นักวิชาการ ม.ราชภัฏโคราช ชี้ รัฐบาลสอบตก ไร้ผลงานที่เป็นรูปธรรมในการแก้ปัญหาของประเทศ และหน้าตา ครม.เศรษฐา 2 ทำ ปชช.ผิดหวัง
นครราชสีมา – วันนี้ (3 พฤษภาคม 2567) ดร. อดิศร เนาวนนท์ นักวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้ออกมาเปิดเผยกรณีที่รัฐบาล มีการปรับ ครม. โดยแต่งตั้งโยกย้ายรัฐมนตรีหลายตำแหน่ง ว่า “การปรับ ครม. ในครั้งนี้ ภาพรวมตนมีความคิดไม่ต่างจากประชาชนทั่วไป ที่มีการตั้งคำถามเรื่องความเหมาะสมของรัฐมนตรีที่มีการปรับเปลี่ยนเข้ามาคุมกระทรวงต่างๆ โดยเฉพาะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขที่ให้นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แทนที่ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ซึ่งตนคิดว่า ยังไม่มีความเหมาะสม เนื่องจากทางนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในช่วงที่ผ่านมา ขณะเป็นรัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆ นั้น ผลงานยังไม่โดดเด่น มีภาพจำของการเป็นคนที่พร้อมจะร่วมรัฐบาลกับพรรคการเมืองทุกพรรค
และสำหรับกรณีกระทรวงการต่างประเทศ ที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง หลังจากที่โดนรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน ปรับให้ออกจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี เหลือแค่ตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเท่านั้น ซึ่งจากเรื่องนี้ได้ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างมาก เพราะนายปานปรีย์ฯ นับว่าเป็นบุคคลที่มีผลงานโดดเด่นในเรื่องการประสานงานแรงงานไทยในอิสราเอลได้กลับบ้าน แต่สำหรับภาพรวมของการปรับ ครม.ในครั้งนี้ ตนคิดว่าอย่าเพิ่งไปตัดสินว่าจะผ่านหรือไม่ อย่างไร ต้องรอให้ได้ลงมือทำงานกันก่อน แล้วค่อยตัดสิน
ดร. อดิศรฯ กล่าวต่ออีกว่า สำหรับผลงานของ ครม.นายกเศรษฐาฯ เท่าที่ผ่านมา ยังถือว่าทำงานยังไม่ได้ตามเป้าหมาย และไม่มีผลงานที่จับต้องได้ ส่วนใหญ่เป็นผลงานหรือนโยบายของรัฐบาลในยุคหลายปีที่ผ่านมา ทั้งเรื่องนโยบายบัตรทอง ซึ่งเป็นการต่อยอดเพียงเท่านั้น รวมไปถึง นโยบายโครงสร้างพื้นที่ฐาน ก็มาจากรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งรัฐบาลนี้ไม่ควรนำมาแอบอ้าง “แต่ถ้าไม่อายก็นำมาอ้างได้” หรือแม้แต่นโยบายด้านการลดค่าพลังงานทั้งราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า ก็ลดได้เพียง 3 เดือน ซึ่งมองว่า เป็นการลดเพื่อทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้เท่านั้น ไม่ได้ลดอย่างถาวร
ซึ่งหลังจากมีการปรับ ครม.ใหม่แล้ว ตนอยากเห็น ครม.ชุดใหม่ เร่งแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน โดยมุ่งเน้นไปที่ปัญหาด้านเศรษฐกิจ ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทั้งราคาสินค้าอุปโภคบริโภค ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าน้ำมัน ซึ่งเป็นปัญหาที่ประชาชนได้รับความเดือนร้อน ควรเร่งแก้ไขปัญหาเหล่านี้ในเบื้องต้น และในระยะยาว อยากให้ทางรัฐบาลได้มีการส่งเสริมและพัฒนาคนทั้งในภาคของประชาชน ให้มีคุณธรรมจริยธรรม และมีคุณภาพ รวมไปถึง การส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของนักการเมือง ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศ” ดร.อดิศรฯ กล่าว.
///ประสิทธิ์ ตั้งประเสริฐ//นครราชสีมา