5 โคราชไม่มีผ่อน ความร้อนเข้าปกคลุม ขณะที่ยังมีการลักลอบเผารายวัน กระทบต่อสุขภาพ
นครราชสีมา-วันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2567) ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง รายงานลักษณะอากาศประจำวัน ว่า ลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างมีอากาศเย็นกับมีหมอกในตอนเช้า และมีอากาศร้อนในตอนกลางวัน ซึ่งทำให้จังหวัดนครราชสีมาในช่วงกลางวัน มีอากาศร้อนจัดและแห้งแล้งต่อเนื่องมาหลายวันแล้ว ส่งผลให้ค่าฝุ่น PM 2.5 ในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 พุ่งสูงเกินกว่าค่ามาตรฐานเกือบทุกวัน
โดยล่าสุดวันนี้ สำนักงานสิ่งแวดล้อมและควบคุมมลพิษที่ 11 (นครราชสีมา) รายงานสถานการณ์คุณภาพอากาศในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ค่าฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ ต.ในเมือ’ อ.เมืองนครราชสีมา ตรวจวัดผ่านแอพพลิเคชั่น Air4Thai เมื่อเวลา 08.00 น.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 38.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งยังสูงกว่าค่ามาตรฐานไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรที่กำหนดไว้ ในขณะที่ดัชนีคุณภาพอากาศ ซึ่งเป็นการตรวจวัดค่ามลพิษ 6 ชนิดในอากาศภาพรวม ตรวจวัดได้ 104 AQI อยู่ในเกณฑ์สีส้ม เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ประชาชนต้องระวังสุขภาพ ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และสวมหน้ากากอนามัยป้องกัน
นอกจากนี้ ดาวเทียมระบบ VIIRS ยังตรวจพบจุดความร้อน Hotspot ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวานนี้ 9 จุด โดยพบในพื้นที่การเกษตร 4 จุด , พื้นที่เขต สปก. 4 จุด ,และในป่าสงวนฯ 1 จุด ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าฝุ่น PM2.5ของจังหวัดนครราชสีมา พุ่งสูงมาทั้งสัปดาห์แล้ว และในเดือนกุมภาพันธ์ 2567 ค่าฝุ่น PM 2.5ของจังหวัดนครราชสีมา พุ่งสูงเกินค่ามาตรฐานเกือบทุกวัน ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการเผาในที่โล่งแจ้งมากสุด ส่วนใหญ่เป็นการลักลอบเผาพื้นที่การเกษตร ในขณะที่ฝุ่นควันพิษจากปัจจัยอื่นๆ อาทิ ควันพิษจากการจราจร โครงการก่อสร้างต่างๆ โรงงานอุตสาหกรรม ก็ส่งผลให้เกิดฝุ่นมลพิษบ้าง แต่จะมีหน่วยงานเข้าไปกำกับดูแลอย่างใกล้ชิดให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้ก่อฝุ่นมลพิษในอากาศ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้สภาพอากาศร้อนแล้ง ฝุ่นจะฟุ้งกระจายได้ง่าย นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ได้สั่งการเน้นย้ำไปยังนายอำเภอทั้ง 32 อำเภอ ให้จับตาและควบคุมการลักลอบเผา โดยออกประกาศคำสั่งจังหวัด ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนและเกษตรกร “ห้ามเผาโดยเด็ดขาด” และให้นายอำเภอตรวจสอบจุดความร้อนในพื้นที่ดูแล วันละ 2 รอบ รอบเช้ากับรอบบ่าย และวอร์รูมลดการเผาในที่โล่ง รายงานให้ทางจังหวัดทราบ โดยหากพบการลักลอบเผาให้รีบลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมกับประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ดำเนินการระงับดับไฟให้เร็วที่สุด เพื่อลดปัญหาฝุ่นควันฟุ้งกระจาย ทำให้มลพิษทางอากาศพุ่งสูง เนื่องจากยังมีการลักลอบเผารายวัน พร้อมกันนี้ ให้บูรณาการความร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ดำเนินการสืบหาตัวผู้กระทำผิด เพื่อนำมาดำเนินการรับโทษสูงสุดตามกฎหมายโดยเร็ว เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงย่างสร้างความเสียหายและสร้างความเดือดร้อน จนเกิดผลกระทบต่อประชาชนในภาพรวม .
//////////////ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา