สุวัจน์ ยกย่อง อาชีพครู คือผู้ที่ฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันการศึกษาให้กับเด็กและเยาวชน ให้สามารถต่อสู้กับสถานการณ์ที่ซับซ้อนในอนาคต ยก “พล.อ.ชาติชาย” เป็นครูในชีวิตและการทำงานเพื่อส่วนรวม

เมื่อวันที่ 16 มกราคม ที่ผ่านมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เป็นประธานงานเลี้ยงสังสรรค์วันครู ประจำปี 2567 ณ หอประชุมใหญ่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา โดยมี นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นายประเสริฐ บุญชัยสุข นายกเทศมนตรีนครราชสีมา นายสมศักดิ์ กาญจนวัฒนา หรือกำนันเบ้า รองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ดร.อดิศร เนาวนนท์ อธิการบดี มรภ.นครราชสีมา และทีมสมาชิกสภาเทศบาลนครราชสีมา เข้าร่วมงานด้วย

นายสุวัจน์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นนายกสภา มรภ.นครราชสีมา มา 30 ปี มีความภาคภูมิใจที่ ได้มีโอกาสต้อนรับคณะครู อ.เมือง และ อ.โนนสูง เป็นวันที่มีความหมาย เนื่องจาก มรภ.นครราชสีมา ถือกำเนิดมาจาก โรงเรียนฝึกหัดครูมูลกสิกรรมอยู่ที่ อ.โนนสูง ก่อนจะยกฐานะมาเป็น วิทยาลัยครูนครราชสีมา สถาบันราชภัฏนครราชสีมา จนถึง มรภ.นครราชสีมา ตามลำดับ นับเป็นความครบถ้วนสมบูรณ์ของการเป็นสถานที่ผลิตครูและให้การศึกษามาจนทุกวันนี้
นายสุวัจน์ กล่าวว่า ในวันนี้นอกจากจะเป็นวันครูซึ่งมีความสำคัญแล้ว ยังถือเป็นวันมงคลอย่างยิ่ง เนื่องจากมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา ได้รับโปรดเกล้าพระราชทานชื่อ หอประชุมใหญ่แห่งนี้ว่า “ราชภัฏรังสฤษดิ์” ซี่งแปลว่าราชภัฏผู้สร้าง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และถือเป็นสิริมงคลในวันครู

นายสุวัจน์ กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันครู ขอบคุณครูทุกคน ที่ได้ให้ความรู้ การศึกษา กับอนาคตของชาติ เพราะเด็กวันนี้ คือผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในวันข้างหน้า การศึกษามีความสำคัญมาก ทุกวันนี้เรามีชีวิตอยู่ท่ามกลางวิกฤตของโลก เราต้องเผชิญกับความผันผวนทางเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ พลังงาน เทคโนโลยี ภาวะโลกร้อน โรคติดต่อ ที่มีความเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา แต่เราสามารถรอดวิกฤตต่าง ๆ มาได้เพราะใช้ความรู้ การศึกษา แก้ไขสถานการณ์

“สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ จะสลับซับซ้อนมากขึ้น เป็นสิ่งที่ลูกหลานจะต้องเผชิญ ดังนั้น เด็ก ๆ และเยาวชน จะต้องมีภูมิคุ้มกัน นั่นคือการศึกษา อาชีพครูคือผู้ที่ฉีดวัคซีน การศึกษา เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กและเยาวชนในชาติของเรา ครูจึงเป็นอาชีพที่มีเกียรติและความภาคภูมิใจ ผมขอเป็นกำลังให้คณะครู ทุกท่าน” นายกสภา มรภ.นครราชสีมา กล่าว

นอกจากนี้ นายสุวัจน์ ยังได้ยกครูที่อยู่ในหัวใจมาตลอด 2 ท่าน คือครูประทีป มาร์ติน โกมลมาศ หรือที่รู้จักกันในชื่อ บราเดอร์มาร์ติน ปัจจุบันท่านอายุ 90 ปีแล้วแต่ความจำยังดีอยู่ ตนได้มีโอกาสเรียนกับท่านสมัยที่ท่านเป็นอธิการบดีโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี และเมื่อจบ มศ.3 จากโรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี แล้วไปสมัครเข้าเตรียมทหาร สอบเข้าได้แล้ว แต่คุณพ่ออยากให้เป็นนักธุรกิจจึงสละสิทธิ์ แล้วก็ไปสมัครเรียนที่โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียล บราเดอร์มาร์ติน มาเป็นอธิการบดีที่โรงเรียนเซ็นต์คาเบรียล ท่านได้กรุณารับเข้าเรียน เพราะท่านบอกว่าจำเธอได้ เธอเป็นนักกีฬาเล่นบาสเก็ตบอลเก่ง จึงทำให้ได้มีโอกาสไปเรียนที่โรงเรียนเซนต์คาเบรียล

ส่วนคุณครูอีกท่านคือ ผศ.ช่วง พิทักษ์จำนงค์ ซึ่งสอนตนสมัยเรียน วิศวะ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ราวปี พ.ศ.2519 ท่านได้แจ้งว่า รมว.อุตสาหกรรม อยากชักชวนให้ลูกศิษย์ ไปดูงานเหมืองแร่โปแทชที่โคราช เพื่อให้เห็นว่าใต้ดินมีอะไรที่สามารถนำมาพัฒนาได้บ้าง ซึ่ง รมว.อุตสาหกรรมท่านนั้นคือ พล.ต.ชาติชาย ชุณหวัณ (ยศในขณะนั้น) ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ตนได้รู้จักพล.อ.ชาติชาย ได้มาโคราช และได้มีโอกาสเรียนรู้วิธีคิดการบริหารประเทศ

“ยังจำได้ว่าท่านเมตตาเลี้ยงข้าว 1 มื้อ และให้เงิน 200 บาท บอกให้ไปซื้อของทาน ซื้อของกลับบ้าน ยังประทับใจมาจนกระทั่งวันนี้ไม่ลืม และต่อมาได้ทำงานเป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ร่วมกับพัฒนาเมืองโคราชกับ พล.อ.ชาติชายจนเจริญรุ่งเรือง ซึ่งแม้ว่า พล.อ.ชาติชาย จะไม่ใช่ครูที่สอนมาในวัยเรียน แต่ท่านเป็นครูในชีวิตที่ให้แนวคิดในการทำงานเพื่อส่วนรวม ดังนั้นจึงซาบซึ้งในพระคุณของครูอาจารย์ทุกท่าน” นายสุวัจน์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุวัจน์ และคณะครูได้ร่วมกันร้องเพลง “บ้านเรา” บรรยากาศเป็นไปอย่างอบอุ่น